วันพฤหัสบดี ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568 04:14 น.

ภูมิภาค

“หนึ่งเดียวในโลก” เรือไฟนครพนมสุดอลังการ อ.ท่าอุเทน-ปลาปาก คว้าถ้วยพระราชทาน ปี 2568

วันพุธ ที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 07.33 น.

นครพนม – วันที่ 7 ตุลาคม 2568 บรรยากาศคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันออกพรรษา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เนืองแน่นไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวนับแสนคนที่มาร่วมชมความงดงามของขบวนเรือไฟยักษ์ 12 ลำ จากทั้ง 12 อำเภอ ในงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2568

 

 

เรือไฟแต่ละลำถูกออกแบบและสร้างขึ้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านในแต่ละตำบลและกลุ่มศิลปินเรือไฟ โดยใช้ไม้ไผ่เป็นโครง ตกแต่งด้วยตะเกียงไฟนับหมื่นดวง สะท้อนความสามัคคีและศรัทธาในวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งยังเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง

 

 

การออกแบบปีนี้เน้นลวดลายที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดนครพนม เช่น พระธาตุพนม พญาศรีสัตตนาคราช และสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม–คำม่วน) รวมถึงภาพสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพิ่มภาพ “ทหารหาญ” เพื่อสื่อถึงความกล้าหาญและหัวใจของผู้เสียสละในแนวหลัง


การประกวดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่


    •    ประเภทความคิดสร้างสรรค์ มี 6 อำเภอเข้าร่วม ได้แก่ ศรีสงคราม นาหว้า บ้านแพง ปลาปาก นาแก และวังยาง
    •    ประเภทความสวยงาม มี 6 อำเภอ ได้แก่ โพนสวรรค์ ท่าอุเทน นาทม เรณูนคร ธาตุพนม และเมืองนครพนม

 

 

เรือไฟจากอำเภอศรีสงครามได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยขนาดยาวกว่า 100 เมตร สูง 35 เมตร ถือเป็น “เรือไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ใช้ไม้ไผ่กว่า 8,000 ลำ และตะเกียงโบราณกว่า 25,000 ดวง พร้อมติดตั้งระบบไฟสมัยใหม่เพิ่มสีสันให้ตระการตายิ่งขึ้น ทำให้ปีนี้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาชมงานจำนวนมาก โรงแรม ที่พัก ร้านค้า และร้านอาหารแน่นขนัด คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

 

 

หลังขบวนเรือไฟทั้ง 12 ลำล่องแสดงความงามท่ามกลางแสงจันทร์เต็มดวงเหนือลำน้ำโขง โดยมีเทือกเขาหินปูนฝั่งลาวเป็นฉากหลัง คณะกรรมการได้ประกาศผลการประกวดเรือไฟประจำปี 2568 ดังนี้


    •    ประเภทความสวยงาม รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ อำเภอท่าอุเทน รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อำเภอธาตุพนม รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ อำเภอโพนสวรรค์
    •    ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ อำเภอปลาปาก รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อำเภอศรีสงคราม รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ อำเภอนาแก

 

 

ทั้งนี้ “ศิลปินเรือไฟ” ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ได้แก่ นายชินวัต ชาวนครพนม และนายเฉลียว ชาวนครพนม ผู้ร่วมสร้างสรรค์เรือไฟให้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาและความสามัคคีของชาวลุ่มน้ำโขง

 

หน้าแรก » ภูมิภาค