วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:57 น.

ภูมิภาค

คนตรังคึกคัก! แห่ผูกปิ่นโตศาลเจ้าพ่อหมื่นรามทะลุ 1,300 สาย สะท้อนเศรษฐกิจฝืดแต่ใจศรัทธาแรง

วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 19.25 น.

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม เขตเทศบาลนครตรัง พบประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมถือศีลกินเจจำนวนมาก เดินทางมารับปิ่นโตสำหรับมื้อเที่ยงที่ผูกไว้กับศาลเจ้า รวมถึงรับประทานอาหารในโรงทาน ซึ่งปีนี้บรรยากาศคึกคักกว่าทุกปีอย่างเห็นได้ชัด เมนูอาหารเจมื้อเที่ยง ได้แก่ ต้มซุปเจ ผัดฟักทองเจ เกาหยุกเจ และข้าวสวย
ประชาชนบางรายเผยว่า ปีนี้เลือกผูกปิ่นโตกับศาลเจ้าเพราะราคาย่อมเยา เพียง 700 บาทตลอด 9 วัน เฉลี่ยมื้อละราว 25 บาท ถูกกว่ารับประทานตามร้านอาหารทั่วไปเกือบเท่าตัว

 


นายไชยอนันท์ หรือ “โกฉ้าย” อายุ 75 ปี ผู้ดูแลและควบคุมอาหารโรงทานศาลเจ้าพ่อหมื่นราม เปิดเผยว่า โรงทานเปิดบริการอาหารฟรีทุกมื้อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจิตศรัทธาของผู้ร่วมงานว่าจะร่วมบริจาคมากน้อยเพียงใด

โกฉ้ายกล่าวว่า ปีนี้มียอดผู้ผูกปิ่นโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและกระแสคนหันมาทานอาหารเจมากขึ้น โดยปิ่นโตชุดละ 700 บาท ครอบคลุม 9 วัน 3 มื้อต่อวัน รวม 27 มื้อ แต่ละมื้อประกอบด้วยอาหาร 3 เมนู คือ น้ำแกง 1 อย่าง และเมนูผัด 2 อย่าง บางวันเป็นหมี่ผัด โดยใช้ผักสดเฉลี่ยเมนูละ 1 ตัน หรือรวมมื้อละประมาณ 3 ตัน

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า มีผู้ผูกปิ่นโตกับศาลเจ้าพ่อหมื่นรามกว่า 1,300 สาย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ผู้มารับประทานอาหารในโรงทานมื้อเที่ยงเฉลี่ยกว่า 3,000 คนต่อวัน

 


โกฉ้ายกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเทียบกับปีก่อน จำนวนผู้ผูกปิ่นโตและผู้มารับประทานในโรงทานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสะท้อนทั้งภาวะเศรษฐกิจและความตื่นตัวของประชาชนในการถือศีลกินเจ โดยเฉพาะที่ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม ยอดผู้ร่วมงานไม่เคยลดลงเลย
ด้านนายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าภาคใต้ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินว่า เทศกาลถือศีลกินผักปีนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 4.1 หมื่นล้านบาททั่วภาคใต้ แม้เศรษฐกิจไม่ดี แต่กิจกรรมทำบุญยังคงได้รับความนิยม เช่น การผูกปิ่นโตและการบริจาคสิ่งของให้ศาลเจ้า

 

 

ปีนี้ยังมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนเดินทางมาร่วมแสวงบุญในหลายจังหวัดภาคใต้ ทั้งระนอง ภูเก็ต กระบี่ สงขลา และตรัง ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 7,000 ล้านบาท

นายสลิลกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น “คนละครึ่ง” และโครงการท่องเที่ยวไทยในเมืองหลัก-เมืองรอง รวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวและการจัดสัมมนา ล้วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ฟื้นตัวได้ดี

 

หน้าแรก » ภูมิภาค