วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568 23:35 น.

ภูมิภาค

ชาวปากน้ำระทม! พายุงวงช้าง 100 ปีถล่มบ้านพังยับ สาวเล่านาทีพา 5 ชีวิตวิ่งหนีตาย

วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.03 น.

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ต.ค.2568 หลังเกิดเหตุการณ์พายุงวงช้างพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พังเสียหายไป 5 หลังคาเรือนเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยความเสียหาย ซากปรักหักพัง ของบ้าน บางหลังเสียหายบางส่วน บางหลังเสียหายทั้งหมดต้องทุบทิ้งสร้างใหม่อย่างเดียว นอกจากนี้ยังพบซากชิ้นส่วน สังกะสี หลังคาบ้าน ปลิวไปตกอยู่ตามป่าหญ้าข้างทาง และเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านต้องช่วยกันนำขึ้นมาจากบ่อน้ำ

จากการสอบถาม นายสมชาย อายุ 69 ปี ผู้ประสบภัย เจ้าของบ้านชั้นเดียวสีเหลือง หลังคาสีฟ้า กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้านคนเดียว เห็นลมหมุนมาจากอีกฝั่งของบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงดังสนั่น แล้วแรงลมก็หมุนเป็นเกรียวพัดหอบเอาหลังคาบ้านและสิ่งของอื่น ๆ ปลิวขึ้นฟ้า ตนจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปหลบในห้องนอน แต่ก็ไม่พ้น เวลานั้นคิดว่าไม่รอดแล้ว เกิดมา 70 ปี เพิ่งเคยพบลมรุนแรงขนาดนี้ หลังเกิดเหตุ ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาสำรวจความเสียหาย เพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง ส่วนตนต้องไปอาศัยบ้านญาตินอนชั่วคราวก่อน

น.ส.กันยารัตน์ อายุ 42 ปี ผู้ประสบภัย ที่อยู่หมู่ที่ 3 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นบ้าน 2 ชั้นสีฟ้าที่พังเสียหายทั้งหลัง ได้เล่านาทีระทึกด้วยสีหน้าที่เศร้าและกังวล กล่าววว่า ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้าน 5 คน มีพ่อ น้อง ตนและลูกเล็กอีก 2 คน ตอนนั้น ตัดสินใจพากันวิ่งไปหลบอยู่ที่มุมประตูหน้าบ้านเพราะไปไหนไม่ได้ แต่ก็เป็นการเลือกจุดหลบภัยได้ถูกต้อง ไม่มีอะไรหล่นมาทับ หลังพายุสงบจึงพากันวิ่งหนีออกมา โดยช่วงสงกรานต์เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนเพิ่งเปลี่ยนหลังคาบ้านใหม่จากการถูกแรงลมพัดพังเสียหาย ครั้งนี้มาโดนซ้ำ พายุงวงช้างพัดถล่มอย่างรุนแรง ทำบ้านพังเสียหายทั้งหลัง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป

นางมะลิ (นามสมมติ) แม่ของ น.ส.กันยารัตน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุหลานคนเล็กอายุ 3 ปี หลังวิ่งหนี้เข้าไปหลบในรถกระบะแล้ว ได้เล่าให้ยายฟัง บอกว่า “ หนูรอดตา..ยแล้ว ”

นายนที เซ่งยู่ฮวด อายุ 59 ปี กำนัน ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ครั้งนี้พายุงวงช้างมีความรุนแรงมาก สามารถพัดพาเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่น้ำหนักเป็นตัน ให้ลอยขึ้นในในอากาศได้ โชคดีที่เด็กจำนวน 5-6 คน หนีออกจากบ้าน เข้าไปหลบอยู่ในรถกระบะและไม่ถูกพายุพัดหอบลอยขึ้นไป ทำให้เด็กทุกคนปลอดภัย หลังเกิดเหตุ ตนได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ใช้เครื่องจักรเข้ามายกเครื่องสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อ ช่วยชาวบ้านเก็บทรัพย์สินของใช้ หาที่พักปลอดภัยให้กับชาวบ้าน และประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง อบต.เปร็ง และ อำเภอบางบ่อ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ทราบว่าชดเชยเยียวยาให้ตามความเสียหายจริง หรือ ไม่เกิน 50,000 บาทต่อหลังคาเรือน โดยหลังจากเสร็จพิธีการวันสำคัญของราชการในวันนี้ คาดว่า ช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ เข้าพูดคุยรายละเอียดกับชาวบ้านที่ประสบภัยอีกครั้ง.

หน้าแรก » ภูมิภาค