อำเภอเมือง / วันที่ 7 ธันวาคม 2568 ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนหลายอำเภอของจังหวัดศรีสะเกษต้องอพยพหลังกองทัพไทยและกัมพูชาปะทะกันที่พื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน อำเภอกันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ โดยกองทัพไทยแจ้งว่า เมื่อเวลา 14.16 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงก่อน ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้การยิง การปะทะดำเนินต่อเนื่องจนฝ่ายกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.)

ในเวลา 14.50 น. การปะทะยุติลง แต่ยังมีแนวโน้มว่าจะขยายวงกว้าง จึงมีการเตือนประชาชนในอำเภอชายแดน 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ให้ดำเนินการอพยพไปยังศูนย์พักพิง เพื่อความปลอดภัย

การปะทะในเวลา 14.16 น. เป็นการยิงต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลา 14.50 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎการปฏิบัติการ (ROE) เพื่อรักษาความปลอดภัย หน่วยกู้ภัยและทหารได้ทำการลำเลียงผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล พบว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ ส.อ.อนุชาติ เรือนคำ และ พลฯพรชัย จำปาจุม

ขณะเดียวกัน เพจลุงเนวิน ได้ประกาศว่า สนามช้างจังหวัดบุรีรัมย์พร้อมรับผู้อพยพจากพื้นที่ขัดแย้ง โดยชาวบ้านจากอำเภอบ้านกรวดได้เร่งขนย้ายข้าวของมาอพยพที่สนามช้าง แต่เกิดการติดขัดที่ปั๊มน้ำมัน เนื่องจากปั๊มขนาดเล็กหยุดให้บริการ ทำให้รถติดอยู่ที่ปั๊มใหญ่ หน่วยกู้ภัยหลายหน่วยได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน

นางบุญทม เทพแก้ว ชาวบ้านจากตำบลสายตะกู อ.บ้านกรวด กล่าวว่า หลังจากได้รับการแจ้งเตือนให้ขอให้ทำการอพยพในทันที ทั้งตนและครอบครัวได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว และหวังว่าเหตุการณ์จะเป็นการอพยพครั้งสุดท้าย

สำหรับการอพยพในอำเภอบ้านกรวด มีการออกคำสั่งให้ประชาชนใน 6 ตำบล ได้แก่ สายตะกู, จันทบเพชร, บึงเจริญ, หนองไม้งาม, บ้านกรวด และปราสาท รวมทั้งสิ้น 35,000 คน คาดว่าผู้อพยพที่มาที่ศูนย์พักพิงจะมีประมาณ 13,000 คน ขณะที่สนามช้างคาดว่าจะมีผู้อพยพประมาณ 3,000 คน ภายในคืนนี้

ในส่วนของอำเภอละหานทราย ผู้นำชุมชนยังไม่สั่งอพยพ แต่จะติดตามสถานการณ์และอาจมีการอพยพในอีก 24 ชั่วโมง