ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การวางแผนการเงินและจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก   ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ครอบครัวของคุณได้รับความคุ้มครองทางการเงิน  ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทของประกันชีวิต   และวิธีการเลือกประกันที่เหมาะกับคุณ

ประกันชีวิตมีกี่ประเภท? มีความคุ้มครองมีอะไรบ้าง

ปัจจุบันเราสามารถแบ่งประกันชีวิต ออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ซึ่งจะมีความคุ้มครองและเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

1. แบบตลอดชีพ

เป็นประกันที่คุ้มครองผู้เอาประกันภัยจนถึงอายุ 90 ปี หรือ 100 ปี หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต บริษัทประกันจะจ่ายเงินจำนวนเต็มทุนประกันให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ โดยทำเอาประกันจะจ่ายค่าเบี้ยประกันทุกปี เรียกว่าเป็นประกันแบบแรก ๆ ที่ใช้โฆษณาว่า การสร้างมรดกเอาไว้ให้ลูกหลาน เพราะไม่ว่าจะเสียชีวิตเมื่อไหร่ ลูกหลานก็จะสามารถรับผลประโยชน์ได้เต็มจำนวนเช่นเดียวกัน 

2. แบบชั่วระยะเวลา

คุ้มครองผู้เอาประกันภัยในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 10 ปี 20 ปี หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาคุ้มครอง บริษัทประกันจะจ่ายเงินจำนวนเต็มทุนประกันให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ แต่หากว่าพ้นจากช่วงระยะเวลาคุ้มครองไปแล้ว บริษัทประกันก็ไม่ต้องจ่ายผลประโยชน์ให้ 

3. แบบสะสมทรัพย์

เป็นประกันที่รวมเอาประกันชีวิตและการสะสมทรัพย์มาไว้ด้วยกัน โดยจะกำหนดระยะเวลาในการจ่ายเบี้ยประกัน และระยะเวลาคุ้มครองผู้เอาประกันภัย และเมื่อครบกำหนดสัญญา ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินจำนวนเต็มทุนประกัน แม้ว่าจะไม่เสียชีวิตก็ตาม เป็นประกันที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน 

4. แบบควบการลงทุน 

เป็นประกันที่คุ้มครองผู้เอาประกันภัย และผู้เอาประกันภัยสามารถนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในกองทุนรวมได้ 

ประกันชีวิตแบบไหนเหมาะกับเรา?

            ด้วยประกันที่มีหลากหลายประเภท และหลากหลายแผน ทำให้หลายคนรู้สึกสับสน และไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการประกันแบบไหนกันแน่ วันนี้เราจะบอกวิธีเลือกประกันชีวิต แบบง่าย ๆ โดยพิจารณาที่ปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 

• ความต้องการ เราต้องการความคุ้มครองแบบไหน คุ้มครองชีวิต คุ้มครองสุขภาพ หรือต้องการออมเงิน หากว่าเราสามารถตอบคำถามได้แล้ว เราจะสามารถเลือกประเภทของประกันที่ตรงกับความต้องการของเราได้ 
• ระยะเวลา ต้องการความคุ้มครองนานแค่ไหน 10 ปี 20 ปี หรือตลอดชีพ
• เบี้ยประกัน จ่ายเบี้ยประกันไหวหรือไม่ เพราะหากว่าจ่ายเบี้ยประกันไม่ไหว ก็จะกลายเป็นภาระของเราเช่นเดียวกัน 
• เป้าหมายทางการเงิน ต้องการเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ หรือต้องการเงินก้อนเพื่อส่งลูกเรียน 

สรุป 

ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและจัดการความเสี่ยง ควรเลือกประกันที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ เพื่อที่จะได้คุ้มครองได้ตรงตามความเสี่ยง ช่วยให้เรามีหลักประกันมากขึ้น