เมื่อวันที่ 24 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีพบเพจโดยผู้ใช้ชื่อ Ku Choe ได้โพสต์ภาพ 2 ภาพ  ภาพแรกเป็นภาพของผู้ใช้กำลังนั่ง  พร้อมข้อความระบุว่า  …  ประกาศถึงพี่น้องชาวท่าตูมขณะนี้มีการแจกเงินซื้อเสียงในการเลือกตั้ง นายก อบต. ท่าตูม หากท่านได้รับเงินหรือมีหลักฐานการแจก เช่น ธนบัตร ใบเสร็จ คลิปวิดีโอ ภาพถ่าย ข้อความแชท หรือพยานบุคคล กรุณาแจ้งให้ผมทราบ ทางผมจะดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งโปร่งใสและท่าตูมเป็นที่น่าอยู่ ผู้ให้หลักฐาน (หัวคะแนน/ผู้แจ้ง) ที่มีหลักฐานชัดเจน จะได้รับค่าตอบแทนตามข้อตกลง (ติดต่อใน inbox)

ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นความลับ รีบทักมาได้เลย จำนวนจำกัด!  ผมสำหรับบุคคลให้ 50,000-100,000บาท และสำหรับหัวคะแนน 300,000-1,000,000 บาท รีบหน่อย รับจำนวนจำกัด ได้มาหลายคนละ ก่อนเงินผมหมดนะ ช่วยกันแชร์และบอกต่อด้วยครับเพื่อท่าตูมเรา ...

ภาพที่ 2 เป็นภาพยืนประกอบป้ายโปสเตอร์ในการประกาศให้รางวัล  แก่คนแจ้งเบาะแสซื้อเสียง –ขายสิทธิการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ต.ค.68 นี้ ซึ่งสอดคล้องกับภาพแรก   พร้อมระบุข้อความว่า  …   อ้าวชิหายละใครขึ้นป้ายผม สรุปจะเอาเงินผมให้ได้เลยใช่ปะใหนๆก็ขึ้นป้ายให้ก็ยังยืนยันจ่ายจริงเหมือนเดิมครับ เพื่อท่าตูมเรา …

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อและขอสัมภาษณ์กรณีดังกล่าว  ทราบชื่อผู้ใช้ต่อมาชื่อเสี่ยโจ้ อายุ 42 ปี กล่าวว่า ก่อนโพสต์ข้อความดังกล่าวผ่านสื่อโซเชียลวันนั้นตนอยู่ต่างจังหวัดไปทำบุญที่ลำปางมีการแจ้งมาหลายคนว่ามีการรับเงิน-แจกเงินหัวละ 1,000บาท คนที่ได้จำนวนมาก  ตนเองนั้นไม่ได้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  ในวันที่ 26 ต.ค.68นี้   แต่ตนเองมีธุรกิจบริษัทฯในพื้นที่ ต.ท่าตูมเสียภาษีให้กับพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม(อบต.) จึงอยากให้เกิดความโปร่งใสสำหรับผู้ที่จะมาทำหน้าที่บริหารท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์มากที่สุด 

เพราะตลอดช่วงนี้มีข่าวในการตรวจสอบเรื่องต่าง ๆมากมายขององค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม(อบต.) จึงอยากให้พื้นที่ ที่ตนเองเสียภาษีมีความโปร่งใสสูงสุด เกิดประโยชน์แก่ประชาชนแท้จริง ซึ่งในสิ่งที่เป็นข่าวดังกล่าวนี้จะแก้ไขอย่างไรตอนนี้แม้เรื่องดังกล่าวจะยังไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ ก็ขอให้ตรวจสอบกันไป 

แต่ในเรื่องการเลือกตั้งฯ เมื่อศึกษากฎหมายการเลือกตั้งฯเห็นว่า กกต. มีรางวัลนำจับการทุจริตการซื้อสิทธิ์-ขายเสียง  ที่เราสามารถแจ้งเบาะแสเป็นรางวัลนำจับเราสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเอกชนได้ไหม  จึงได้โพสต์ลงสื่อโซเชียลไปในการให้ประชาชนที่เห็นได้อ่านตื่นตัวระมัดระวังไม่ให้ซื้อเสียง-ขายสิทธิ์ หากพบเบาะแสในการทุจริตในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) ให้แจ้งตนเองดังกล่าว พบหลังมีประกาศไปได้คนแจ้งโทรมาสอบถามมานับ 100 ราย  

และได้พบหลังโพสต์มีคนกล้าหาหลักฐานแจ้งหลักฐานมีช่องทางติดต่อชัดเจนทำการแจ้งมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ การโอนเงิน การแจกเงินเป็นกลุ่ม มีหัวคะแนนหลายคนโทรมาบางครั้งหลักฐานไม่เข้าก็ไม่เอา หลักฐานเข้าก็แนะนำไป 

 สิ่งที่ตนเองทำคิดว่าไม่เป็นผลเสียไม่มีความเสียหายไม่กลั่นแกล้งใครไม่เสียหายแก่ใคร  เปิดรับการแจ้งทุกเบอร์เป็นสิ่งที่ดีกับตำบลท่าตูมให้การซื้อสิทธิขายเสียงน้อยลง   แม้แต่วันนี้ยังมีการแจกเงินกันอยู่รายละ 1,000 บาท  แต่หน่วยราชการอาจเข้ามาควบคุมไม่ได้เป็นการสมยอมของทั้ง 2 ฝ่ายอยากให้มีการตรวจสอบกันอย่างจริงจัง  เสี่ยโจ้ กล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป  เวทีการเมืององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่ตั้งในย่านนิคมอุตสาหกรรม 304 ที่มีโรงงานมากกว่า 1,000 แห่ง มีงบสนับสนุนและจัดเก็บรวมมากกว่า 200 ล้าน / ปี ภายหลังจากนายโยธิน พงษ์อ้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) ได้ลาออกก่อนครบวาระ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปราจีนบุรี (กกต.) ได้ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม ประกาศให้มีการรับสมัครเลือกตั้ง ระหว่าง วันที่ 15 กันยายน 2568 ถึงวันที่19 กันยายน 2568 และ กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 เป็น "วันเลือกตั้ง"

มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) รวม 3 คน ได้แก่ เบอร์ 1 นายอนุชิต ศิลปะกิจโกศล (หมอ) อายุ 61 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) และปัจจุบันเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัยมังกร , เบอร์ 2 นายโยธิน พงษ์อ้อ (แบ๊งค์) อายุ 44 ปี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม (อบต.) และ เบอร์ 3 นายคณิณพัชญ์ อัมพุชศศิภัณ (ต้อง) อายุ 46 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว

การหาเสียง เต็มไปด้วยความคึกคักในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการหาเสียงสมัยใหม่ผ่านทางโลกออนไลน์-โซเชียลคึกคักสูงสุด!ที่จะเข้าถึงประชาชน ทั้งผ่านเพจ, เฟซบุ๊ก, ติ๊กต็อก และ รวมถึงรูปแบบการหาเสียงดั้งเดิม อาทิ การตั้งป้ายโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ตามถนน ตามแยก ตรอกซอกซอยให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นเด่นชัด สะดุดตา ในการนำเสนอนโยบายต่าง ๆ และการลงพื้นที่เข้าหาประชาชนรับทราบปัญหาพบปะพูดคุยเคาะประตูบ้านแจกแผ่นพับแนะนำตนเองทีมงาน และวิ่งรถกระจายเสียงประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงของทั้ง 3 ผู้สมัคร