วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 20:14 น.

ภูมิภาค

ป.ป.ช.ตรัง ตรวจพบสถานสอนท่องจำอัลกุรอาน เปิดสอนผิดกฎหมาย

วันศุกร์ ที่ 07 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 20.32 น.

วันที่ 7 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง มอบหมายให้ นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต และเจ้าหน้าสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่จัดการเรียนการสอนจำนวน 2 แห่ง ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ 5 ต.ปะเหลียน และ ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ 1 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยทั้ง 2 แห่งอยู่ห่างกันประมาณ 1.2 กม. โดยมีเจ้าของเป็นคนละคนกัน

ภายหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า มีการจัดการเรียนการสอนนักเรียน ในลักษณะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้ประสานแจ้ง ดร.อรทัย เกิดภิบาล ศึกษาธิการ จ.ตรัง และคณะ นายพงศกร ชูเลื่อน ปลัด อ.ปะเหลียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องที่ เข้าร่วมลงพื้นที่

โดยสถานที่แรก เป็นสถานที่มีรั้วรอบขอบชิด มีประตูรั้วถึง 2 ชั้น เข้าไปภายในพบว่าเป็นอาคารสำหรับจัดการเรียนการสอน ลักษณะมีการอยู่อาศัยเป็นประจำแบบหญิงล้วน พบมี น.ส.ระพีพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ระบุว่าเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ และพบเห็นนักเรียนจำนวน 4 คน อายุระหว่าง 15-18 ปี เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี สตูล และสงขลา เข้ามาเรียนในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งไม่พบเด็กที่อยู่ในวัยเรียนภาคบังคับ และมีการจ้างบุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นครูมาสอน ในเงินเดือน 7,000 บาท โดยเรียนวันละ 3 เวลา และเปิดมาประมาณ 1 ปีกว่าๆ

ต่อมามีการเข้าตรวจสอบสถานที่ 2  เปิดมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว มีนักเรียนชายล้วน มีพื้นที่และอาคารที่มากกว่าแห่งที่ 1 พบมีผู้ดูแลเป็นเพศชาย สภาพพื้นที่พบว่า ลักษณะของสถานศึกษามีการจัดการเรียนการสอนในลักษณะท่องคำภีร์อัลกุรอาน หรือฮาฟิส เต็มรูปแบบเช่นเดียวกัน มีห้องเรียนเดียวเรียนร่วมกันทุกช่วงวัยอายุ มีนักเรียนสวมชุดยุนิฟอร์มตามแบบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาควบคู่สามัญ มีการเก็บค่าเทอมรายภาคเรียน มีครูผู้สอน และมีเด็กพักอาศัยในสถานที่เดียวกันลักษณะ “โรงเรียนกินนอน” โดยนักเรียนส่วนใหญ่มาจากหลายจังหวัดทางภาคใต้ เช่น จ.ตรัง กระบี่ สตูล สงขลา สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ฯลฯ

ส่วนเอกสารการอนุญาต ผู้ดูแลสถานศึกษาไม่สามารถแสดงหลักฐานการขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเอกชนได้ ทั้งในรูปแบบในระบบหรือนอกระบบตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 และไม่สามารถแสดงชื่อ-นามสกุลจริงตามกฏหมาย ของนักเรียนทุกคนได้ สภาพความเป็นอยู่ของนักเรียน มีนักเรียน ท่องจำ ‘คำภีร์อัลกุรอาน’  เรียนรวมในห้องเดียวกันกว่า 100 กว่าคน พบเด็กบางรายมีอาการป่วยโดยไม่ได้รับการดูแลทางสุขภาพอย่างเหมาะสม บางคนพักอยู่ในห้องเรียนโดยไม่มีพื้นที่ปฐมพยาบาลหรือพักฟื้นแยกต่างหาก ส่วนประเด็นการศึกษาภาคบังคับ ปรากฏมีนักเรียนที่มีการอยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ ที่อายุน้อยกว่า 15 ปี มีภูมิลำเนาจาก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และนักเรียนอีกจำนวนหลายคน

การบริหารคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาไม่สามารถจัดแสดงเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการคุณภาพการศึกษาได้อย่างครบถ้วน อาทิ เอกสารการวัดผลและประเมินผลการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานหลักสูตร รวมถึงหลักฐานเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และกระบวนการรับสมัครนักเรียน ตลอดจนหลักฐานการสำเร็จการศึกษาของผู้เรียน ตามการอ้างเรียนสายสามัญทางไกลหลักสูตร CYF จ.นครพนม ที่กระทรวงฯรับรอง จากการตรวจสอบพบเพียงห้องเรียนเล็ก ๆ มีเก้าอี้สองตัว เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ไม่มีมาตรฐาน และไม่สามารถแสดงหลักฐานการลงทะเบียนเรียนในระบบ CYF ได้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามสถานบันแห่งที่ 2 นี้ เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย ศึกษาธิการ จ.ตรัง เคยลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว สืบเนื่องจากมีการเข้าตรวจสอบโรงเรียนเอกชนสอนสายสามัญควบคู่ศาสนาแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ต่อมาจึงตรวจพบว่ามี “นักเรียนผี” ที่มีชื่ออยู่ในโรงเรียน และได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล แต่ไม่พบว่ามีตัวตนอยู่ในโรงเรียนจริง จนต่อมาสืบทราบว่านักเรียนจำนวนดังกล่าวนั้น ได้ถูกส่งมาเรียนสอนท่องจำ คำภีร์อัลกุรอานเต็มรูปแบบ หรือฮาฟิส ที่แห่งนี้ โดยขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้ามาตรวจสอบที่แห่งนี้แล้วเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา และพบว่ามีนักเรียนที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ ที่อายุน้อยกว่า 15 ปี มีจำนวนหลายคน

ด้าน นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต กล่าวว่า ในวันลงพื้นที่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสำนักการศึกษาเอกชน ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบซ้ำซ้อนของรายชื่อนักเรียน หรือกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งที่มีข้อมูลบ่งชี้ถึงความผิดปกติ การดำเนินการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลกระทบทั้งในเชิงการศึกษาของเด็กและความมั่นคงของพื้นที่ เพราะเป็นสถานศึกษาที่ไม่อยู่ในระบบการควบคุมของรัฐ และเด็กหลายรายหลุดออกนอกระบบการศึกษา

จากการตรวจสอบภาพรวม พบว่าการดำเนินการของสถานศึกษาดังกล่าวมีลักษณะเข้าข่ายโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่ไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งตามกฎหมาย ดังนี้การดำเนินการของสถานศึกษาดังกล่าวเข้าข่าย “โรงเรียนเอกชนนอกระบบ” ตามนิยามของ มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 ซึ่งต้องได้รับอนุญาตก่อนดำเนินการ และต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลและตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งโรงเรียนนี้ไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบได้ว่าได้มีการขออนุญาตถูกต้อง

ภายหลังจากนี้ ทาง ป.ป.ช. ก็ต้องประสานข้อมูล ไปยังศึกษาธิการจังหวัด ให้ตรวจสอบหากพบเป็นการจัดตั้งโรงเรียนโดยไม่ขออนุญาตให้ถูกต้อง หรือยังไม่ได้อนุญาตอย่างชัดเจนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ ดร.อรทัย เกิดภิบาล ศึกษาธิการ จ.ตรัง กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ศูนย์การเรียนก็เป็นการศึกษาอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะเปิดโอกาสให้ เด็กที่ไม่มีโอกาส เข้าไปเรียนในระบบ หรือเด็กที่ฐานนะยากจน ครอบครัวไม่พร้อม เข้าเรียนการศึกษาทางเลือกแบบนี้ถือว่ายังอยู่ในขอบของระเบียบที่ดำเนินการได้

การขอเปิดของที่แห่งนี้ ถ้าขอจดเป็นโรงเรียนยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ เนื่องจากการขอจดทะเบียนโรงเรียนในระบบและนอกระบบ จะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง แต่ที่แห่งนี้ไม่ได้รับเด็กที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับอย่างเดียวมาอยู่ โดยมีเด็กหลากหลาย ซึ่งเป็นการรวมของทางศาสนาที่มาท่องคำภีร์อัลกุรอาน แต่เรามาดูในส่วนของเด็กที่ไม่จบการศึกษาภาคบังคับ ขั้นตอนต่อไปหากที่นี่ต้องการจดทะเบียนเป็นสถานศึกษา ในระบบ หรือเป็นศูนย์การเรียนต้องไปดูว่าระเบียบเปิดโอกาสให้อย่างไร ก็มีการพยายามอยู่

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีการระงับยับยั้งหรือไม่ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ใดๆ ในการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ดร.อรทัย ตอบว่า “ต้องมองว่าการเรียนตามหลักความเชื่อทางศาสนาเป็นเรื่องที่เปาะบาง เราก็ไม่อยากจะปิดกั้นโดยสิ้นเชิง ให้กับคนที่เขาต้องอาศัยหลักศาสนาในการดำรงชีวิต เราก็ต้องเปิดโอกาสให้คนทุกคน ในการการนับถือศาสนา ทำกิจกรรมทางศาสนา ตามความเชื่อของตน แต่ในส่วนที่เราต้องเข้าไปดูแลคือ ความเป็นอยู่ ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก็ต้องมีหลายหน่วยที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องทั้ง กอ.รมน. ท้องถิ่น และปกครอง ต้องเข้ามาช่วยกันดูแล” ดร.อรทัย กล่าวทิ้งท้าย
 

หน้าแรก » ภูมิภาค