สังคม-สตรี
รักษาโรคสะเก็ดเงิน ด้วยตัวเองได้หรือไม่ ถ้าไม่หายทำยังไงดี
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หลายคนอาจเคยเจอผื่นแดง มีสะเก็ดขาว ๆ ขึ้นตามผิวหนัง แล้วสงสัยว่า…นี่ใช่สะเก็ดเงินหรือเปล่า? โดยโรคสะเก็ดเงินแม้จะไม่เป็นโรคติดต่อแต่ก็สร้างความกังวลใจเป็นอย่างมาก เพราะผื่นมักขึ้นซ้ำ ๆ และรักษาเองเท่าไรก็ไม่ค่อยหายสนิท บทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักอาการและสาเหตุของโรครวมถึงการรักษาสะเก็ดเงิน อาการเริ่มแรกสังเกตยังไง และถ้าลองรักษาเองแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไรต่อดี
สะเก็ดเงิน คืออะไร
สะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวหนังมีการแบ่งตัวของเซลล์เร็วกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวชั้นนอก กลายเป็นผื่นแดง แห้ง และมีสะเก็ดสีขาวหรือเงินปกคลุม จึงถูกเรียกว่าสะเก็ดเงิน โรคนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่โรคติดต่อ แต่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะลักษณะผิวหนังที่เห็นความผิดปกติชัดเจนและอาจเกิดซ้ำเรื้อรังได้
สะเก็ดเงิน ทำไมถึงรักษาเองได้ยาก
หลายคนเมื่อเริ่มมีอาการสะเก็ดเงินก็มักจะพยายามหาวิธีรักษาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาทาสมุนไพร การลองครีมบำรุงผิว หรือการเปลี่ยนอาหาร แต่สาเหตุที่โรคนี้รักษาเองได้ยากมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น
1. เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
.jpg)
สะเก็ดเงินไม่ได้เกิดจากผิวหนังอย่างเดียว แต่มีต้นเหตุมาจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้เซลล์ผิวแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ การรักษาด้วยตัวเองจึงไม่สามารถแก้ที่ต้นเหตุได้
2. สะเก็ดมีหลายชนิดและความรุนแรงแตกต่างกัน
สะเก็ดเงินมีหลายชนิด เช่น ชนิดคราบเกล็ด (Plaque Psoriasis) ชนิดตุ่มหนอง (Pustular Psoriasis) หรือชนิดที่ส่งผลต่อข้อต่อ (Psoriatic Arthritis) ซึ่งแต่ละแบบต้องใช้การรักษาที่แตกต่างกันไป การรักษาด้วยวิธีเดียวกันโดยไม่ทราบชนิด จึงอาจไม่ได้ผล
3. อาการมักกำเริบเป็นระยะ
แม้อาการจะทุเลาลงแล้ว แต่สะเก็ดเงินสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายจากปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารบางชนิด แอลกอฮอล์ หรือแม้กระทั่งการติดเชื้อ ซึ่งการรักษาด้วยตัวเองมักไม่สามารถควบคุมปัจจัยเหล่านี้ได้หมด
4. การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้อาการแย่ลง
บางคนอาจหาซื้อยาทาสเตียรอยด์หรือยาลดอาการอักเสบมาใช้เองโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ หากใช้ไม่ถูกวิธีหรือหยุดกะทันหัน อาจทำให้ผิวหนังบางลง หรือต้องเผชิญกับอาการกำเริบที่รุนแรงกว่าเดิม
5. สะเก็ดเงินส่งผลต่อจิตใจและคุณภาพชีวิต
ความเครียดและความกังวลจากโรคสะเก็ดเงินอาจยิ่งกระตุ้นให้อาการกำเริบ การดูแลเพียงด้านร่างกายแต่ยังเครียด ยังวิตกกังวล ไม่พอที่ควบคุมอาการไม่ให้รุนแรงขึ้นได้
สะเก็ดเงิน อาการเริ่มแรกดูยังไง
อาการของโรคสะเก็ดเงินที่พบได้บ่อย คือ
- มีผื่นแดงเล็ก ๆ บนผิวหนัง โดยเฉพาะที่ข้อศอก เข่า หนังศีรษะ และหลัง
- มีสะเก็ดสีขาวหรือเงินปกคลุมบนผื่น
- อาจมีอาการคัน แสบ หรือเจ็บร่วมด้วย
- หากเป็นที่เล็บ จะเห็นเล็บหนา เปราะ หรือมีรอยบุ๋มเล็ก ๆ
หากพบสัญญาณเหล่านี้บ่อยครั้ง ควรเฝ้าระวังว่าอาจเป็นสะเก็ดเงินและปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แน่ชัด
สะเก็ดเงิน รักษาด้วยตัวเองได้ไหม
หลายคนเมื่อเริ่มมีอาการสะเก็ดเงิน มักตั้งคำถามว่าสามารถรักษาเองได้ไหม คำตอบคือ ทำได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะการดูแลตัวเองสามารถช่วยบรรเทาอาการ ลดการอักเสบ และทำให้ผื่นไม่ลุกลามมากขึ้น แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งการดูแลตัวเองที่ช่วยให้อาการดีขึ้น สามารถทำได้ดังนี้
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เลือกใช้ครีมหรือโลชั่นที่ไม่มีน้ำหอมและสารระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการเกาและขัดผิวแรง ๆ เพราะจะทำให้ผื่นแดงและสะเก็ดหนาขึ้น
- รับประทานอาหารที่สมดุล เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช และปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ลดอาหารมัน ของทอด และแอลกอฮอล์
- พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด เพราะความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้โรคสะเก็ดเงินกำเริบง่าย
- ดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยตัวเองจะช่วยเพียงควบคุมอาการของโรคสะเก็ดเงิน ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หากทราบแล้วว่าตนเองเป็นสะเก็ดเงินในระดับปานกลางถึงรุนแรง ควรต้องใช้การรักษาทางการแพทย์ร่วมด้วย
สะเก็ดเงิน เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
แม้ว่าการดูแลตัวเองจะช่วยได้ในระดับหนึ่งที่ไม่ให้อาการมันลุกลามมากขึ้นแล้ว แต่หากพบว่ายังมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังทันที คือ
- อาการไม่ดีขึ้น หลังจากพยายามดูแลตัวเองต่อเนื่อง 2–4 สัปดาห์
- ผื่นลุกลามเป็นวงกว้างหรือมีอาการที่หนังศีรษะ เล็บ หรือข้อต่อ
- มีอาการเจ็บ ปวด หรือคันรุนแรง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
- เริ่มมีปัญหาที่เล็บหรือข้อกระดูก เช่น เล็บหนา แตก เปราะ ข้อบวม เจ็บหรือเคลื่อนไหวลำบาก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (Psoriatic Arthritis)
- มีผลต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต เช่น สูญเสียความมั่นใจ ไม่กล้าเข้าสังคม หรือเกิดความเครียดสะสม
แพทย์จะช่วยวินิจฉัยระดับความรุนแรงของโรคและเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นยาทา ยารับประทาน ยาฉีด หรือการฉายแสง เพื่อควบคุมอาการให้ดีขึ้นอย่างปลอดภัย
วิธีรักษาสะเก็ดเงิน เมื่อรักษาด้วยตัวเองแล้วไม่หาย
หากลองดูแลตนเองแล้วอาการสะเก็ดเงินยังไม่ดีขึ้น หรือกลับกำเริบหนักขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะปัจจุบันมีหลายแนวทางที่ช่วยควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่
1.ยาทาเฉพาะที่ (Topical Treatment)
.jpg)
เป็นการรักษาขั้นแรกที่แพทย์มักใช้ในผู้ป่วยสะเก็ดเงินระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ตัวอย่างเช่น
- ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบและควบคุมผื่น
- ยาที่มีวิตามินดีสังเคราะห์ ช่วยชะลอการแบ่งตัวของเซลล์ผิว
- น้ำมันดิน (Coal Tar) หรือกรดซาลิไซลิก เพื่อลดการหนาของสะเก็ดและช่วยให้ผิวหลุดลอกง่ายขึ้น
2. การฉายแสง (Phototherapy)
การใช้แสงอัลตราไวโอเลต (UVB) ในการรักษา ช่วยควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ผิวที่ผิดปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินในระดับปานกลางและไม่ได้ผลจากยาทา
3. ยารับประทาน (Systemic Therapy)
หากสะเก็ดเงินลุกลาม แพทย์อาจแนะนำยารับประทาน เช่น
- เมโธเทรกเซท (Methotrexate) ยาที่ช่วยลดการอักเสบและควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน
- ไซโคลสปอริน (Cyclosporine) ยากดภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง
- อะซิเตรติน (Acitretin) กลุ่มยาวิตามินเอที่ช่วยควบคุมการเจริญของผิวหนัง
ซึ่งการรักษาแต่ละแบบขึ้นอยู่กับความรุนแรง ตำแหน่งที่เป็น และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ดูแลตัวเองอย่างไรให้สะเก็ดเงินไม่กำเริบ
แม้สะเก็ดเงินจะเป็นโรคเรื้อรังที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมไม่ให้กำเริบได้ หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น
- เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพิ่มผักผลไม้ ธัญพืช ปลา และลดอาหารที่ก่อการอักเสบ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและควบคุมน้ำหนัก
- ลดความเครียด ด้วยกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น โยคะ สมาธิ หรือการฟังเพลง
- งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้สะเก็ดเงินกำเริบ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น สบู่หรือแชมพูสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอมแรง
- พักผ่อนเพียงพอ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานสมดุล
สรุป
สะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ แต่สร้างผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราเป็นอย่างมาก การรักษาด้วยตัวเอง เช่น การบำรุงผิว เลือกอาหารที่เหมาะสม และจัดการความเครียด อาจช่วยบรรเทาอาการได้ แต่หากถ้าพบว่าอาการไม่ดีขึ้นเลย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์จะช่วยควบคุมโรคสะเก็ดเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจมากขึ้นด้วย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » สังคม-สตรี
ข่าวในหมวดสังคม-สตรี ![]()
เปิดกิจกรรม “เส้นทางสร้างงานศิลปะบนอัญมณี ของดีเมืองจันท์” ดึงช่างฝีมือรุ่นใหม่โชว์ทักษะ ในงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2025 16:44 น.- งาน เทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2025 เริ่มแล้ว! คาดผู้เข้าชมงานกว่า 11,000 คน หนุนเศรษฐกิจปลายปีคึกคัก 11:14 น.
- JC Studio (ภายใต้บริษัท Jeweler Collective) เปิดเวิร์กช็อปพิเศษ “How to Start Your Own Jewelry Brand, and Make it Last” สำหรับผู้ที่สนใจอยากสร้างแบรนด์เครื่องประดับเป็นของตนเอง 11:07 น.
- ข้อควรรู้ RMF ขายได้เมื่อไหร่ และควรขายช่วงไหนถึงได้ประโยชน์สุด 16:40 น.
- COSDENT เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ พร้อมเผยเทรนด์ทันตกรรมปี 2026 ที่มุ่งเน้น Longevity “ความงามที่ยืนยาว = คุณภาพชีวิตที่ดี” 11:45 น.


