วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568 03:26 น.

ภูมิภาค

เชื่ออาถรรพ์! สังเวยเรือล่ม 2 ศพ ผิดผีแม่ย่านาง

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.30 น.

เหตุเรื่อแข่งล่มกลางลำน้ำมูล ชาวบ้านเชื่อทำผิดผีแม่ย่านางจากเหตุการณ์เรือเทพบัลลังก์ทองล่มกลางลำน้ำมูล ขณะเข้าร่วมการแข่งขันเรือยาวท้องถิ่น  ในอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์  จนเป็นเหตุให้ฝีพายชายหนุ่ม 2 คนจมหายไปกับกระแสน้ำ โดยเหตุเกิดตั้งแต่ วันที่ 25  ต.ค.68 ที่ผ่านมา

วันที่ 27  ต.ค.2568  ทางทีกู้ภัยพบร่างผู้สูญหายทั้ง 2 รายแล้ว  โดยคนแรกพบลอยมาติดชายฝั่งพื้นที่บ้านบัลลังก์ซึ่งเป็นล้านเกิดของผู้เสียชีวิต  ห่างจากจุดเรือล่มประมาณ  4  กิโลเมตร   ส่วนศพที่ 2 พบอยู่พื้นที่บ้านม่วงมูน  ต.หนองบัว อ.ท่าตูม  จ.สุรินทร์  อยู่ห่างจากจุดเรือล่มประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร สภาพร่างกายลอยอึดไปติดกับกอไผ่ ก่อนที่ จนท.กู้ภัยจะนำร่างมาขึ้นฝั่งที่วัดโพธิ์บัลลังก์ ซึ่งเป็นวัดในบ้านเกิดของฝีพายทั้งสองท่ามกลางความเศร้าสลดของพ่อแม่และบรรดาญาติ ๆ ของทั้งสองคน

อย่างไรก็ตามจากการเสียชีวิตของฝีพายทั้งสองนี้ ชาวบ้านมีการพูดคุยกัน (ภาพชาวบ้านเล่าเป็น ทั้งภาษาไทย และภาษาเขมร)  ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาทางญาติ ๆ และทีมเรือ ได้ร่วมกันประกอบพิธีนำเรือที่ล่มพายแห่ขอขมาแม่ย่านาง เพื่อขอเปิดทาง  โดยมีความเชื่อว่าเหตุเรือล่มเกิดจากแม่ย่านางโกรธไม่พอใจที่บวงสรวงหัวเรือแล้วไม่ยอมเรียกชื่อเรือท้าวศรีสุนทรหนุ่มเมืองช้างด้วย  และ 1 ในผู้เสียชีวิต ได้นำสติกเกอร์ชื่อเทพบัลลังก์ทอง ไปปิดทับชื่อเรือท้าวศรีสุนทรหนุ่มเมืองช้างไว้ด้วย  ทำให้ แม่ย่านางไม่พอใจ ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิตดังกล่าว (จากคำบอกเล่าคุณตาที่สื่อสารด้วยภาษาเขมร)

ด้านนายใส  ประภาสัย  หัวหน้าทีมเรือ อายุ 55  ปี  บ้านเลขที่ 86/1  ม.10 บ้านบัลลังก์  ต.ท่าตูม กล่าวว่า เรือล่มครั้งนี้มาจากอุบัติเหตุเพราะช่วงนั้นมีคลื่นมากระแทกขณะเรือกำลังกลับลำ ทำให้เกิดการพลิกคว่ำ ส่วนความเชื่อเรื่องเราต้องเชื่อไว้ก่อน แต่ในช่วงนั้นเรือเข้าเส้นชัยกันแล้วฝีพายทุกคนก็เร่งพายเต็มที่ทำให้เกิดอาการหมดเรี่ยวแรง บางคนถึงกับร้องว่าไม่ไหวแล้ว ขณะที่การช่วยเหลือก็เป็นไปอย่างยากลำบากกว่าเรือกู้ชีพจะมาถึง ซึ่งตนก็แข่งขันเรือมา 40 ปี ก็ไม่เคยพบเหตุการณ์ลักษณะนี้ ตนอยากฝากถึงผู้จัดการแข่งขันควรมีมาตรการในการป้องกันภัยให้มากกว่านี้ จากเหตุการณ์นี้ตนอาจยุติบทบาทการเป็นฝีพายและหัวหน้าทีมตลอดชีวิต

ขณะที่ศพของฝีพายทั้งสอง คือน้องพร กับน้องจิ  ทางพระครูสุตโพธิสุนทร  เจ้าอาวาสวัดโพธิ์บัลลังก์  กล่าวว่า ได้นำร่างทั้ง 2 ไปตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่บนศาลาเดียวกันเพื่อให้สะดวกกับคณะผู้ที่จะมาดูแลและให้การช่วยเหลือจะได้ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา  เพราะทั้ง 2 คือ ลูกหลานของคนบ้านบัลลังก์

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวสอบถามได้ความว่า ชื่อเรือเทพบัลลังก์ทอง  มาจากชื่อเจ้าพ่อบัลลังก์ทอง ซึ่งมีศาลตั้งไว้ที่หน้าวัดโพธิ์บัลลังก์ เป็นศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนอย่างกว้างขวาง
 

หน้าแรก » ภูมิภาค