วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 04:16 น.

สังคม-สตรี

กระแดด คืออะไร? รู้ให้ทันก่อนผิวหมองคล้ำ แนวทางรักษาและดูแลให้ถูกวิธีก็หายได้

วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 16.30 น.

เวลาไปเที่ยวทะเลหรือขับรถกลางแดดแรง ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็เห็นจุดสีน้ำตาลขึ้นบนแก้ม สันจมูก หรือหลังมือ หลายคนอาจคิดว่าเป็น “ฝ้า” หรือ “กระธรรมดา” แต่จริง ๆ แล้วสิ่งนั้นคือ “กระแดด” ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย ๆ โดยเฉพาะในบ้านเราที่ต้องใช้ชีวิตท้าแดดทุกวัน

 

แต่อย่าเพิ่งนอยด์ไป เพราะ กระแดดไม่ใช่โรคผิวหนังอันตรายและสามารถรักษาให้จางลงหรือหายได้จริง! แค่เข้าใจสาเหตุ รู้วิธีรักษา-ดูแลผิวให้ถูกทาง และป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ เท่านี้ก็สามารถมีผิวใสเรียบเนียนได้อีกครั้ง

 

รู้จักกระแดดคืออะไร? กันหน่อยดีกว่า

 

“กระแดด” หรือชื่อทางการแพทย์ว่า Solar Lentigines คือ จุดสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังหลังสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน รังสี UV โดยเฉพาะ UVB และ UVA จะไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) ให้ทำงานมากกว่าปกติ ผลก็คือ ผิวบริเวณนั้นจะมีเม็ดสีสะสมมาก จนเห็นเป็นจุดหรือดวงสีน้ำตาลเล็ก ๆ กระจายอยู่

 

จุดสังเกตคือ “กระแดด” มักขึ้นบริเวณที่โดนแดดบ่อย เช่น โหนกแก้ม สันจมูก หน้าผาก หลังมือ หรือหน้าอก แตกต่างจาก “กระพันธุกรรม” ที่มักเริ่มขึ้นตั้งแต่วัยเด็กและมักมีสีเข้มกว่า

 

ส่วนใหญ่กระแดดมักพบในคนอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง, ขับรถเป็นประจำ หรืออยู่ในแสงแดดจัดนาน ๆ

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดกระแดด มีอะไรบ้าง?

 

 

หลายคนคิดว่ากระแดดเกิดเพราะ “โดนแดดแค่ไม่กี่วัน” แต่จริง ๆ แล้วมันเกิดจากการสะสมของรังสี UV ในผิวมานานหลายปี ยิ่งผิวโดนแสงแดดโดยไม่ป้องกันเลย และเป็นเช่นนี้บ่อย ๆ เม็ดสีก็จะยิ่งผลิตมากขึ้นเรื่อย ๆ

  1. แสงแดดและรังสี UV

ต้นเหตุหลักของกระแดด เพราะ UVB ทำให้ผิวไหม้ ส่วน UVA จะลงลึกถึงชั้นหนังแท้ กระตุ้นเม็ดสีเมลานินให้ทำงานเกินจำเป็น

  1. ไม่ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

การละเลยผลิตภัณฑ์กันแดดคือสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้ผิวคล้ำและเกิดกระแดด โดยเฉพาะคนที่ออกแดดทุกวัน เช่น ขับรถ หรือเดินทางกลางแจ้ง

  1. อายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลง ทำให้เม็ดสีสะสมง่ายและกระจ่างยากขึ้น

  1. พันธุกรรมและสภาพผิว

บางคนมีพันธุกรรมที่ไวต่อแสงแดดมากกว่าคนอื่น จึงเกิดกระแดดได้ง่าย แม้จะโดนแดดเพียงไม่นาน

 

ลักษณะกระแดดที่สังเกตได้ง่าย ๆ

  • จุดสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ขนาดเล็กประมาณ 2–10 มิลลิเมตร
  • ผิวเรียบ ไม่นูน ไม่เจ็บ
  • สีเข้มขึ้นเมื่อโดนแดด
  • ไม่มีอาการคันหรืออักเสบ
  • มักเกิดบริเวณใบหน้า หลังมือ แขน หรือหน้าอก

กระแดดต่างจากฝ้า ยังไง?

 

หลายคนอาจสับสนว่าที่เห็นเป็น “กระ” หรือ “ฝ้า” กันแน่ เพราะทั้งคู่มักเกิดจากแสงแดดเหมือนกัน แถมขึ้นบริเวณใบหน้าในตำแหน่งใกล้เคียงกันอีกต่างหาก แต่จริง ๆ แล้ว “กระแดด” กับ “ฝ้า” มีความต่างกันอยู่พอสมควร

  • กระแดด (Sun Freckles)

มักเกิดจากรังสี UV ที่มากระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินผลิตมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในคนที่มีผิวขาวหรือผิวบาง เมื่อโดนแดดบ่อย ๆ จะเห็นเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม กระจายตามโหนกแก้ม จมูก หรือหน้าผาก

  • ฝ้า (Melasma)

ฝ้าจะต่างออกไป เพราะไม่ได้เกิดจากแสงแดดอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน และ พันธุกรรมด้วย ทำให้เม็ดสีใต้ผิวถูกกระตุ้นให้ผลิตมากผิดปกติ จนเกิดเป็นปื้นสีเข้ม ไม่ใช่จุดเล็ก ๆ แบบกระแดด เพราะลักษณะของฝ้ามักเป็น แผ่นสีน้ำตาลหรือเทาอมดำ บริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก เหนือริมฝีปาก เป็นต้น อีกอย่างเวลาอยู่ในที่ร่มสีจะไม่จางลงด้วย

 

 วิธีรักษากระแดดให้จางลงอย่างปลอดภัย

 

ใครที่กำลังหมดหวัง ท้อ กังวลกับสภาพผิวตัวเองที่กำลังเผชิญกับกระแดด ต้องบอกว่าจริงๆ แล้ว สามารถรักษาให้จางลงได้ และทำให้ผิวกลับมาสวยได้อีกครั้ง ด้วยวิธีรักษาที่ปลอดภัย ดังนี้

  1. ทาครีมหรือเซรั่มลดเลือนจุดด่างดำ

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น

  • Vitamin C ลดเม็ดสีและปรับผิวให้ดูสว่าง
  • Niacinamide ลดรอยหมองคล้ำและฟื้นเกราะผิว
  • Arbutin / Kojic Acid / Licorice Extract ยับยั้งเอนไซม์ที่กระตุ้นเม็ดสีเมลานิน ซึ่งควรใช้เป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการทาครีมกันแดดทุกเช้า
  1. ผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peel / AHA)

การผลัดเซลล์ผิวเป็นเหมือนการรีเฟรชผิว ให้กลับมาสดใสขึ้น โดยจะใช้กรดผลไม้ (AHA / BHA) หรือสารผลัดเซลล์เฉพาะที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำให้หลุดออก เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนและกระจ่างใสกว่าเดิม

  1. เลเซอร์รักษากระแดด

 

เทคโนโลยีเลเซอร์แก้ปัญหาเม็ดสีผิว ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน  มีหลายแบบ ได้แก่

  • Q-Switch Laser

เลเซอร์ยอดฮิต ที่ช่วยจัดการเม็ดสีเมลานินใต้ผิวได้ตรงจุด เหมาะกับคนที่มีรอยกระ รอยดำจากแดด หรือจุดด่างดำที่ฝังลึก ทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำให้ผิวบาง เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย

  • Pico Laser

รุ่นใหม่มาแรงในปีนี้จริง ๆ เพราะใช้พลังงานความเร็วสูงระดับพิโควินาที (เร็วกว่า Q-switch หลายเท่า) ทำให้เม็ดสีแตกละเอียดขึ้น จึงเห็นผลไวกว่า ฟื้นตัวเร็วกว่า และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าช่วยทั้งเรื่อง กระ, จุดดำและรูขุมขนไปพร้อมกันเลย

  • IPL (Intense Pulsed Light)

แม้จะไม่ใช่เลเซอร์แท้ ๆ แต่เป็นแสงพลังงานที่ช่วยลดความหมองคล้ำและรอยแดงจากแดดได้ดี เหมาะกับคนที่ผิวไว ต้องการดูแลแบบอ่อนโยน ไม่ต้องพักฟื้นนาน แถมยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมออีกด้วย

 

เคล็ดลับป้องกันไม่ให้กระแดดกลับมา

 

แม้จะรักษาจนจางแล้ว แต่ถ้ายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเดิม ๆ กระแดดก็มีสิทธิ์กลับมาได้อีก

การป้องกันคือหัวใจสำคัญของการดูแลผิวหลังรักษา

 

ทาครีมกันแดดให้เป็นนิสัย

 

เลือก SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ และทาก่อนออกแดด 15-20 นาที ซึ่งต้องทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง อย่าลืมทาบริเวณคอ หลังมือ และหู เพราะมักโดนแดดโดยไม่รู้ตัว

 

หลีกเลี่ยงแดดจัด

 

พยายามหลบแดดช่วง 10.00-16.00 น. แต่หากจำเป็นต้องออก ควรสวมหมวกปีกกว้าง เสื้อแขนยาว หรือพกร่มกัน UV

 

กินอาหารที่ช่วยบำรุงผิว

 

ผักผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน C, E และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ส้ม เบอร์รี กีวี อะโวคาโด

จะช่วยให้ผิวแข็งแรงและฟื้นตัวจากรังสี UV ได้ดีขึ้น

 

ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ

 

ร่างกายที่ได้รับน้ำเพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ฟื้นตัวเร็ว และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

 

เทรนด์ดูแลผิวห่างไกลกระแดดปี 2025

 

ปีนี้วงการสกินแคร์พัฒนาไปไกลมาก ครีมกันแดดและครีมบำรุงรุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้แค่ป้องกัน UV แต่ยังช่วย ซ่อมผิวและลดรอยกระแดดไปพร้อมกัน เช่น

 

กันแดดสูตรบางเบา (Lightweight Formula)

 

เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกเหนอะหนะหลังทาครีม เพราะสูตรนี้จะบางเบาเหมือนทาโลชั่น ซึมเข้าผิวไว ไม่ทิ้งคราบขาว แถมยังไม่ทำให้หน้ามันระหว่างวัน เหมาะกับทั้งสายแต่งหน้าและสายสกินแคร์ล้วน ใครอยู่เมืองไทยที่อากาศร้อนอบอ้าวต้องเลิฟแน่นอน

 

กันแดดผสมสกินแคร์ (Skincare-Infused Sunscreen)

 

สูตรนี้เหมือนครีมบำรุงกับกันแดดรวมร่างกันเลย เช่น ใส่วิตามิน C, E หรือ Niacinamide จึงไม่ใช่แค่ปกป้องจากรังสี UV แต่ยังช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และฟื้นฟูผิวที่โดนแดดทำร้าย เหมาะกับคนที่อยากลดสเต็ปสกินแคร์ในตอนเช้า

 

กันแดดลดแสง Blue Light

 

สำหรับคนที่ทำงานหน้าคอม หรือใช้มือถือบ่อย ช่วยป้องกันแสงสีฟ้าที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ

ทุกวันนี้เราเจอแสงจากจอทั้งวัน ทั้งคอม, มือถือ หรือแท็บเล็ต ซึ่งแสงสีฟ้าเหล่านี้ก็ทำร้ายผิวได้เหมือนแดดเลยนะ กันแดดสูตรนี้เลยตอบโจทย์สายออฟฟิศหรือคนติดมือถือเลยล่ะ

 

กันแดดสูตร Reef-safe

 

ใครชอบไปทะเลต้องถูกใจ เพราะกันแดดสูตรนี้ไม่มีสารที่ทำลายระบบนิเวศทางทะเลอย่าง Oxybenzone หรือ Octinoxate ใช้แล้วทั้งผิวปลอดภัยและโลกก็แฮปปี้ด้วย เหมาะกับสายธรรมชาติและคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ

 

กระแดดต้องหนักแค่ไหน ถึงควรพบแพทย์ผิวหนัง

  • กระแดดเริ่มเข้มขึ้นจนแต่งหน้าไม่มิด
  • ซื้อครีมหรือเซรั่มมาใช้เองแล้วไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 เดือน
  • มีอาการแสบ-แดง หรือระคายเคืองผิวหลังใช้ผลิตภัณฑ์
  • ต้องการรักษาให้จางไว ปลอดภัย ด้วยเลเซอร์หรือทรีตเมนต์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ

สรุป

 

กระแดด ยังไงก็สามารถรักษาให้จางลงได้ หากเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับระดับปัญหาผิว ณ ตอนนั้น ดังนั้น หากตอนนี้ใครที่กำลังเป็นกระแดดอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะรักษายังไงดี วิธีที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่การเข้าร้านขายยาแล้วซื้อยามาทาเอง แต่คือการเข้าพบคุณหมอผิวหนัง พูดคุยและปรึกษาเพื่อหาวิธีรักษา เพราะไม่เสี่ยงผิวพังจากการลองผิด ลองถูก และยังช่วยให้ผิวกลับมาสวยกระจ่างใสไร้กระแดดได้ไวและปลอดภัยอีกด้วย

 

หน้าแรก » สังคม-สตรี

ข่าวในหมวดสังคม-สตรี