วันศุกร์ ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2568 14:50 น.

สังคม-สตรี

TCELS จัดเวทีเสวนา ปักหมุดขับเคลื่อนเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ด้านนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ และ AI ทางการแพทย์ สู่นวัตกรรมเพื่อประชาชน

วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 21.46 น.

ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และภาคเอกชน สมาคมเฮลท์เทคไทย จัดงาน Kick-off แผนงานมุ่งเป้าของประเทศ เพื่อร่วมกันผลักดัน “เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ด้านเครื่องมือแพทย์ บริการทางการแพทย์ และยา” ของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมการแพทย์และเทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ภายในประเทศ ลดการนำเข้า รวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนไทยกว่า 8.5 ล้านคนเข้าถึงนวัตกรรมที่ผลิตโดยคนไทย ภายในปี 2569

การดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์นี้มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงระบบสุขภาพไทยอย่างยั่งยืน โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมเป้าหมายสำคัญด้านเครื่องมือแพทย์ บริการทางการแพทย์ และยา เป็นประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ภายในงานยังมีเวทีเสวนาแสดงศักยภาพนวัตกรรมไทยที่สามารถเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อาทิ กรณีตัวอย่าง “นวัตกรรมการวิเคราะห์ภาพรังสีทรวงอกด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)” ซึ่งได้รับการบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์บริการทางการแพทย์ขั้นสูงสุดในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 โดยจะเริ่มให้บริการในโรงพยาบาลภาครัฐ 167 แห่ง ด้วยงบประมาณ 55 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2568 และขยายครอบคลุมตามศักยภาพในปีถัดไป ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการนำนวัตกรรมไทยเข้าสู่ระบบสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม

นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กล่าวเน้นย้ำว่า “ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นประเทศรายได้สูงอย่างยั่งยืนได้ นวัตกรรมทางสังคมคือกุญแจสำคัญ และ AI ทางการแพทย์จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จได้อย่างมาก ทั้งสำหรับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางสังคม เพราะประเทศไทยมีจุดแข็งคือ การมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่จากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงเรียนแพทย์ อีกทั้งยังมีนักวิจัยและนักพัฒนาที่มีความสามารถ ตลอดจน มีความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนา ที่ครอบคลุมตั้งแต่งานวิจัยจนถึงการขยายผลเชิงพาณิชย์และการสร้างผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง อีกทั้งยังมีระบบสาธารณสุขและหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก”

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การนำนวัตกรรมเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งในมิติการสร้างรายได้ ลดการนำเข้า และขยายโอกาสการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยกรณี AI วิเคราะห์ภาพรังสีทรวงอกนี้ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย อย. และ Singapore FDA และขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง สปสช.กำหนดแผนขยายบริการเป็น 3 ระยะ ครอบคลุมโรงพยาบาล 887 แห่งทั่วประเทศภายใน 3 ปี เพื่อช่วยตรวจคัดกรองโรคสำคัญ เช่น วัณโรคและมะเร็งปอด และลดภาระงานของแพทย์อย่างเป็นระบบ

ดร.จิตติ์พร ธรรมจินดา ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) กล่าวเสริมว่า TCELS ในฐานะฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการแพทย์ช่วงปลายน้ำของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ได้นำร่องกลไกการขับเคลื่อนโดยเน้นการเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อทำงานบูรณาการแบบองคาพยพ และอาศัยกลไกคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกันและประกอบด้วย key man ในด้าน AI ทางการแพทย์จากหลายภาคส่วน (Medical AI Ecosystem) ซึ่งถือเป็นโมเดลที่เริ่มแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากนวัตกรรมทางการแพทย์มีความซับซ้อนและเป็นความท้าทาย กรณีของ AI Chest X-ray ถือเป็น pilot case และหวังว่าจะมีอีกหลายนวัตกรรมได้รับการขับเคลื่อนขยายผล ทั้งนี้ ตลาดภาครัฐถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ และ TCELS ยังมุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนให้นวัตกรรมไทยได้เติบโตอย่างยั่งยืนสู่ตลาดสากลต่อไป

ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์และ AI ทางการแพทย์ของไทยสู่การใช้งานจริง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน

#ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ #อว #TCELS #AI





 

หน้าแรก » สังคม-สตรี

ข่าวในหมวดสังคม-สตรี