วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568 02:07 น.

ภูมิภาค

ดีเอสไอผนึกป่าไม้บุกโรงไม้หนองคาย พบไม้เถื่อนอื้อ สวมเอกสารเดิม

วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 20.27 น.

หนองคาย – บ่ายวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ ศุลกากร ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบโกดังไม้ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย หลังมีข้อมูลการข่าวชี้ชัดว่ามีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับไม้ป่า

การปฏิบัติการครั้งนี้นำโดย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ผลการตรวจสอบพบไม้ซุง ไม้ท่อน และไม้แปรรูปจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นไม้ประดู่และไม้สัก ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มา เนื่องจากไม่พบเอกสารแสดงการครอบครองและการได้มาอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะทำการคัดแยกชนิดไม้ ลงบัญชี และตรวจพิสูจน์รายละเอียดทั้งหมด

 

 

จากการสืบสวนพบว่า ไม้ดังกล่าวมีต้นทางมาจากพื้นที่ภาคเหนือ ถูกลักลอบตัดจากเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติ ก่อนนำมาแปรรูปและพักไว้ในโกดังแห่งนี้ เพื่อเตรียมลำเลียงส่งออกไปยังต่างประเทศ นอกจากนี้ยังตรวจพบแรงงานต่างด้าวรวม 16 คน เป็นแรงงานชาวลาว เวียดนาม และจีน โดยมีผู้ที่ได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องเพียงบางส่วน ที่เหลือเดินทางเข้าประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวแต่เข้ามาทำงาน ซึ่งเข้าข่ายทำงานผิดประเภทตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
นายอังศุเกติ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอเคยเข้าตรวจค้นโรงไม้ในพื้นที่ใกล้เคียงและพบไม้ประดู่ที่ลักลอบนำออกจากอุทยานในภาคเหนือ ต่อมาพบว่าขบวนการดังกล่าวยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จึงบูรณาการกำลังหลายหน่วยเข้าตรวจสอบโกดังแห่งนี้ เบื้องต้นพบไม้ต้องสงสัยจำนวนมากและยังไม่สามารถแสดงเอกสารยืนยันความถูกต้องได้ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในระหว่างการตรวจสอบ

 

 

ด้าน พ.ต.ท.ธียาฌพัทย์ รังษิพราหมณกุล รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ระบุว่า ชาวต่างชาติที่ตรวจพบเดินทางเข้าประเทศอย่างถูกต้อง แต่ใช้วีซ่าท่องเที่ยวและเข้ามาทำงาน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับและดำเนินคดีตามขั้นตอน
ขณะที่ นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบพฤติการณ์เป็นขบวนการของกลุ่มทุนรายใหญ่ มีการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับไม้ไว้ล่วงหน้า แล้วนำมาใช้สวมกับไม้ที่ลักลอบตัดใหม่ เป็นการหมุนเวียนเอกสารเดิมเพื่อฟอกไม้ผิดกฎหมายให้ดูเหมือนถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค