กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดรับสมัครผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (Prime Minister's Export Award 2025) หรือ PM Export Award ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการด้านการส่งออกที่มีความโดดเด่น โดยโครงการนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 33 เพื่อส่งเสริมและยกย่องผู้ประกอบการไทยที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศในเวทีการค้าโลก

ในปีนี้ มีการมอบรางวัลทั้งสิ้น 7 ประเภท รวม 10 สาขารางวัล จำนวนทั้งสิ้น 53 รางวัล ประกอบด้วย: รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) รางวัลผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน (Best Green & Sustainable Exporter) รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) ใน 4 สาขา: สาขาโรงพยาบาล/คลินิก (Health Services) สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software) สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing & Packaging) สาขาโลจิสติกส์การค้า (Trade Logistics) รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal)

ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ การได้รับโล่รางวัลและเกียรติบัตรจากนายกรัฐมนตรี การได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศที่กรมจัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การสัมภาษณ์พิเศษในสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ และสิทธิในการใช้ตราสัญลักษณ์ PM Export Award เพื่อส่งเสริมการตลาดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 18 เมษายน 2568 ผ่านทางเว็บไซต์ pmaward.ditp.go.th

และพบกันเร็วๆนี้ สำหรับกิจกรรมแนะนำการสมัคร (Orientation) วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 เวลา : 09.00 – 12.00 น. โรงแรม Grand Richmond ห้อง Topaz ชั้น 2 ( mrt สายสีม่วง สถานี บางกระสอ ทางออก 4) https://g.co/kgs/2hTmXjB ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมOrientation https://script.google.com/a/*/macros/s/AKfycbxt0KKvVjbBKRH_QIC0AzBBeRY1BlgkCQEmwTAz-1Ji-isn2ldRsv2BhzglC56SMAGZvQ/exec

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ของโครงการ PM Export Award 2025 โทร. 02-022-6543 Email: pmaward2025@gmail.com ด้วยการสมัครเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยจะมีโอกาสยกระดับสู่เวทีสากล สร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้แก่สินค้าและบริการไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในตลาดโลก