วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568 03:30 น.

กีฬา

“โกเมธ” นำทัพนักปั่นทีมชาติไทย ป้องกันแชมป์ BMX เอเชียที่ญี่ปุ่น

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 21.07 น.

“โกเมธ” นำทัพนักปั่นทีมชาติไทย ป้องกันแชมป์ BMX เอเชียที่ญี่ปุ่น

 

 “สองล้อ” เตรียมส่ง “โกเมธ สุขประเสริฐ” นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยไปฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) เป็นเวลา 3 ปี หลังจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เห็นความตั้งใจจริงในการทำงานของสมาคมกีฬาจักรยานฯ รวมทั้งผลงานที่มีอย่างต่อเนื่อง จึงมอบทุนโอลิมปิก โซลิดาริตี้ ให้แก่นักปั่นไทยรวม 4 คน นอกจากนี้ “โกเมธ” จะนำทัพนักปั่นสองล้อเล็กสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่เมืองนาโงย่า ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 1-2 พ.ย.68 พร้อมป้องกันแชมป์สมัยที่ 4 เพื่อล่าแต้มสะสมอันดับโลกของ UCI เป็นการเพิ่มโอกาสในการคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส พร้อมทั้งรักษาตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของเอเชียต่อไป

 

 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ได้ประกาศผลการจัดอันดับนักกีฬาจักรยานโลก ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ปรากฎว่า “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ นักปั่นทีมชาติไทยชุดเตรียมทีมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รั้งอันดับ 31 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย มี 660 คะแนน ซึ่งสมาคมฯ ก็ได้วางแผนระยะยาวเตรียมส่งโกเมธไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกครั้ง ตามที่ UCI ได้มีหนังสือมายังสมาคมฯ ว่าคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ได้มอบทุนกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ หรือ โอลิมปิก โซลิดาริตี้ (Olympic Solidarity) ให้แก่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ในการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก 

 

 ทั้งนี้ นอกจากโกเมธแล้วทางศูนย์ฝึกจักรยานโลกยังให้ทุนนักกีฬาไทยเพิ่มอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็จะพิจารณานักกีฬาประเภทถนนและประเภทลู่ที่เป็นนักปั่นดาวรุ่งและมีความหวังในการคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเป็นการฝึกต่อเนื่องระยะยาวเป็นเวลา 3 ปีจนถึงการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2028 การที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลกได้เปิดโอกาสให้สมาคมฯ ส่งนักกีฬารวม 4 คน ให้เข้ารับทุนโอลิมปิก โซลิดาริตี้ ก็เพราะพิจารณาเห็นความตั้งใจการทำงานและผลงานที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ทำมาโดยตลอด ภายใต้การนำของ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมฯ ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อพัฒนาวงการกีฬาจักรยานของไทยอย่างแท้จริง รวมทั้งผลงานของนักกีฬาที่มีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี อย่างโกเมธก็คว้าแชมป์เอเชีย 3 ปีติดต่อกัน และได้โควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย

 

 พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนแผนการเตรียมทีมในระยะสั้น สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมส่งนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยเดินทางไปแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่เมืองนาโงย่า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่ได้ลงทะเบียนกับ UCI ในระดับ Continental Championships มีการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกสูงมาก ซึ่งจะมีผลต่อการคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ในอนาคต โดยสมาคมฯ จะดำเนินการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาชุดสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025 หลังจบการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราช กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 สนามที่ 5 ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ สวนกีฬากมล ถนนสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก กทม.

 

 พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า สำหรับนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยที่จะไปสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย นำทีมโดย ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ ซึ่งจะลงแข่งในรุ่นประชาชนชาย นอกจากนี้ก็มีรุ่นเยาวชนชาย 3 คน นายพุทธภูมิ นาคแป้น, นายรวิพล ภูนุช, นายกณวรรธน์ เชื้อทหาร / รุ่นประชาชนหญิง “ฟ้า” ส.ท.หญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร / รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง น.ส.เขมิกา ศรีโสภา, น.ส.หทัยเพชร ใจสว่าง / รุ่นเยาวชนหญิง น.ส.ปภาดา ครองโปร่ง, น.ส.ปภิชญา ครองโปร่ง โดยมี มร.ฮาร์วีย์ เครปส์ เป็นผู้ฝึกสอน, ส.ท.นนทกร อินทร์โคกสูง เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน, นายสุระพงษ์ กลุ่มในเมือง เป็นช่างประจำทีม คณะนักปั่นไทยจะเดินทางไปยังเมืองนาโงย่าในวันที่ 28 ตุลาคม เพื่อที่จะมีเวลาฝึกซ้อมกับสนามแข่งขันจริงอย่างน้อย 2 วัน ซึ่งสนามแห่งนี้ก็จะใช้แข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 20 ในปีหน้าด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่นักปั่นไทยจะสร้างความคุ้นเคยกับสภาพของสนามไปในตัว

 

 “เสธ.หมึก” เปิดเผยอีกว่า สำหรับโกเมธมีดีกรีเป็นแชมป์เก่า 3 สมัยติดต่อกัน ซึ่งจะมีความกดดันพอสมควร เนื่องจากโกเมธรั้งอันดับ 1 เอเชีย และอยู่อันดับ 31 ของโลก มี 660 คะแนน หากโกเมธสามารถป้องกันแชมป์ได้ก็จะได้แต้ม 300 คะแนน แต่คะแนนจากที่เป็นแชมป์เก่าปีที่แล้ว 300 คะแนนก็จะหายไป เพราะ UCI จะคิดเฉพาะคะแนนสนามล่าสุด แต่ถ้าโกเมธได้อันดับ 2 ก็จะได้แค่ 258 คะแนน ทำให้คะแนนสะสมเดิมหายไป 42 คะแนน และถ้าโกเมธได้อันดับ 3 ก็จะได้เพียง 222 คะแนน เท่ากับลดลงไปอีก 78 คะแนน อย่างไรก็ตาม นักปั่นที่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียคือ แพทริค เบรน คู จากฟิลิปปินส์ อยู่อันดับที่ 51 มี 406 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เอเชียคือ เรียว ชิมาดะ ของญี่ปุ่น อยู่อันดับ 51 มี 406 คะแนนเท่ากัน

 

 “หากโกเมธยังติดอันดับ 1 ใน 3 ก็ยังคงเป็นมือ 1 ของเอเชียต่อไป เพราะคะแนนสะสมค่อนข้างห่างจากอันดับ 2 และ 3 ขอเพียงอย่างเดียวอย่าเกิดอุบัติเหตุ หรือมีข้อผิดพลาดที่ไม่ได้คาดฝัน ที่สำคัญโกเมธเองก็ต้องมีสมาธิในการแข่งขัน โดยเฉพาะการออกตัวจะต้องออกตัวให้เร็ว ซึ่งผมก็ได้มอบนโยบายให้ มร.ฮาร์วีย์ เครปส์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ในเรื่องแผนการฝึกซ้อมว่าให้แก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ของโกเมธ เพื่อเป้าหมายในการป้องกันแชมป์และเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน รวมทั้งการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ปลายปีนี้ ที่จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์มีชิงชัย 2 เหรียญทอง จากบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง และบีเอ็มเอ็กซ์ไทม์ไทรอัล โดยโกเมธก็เป็นนักกีฬาความหวังที่จะคว้าทั้ง 2 เหรียญทอง ต้องขอแรงใจจากพี่น้องประชาชนชาวไทยช่วยเชียร์นักปั่นลูกหลานไทยให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันทั้ง 2 รายการด้วยครับ ขอบคุณครับ” พลเอกเดชา กล่าว

 

 นอกจากนี้ พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จะจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราช กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 สนามที่ 5 (สนามสุดท้าย) ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ สวนกีฬากมล ถนนสุวินทวงศ์ โดยจะเป็นการตัดสินว่านักปั่นคนใดจะคว้าแชมป์ประเทศไทย พร้อมได้ครองถ้วยพระราชทานฯ ดังนั้นขอให้นักปั่นทุกทีมทุกสโมสรตั้งใจฝึกซ้อมให้ดี หากคว้าแชมป์มาครองสำเร็จก็จะเป็นศักดิ์ศรีและเกียรติยศของตัวเองพร้อมครอบครัวสืบต่อไป

 

 สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 สนามที่ 5 (สนามสุดท้าย) จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ สวนกีฬากมล สามารถสมัครเข้าแข่งขันได้ที่สนามแข่งขันในวันที่ 19 กันยายน เวลา 09.00-17.00 น. โดยเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th และเฟซบุ๊ก Thailand Cycling Association สอบถามได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.

หน้าแรก » กีฬา