ภูมิภาค
ชาวปากน้ำระทม! พายุงวงช้าง 100 ปีถล่มบ้านพังยับ สาวเล่านาทีพา 5 ชีวิตวิ่งหนีตาย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ต.ค.2568 หลังเกิดเหตุการณ์พายุงวงช้างพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พังเสียหายไป 5 หลังคาเรือนเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยความเสียหาย ซากปรักหักพัง ของบ้าน บางหลังเสียหายบางส่วน บางหลังเสียหายทั้งหมดต้องทุบทิ้งสร้างใหม่อย่างเดียว นอกจากนี้ยังพบซากชิ้นส่วน สังกะสี หลังคาบ้าน ปลิวไปตกอยู่ตามป่าหญ้าข้างทาง และเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านต้องช่วยกันนำขึ้นมาจากบ่อน้ำ
จากการสอบถาม นายสมชาย อายุ 69 ปี ผู้ประสบภัย เจ้าของบ้านชั้นเดียวสีเหลือง หลังคาสีฟ้า กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้านคนเดียว เห็นลมหมุนมาจากอีกฝั่งของบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงดังสนั่น แล้วแรงลมก็หมุนเป็นเกรียวพัดหอบเอาหลังคาบ้านและสิ่งของอื่น ๆ ปลิวขึ้นฟ้า ตนจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปหลบในห้องนอน แต่ก็ไม่พ้น เวลานั้นคิดว่าไม่รอดแล้ว เกิดมา 70 ปี เพิ่งเคยพบลมรุนแรงขนาดนี้ หลังเกิดเหตุ ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาสำรวจความเสียหาย เพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง ส่วนตนต้องไปอาศัยบ้านญาตินอนชั่วคราวก่อน
น.ส.กันยารัตน์ อายุ 42 ปี ผู้ประสบภัย ที่อยู่หมู่ที่ 3 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นบ้าน 2 ชั้นสีฟ้าที่พังเสียหายทั้งหลัง ได้เล่านาทีระทึกด้วยสีหน้าที่เศร้าและกังวล กล่าววว่า ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้าน 5 คน มีพ่อ น้อง ตนและลูกเล็กอีก 2 คน ตอนนั้น ตัดสินใจพากันวิ่งไปหลบอยู่ที่มุมประตูหน้าบ้านเพราะไปไหนไม่ได้ แต่ก็เป็นการเลือกจุดหลบภัยได้ถูกต้อง ไม่มีอะไรหล่นมาทับ หลังพายุสงบจึงพากันวิ่งหนีออกมา โดยช่วงสงกรานต์เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนเพิ่งเปลี่ยนหลังคาบ้านใหม่จากการถูกแรงลมพัดพังเสียหาย ครั้งนี้มาโดนซ้ำ พายุงวงช้างพัดถล่มอย่างรุนแรง ทำบ้านพังเสียหายทั้งหลัง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป
นางมะลิ (นามสมมติ) แม่ของ น.ส.กันยารัตน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุหลานคนเล็กอายุ 3 ปี หลังวิ่งหนี้เข้าไปหลบในรถกระบะแล้ว ได้เล่าให้ยายฟัง บอกว่า “ หนูรอดตา..ยแล้ว ”
นายนที เซ่งยู่ฮวด อายุ 59 ปี กำนัน ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ครั้งนี้พายุงวงช้างมีความรุนแรงมาก สามารถพัดพาเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่น้ำหนักเป็นตัน ให้ลอยขึ้นในในอากาศได้ โชคดีที่เด็กจำนวน 5-6 คน หนีออกจากบ้าน เข้าไปหลบอยู่ในรถกระบะและไม่ถูกพายุพัดหอบลอยขึ้นไป ทำให้เด็กทุกคนปลอดภัย หลังเกิดเหตุ ตนได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ใช้เครื่องจักรเข้ามายกเครื่องสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อ ช่วยชาวบ้านเก็บทรัพย์สินของใช้ หาที่พักปลอดภัยให้กับชาวบ้าน และประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง อบต.เปร็ง และ อำเภอบางบ่อ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ทราบว่าชดเชยเยียวยาให้ตามความเสียหายจริง หรือ ไม่เกิน 50,000 บาทต่อหลังคาเรือน โดยหลังจากเสร็จพิธีการวันสำคัญของราชการในวันนี้ คาดว่า ช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ เข้าพูดคุยรายละเอียดกับชาวบ้านที่ประสบภัยอีกครั้ง.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- นักเรียน ม.5 พลัดตกตึก 4 ชั้นดับปริศนา 3 ธ.ค. 2568
- สลด! รถขนแรงงานต่างด้าวตกคลองดับ 9 3 ธ.ค. 2568
- เก๋งพุ่งชนจยย.เซลล์สาววัย 37 ดับคาที่บนสะพานแม่กลอง ตร.คุมตัวคนขับเก๋งเป่าแอลกอฮอล์ 3 ธ.ค. 2568
- รวบ “ติย่านยาว” พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ 3 ธ.ค. 2568
- แม่เลี้ยงโวยลั่น ยันไม่เคยทำร้ายเด็กหญิงวัย 12 ปี หลังคนเลี้ยงควายเจอกลางนาสภาพเปลือยเปล่า 3 ธ.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
คอนเสิร์ตเยาวชนยามาฮ่า จุดประกายพลังสร้างสรรค์ 21:03 น.- สาวใบ้ล้มคากองไฟหลังลมชักกำเริบ พี่สาวช่วยทันรอดหวุดหวิด 20:41 น.
- กมธ.นิรโทษที่ดินฯ ลุยภูเก็ต แก้ปัญหาป่าทับคน—ย้ำช่วยชาวบ้านไม่เอื้อทุน 20:01 น.
- ตราดระดมของช่วยใต้ คาราวานน้ำใจมุ่งสงขลาเย็นนี้ 19:20 น.
- 5 หมื่นคนรำบวงสรวง 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฉลอง 228 ปีเมืองขอนแก่น 19:03 น.


