เมื่อวันที่ 21 ต.ค.68 บรรยากาศกินเจวันแรกในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ระหว่างวันที่ 21-29 ต.ค.68 เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากตื่นตัวต้อนรับเทศกาลกินเจต่างพากันเลือกซื้ออาหารเจไว้รับทาน โดยที่ “ร้านคุณต้อย” ชั้น G ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ได้จัดเตรียมร้านค้า ติดธงสีเหลืองเทศกาลกินเจ และเตรียมอาหารเจจำนวนมากไว้คอยบริการ เพื่อให้ผู้ที่ทานเจในปีนี้ร่วมทำความดีทั้งกาย วาจาใจ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างทยอยเข้ามาเลือกซื้ออาหารเจรับทานกันอย่างต่อเนื่อง

น.ส.อัจฉรา แซงวงษ์ อายุ 66 ปี เจ้าของร้านคุณต้อย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของเทศกาลกินเจ ลูกค้าเยอะมาก ผลตอบรับดีมาก อาหารเจที่ร้านเรามีประมาณ 20 - 30 อย่าง เราขายราคาปกติ ไม่แพง เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านก็คือ ข้าวผัดไรซ์เบอรี่ผัดแปะก๊วย และก็โปรตีนกรอบ แกงเขียวหวานฟักทอง เขียวหวานยอดมะพร้าว อันนี้ก็อร่อย และก็ จ๊อเจ เผือกทอด หัวไชเท้าทอด ใครอยากทานเชิญแวะมาที่ร้านป้าต้อย ที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ตได้ค่ะ

ขณะที่ ร้านเรือนทองบ้านมังสวิรัติ ในเขตเทศบาลนครหัวหิน ก็มีประชาชนต่างพากันซื้ออาหารเจ ขนมเจ เครื่องดื่มเจ รับทานกันเป็นจำนวนมาก โดย น.ส.ปิยพร สุวัฒน์ศุภกุล อายุ 45 ปี เจ้าของร้านกล่าวว่า ทางร้านเปิดขายอาหารเจมานานเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว วันนี้เป็นวันแรกค่อนข้างคึกคัก มีลูกค้าหน้าใหม่ค่อนข้างเยอะ ตอนนี้อาหารเจไม่ใช่แค่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่เป็นอาหารในการรักสุขภาพ พอพูดถึงสุขภาพก็มีประชาชนมาทานเรื่อย ๆ ลูกค้ามากันเรื่อย ๆ อาหารเจวันนี้มีประมาณ 50 กว่าอย่าง มีหลากหลายเมนู ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน เพราะฉะนั้นมาที่นี่ครบทีเดียวเลย อยากจะให้มาลองชิมดู เราจะมี กะหล่ำปลีตุ๋น กาน่าฉ่าย ซึ่งเราทำเอง เราเคี่ยวในน้ำมันงา ก็จะมีน้ำพริกที่เราทำเองเป็นน้ำพริกไตปลา ถ้าใครชอบรสชาติจัดจ้านแนะนำเลย เทศกาลเจปีนี้อยากให้ลองมาทานอาหารเจ รสชาติไม่จำเจแน่นอน อาหารมีหลากหลาย ราคาจับต้องได้ ข้าวราดอย่างเดียวเริ่มต้นที่ 30 บาท เชิญทุกคนมาลองทานอาหารเจที่ร้านเรือนทอง รสชาติไม่เหมือนเดิมแน่นอนค่ะ

ด้าน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ ในช่วงเทศกาลกินเจวันแรกเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะช่วงคาบเกี่ยววันหยุดนักขัตฤกษ์วันปิยมหาราช มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมา นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศแห่งพลังศรัทธาตามวิถีจีนแล้ว ซึ่ง ‘หัวหิน’ มีร้านอาหารเจทุกระดับอย่างมีคุณภาพรองรับนักท่องเที่ยว ตอบโจทย์ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว ประเมินว่านักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งใช้สิทธิตามมาตรการ "คนละครึ่งพลัส" จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวพื้นที่หลักหัวหิน นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยว กระจายรายได้จากการท่องเที่ยวลงไปยังท้องถิ่นชุมชน โหมกระแสก่อนเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวไฮซีซันช่วงปลายปี 2568.