เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 เกิดเหตุอากาศยานของกองการบินทหารเรือ เกิดขัดข้องขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

พลเรือโทวีรุดม ม่วงจีน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เปิดเผยว่า อากาศยานหมายเลขทีม 3307 สังกัดพลบิน ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ออกปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนทางทะเลเมื่อเวลา 09.30 น. เพื่อป้องกันและตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงการเดินเรือและการรุกล้ำในเขตน่านน้ำไทย บริเวณจังหวัดภูเก็ต เกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ และเกาะตาชัย

ต่อมาในเวลา 11.20 น. ขณะอากาศยานทำการลงจอด นักบินได้ตรวจสอบระบบตามมาตรฐานการบิน ซึ่งเบื้องต้นเป็นไปตามปกติ แต่ระบบล็อกล้อเกิดขัดข้อง ทำให้ล้อกางไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เครื่องบินไถลไปบนรันเวย์ กลายเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการของท่าอากาศยานภูเก็ต

หลังเกิดเหตุ ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะท่าอากาศยานภูเก็ตที่สนับสนุนการเคลื่อนย้ายอากาศยานไปยังลานจอดของทัพเรือภาคที่ 3 จนแล้วเสร็จ ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 จะดำเนินการตรวจสอบสาเหตุโดยละเอียด ทั้งในส่วนของตัวเครื่องและนักบินตามหลักนิรภัยการบิน โดยกองการบินทหารเรือจะเข้าดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ด้านนายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุในเวลา 11.21 น. ได้ประกาศปิดทางวิ่งในเวลา 11.30 น. และดำเนินการตามแผนฉุกเฉินของสนามบิน เพื่อดูแลอากาศยานที่ขัดข้อง จนสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติในเวลา 14.30 น. รวมระยะเวลาจัดการเหตุการณ์ประมาณ 3 ชั่วโมง

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบรวม 70 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศกว่า 30 เที่ยว และมี 2 เที่ยวบินที่ต้องยกเลิก โดยท่าอากาศยานภูเก็ตได้จัดอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และการเดินทางต่อเนื่องอย่างเหมาะสม

หลังการเคลื่อนย้ายอากาศยานแล้ว ไม่พบความเสียหายต่อทางวิ่งหรือระบบอำนวยความสะดวกด้านการบิน ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

พลเรือโทวีรุดมกล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติภารกิจดังกล่าวเป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และช่วยเหลือประชาชนเมื่อได้รับการร้องขอ ยืนยันไม่มีเจตนาให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยทุกหน่วยได้ร่วมดำเนินการแก้ไขและบริหารสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ตามมาตรฐานความปลอดภัยทางการบิน