แลนด์สไลด์ (Landslide) กับนโยบายพรรคการเมือง

แลนด์สไลด์ (Landslide) กับนโยบายพรรคการเมือง

 

ดร.วิสูตร ดารากัย

นักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญตะวันออกกลาง

การเลือกตั้งครั้งหน้าบอกได้ว่าพรรคที่เริ่มมีการมากเป็นอันดับต้นๆ ก็จะเป็นพรรคเพื่อไทยที่พยายามหาแนวร่วมและระดมกำลังอย่างเต็มพิกัดเพื่อทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำหรือที่เรียกว่าแลนด์สไลด์นั้นเองแต่อย่าลืมว่าหลายพรรคการเมืองก็ต้องการมากพอๆ กับพรรคเพื่อไทย เช่น พรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคก้าวไกล  ทั้งหมดนี้ต้องการคะแนนมากที่สุดที่จัดตั้งรัฐบาลแต่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เปิดโอกาสให้พรรคใดก็ได้ที่สามารถรวบรวมคะแนนได้จากพรรคต่างๆ มาจัดตั้ง เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นว่าพรรคที่ได้คะแนนเยอะจะเป็นรัฐบาล

แน่นอนหากวิเคราะห์อย่างนี้แล้วพรรคไหนล่ะที่จะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งดูแล้วก็ไม่ง่ายสำหรับพรรคเพื่อไทยที่จะก้าวไปเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลเพราะพรรคภูมิใจไทยที่มีอิทธิพลอันรองลงมาจากพรรคเพื่อไทยในแถบภาคอีสานก็คงจะไม่ปล่อยให้พรรคเพื่อเก็บกวาดคะแนนอย่างท้วมทนอันจริงว่ากันว่าพรรคภูมิใจไทยของเสี่ยหนูทดลองก็กว้านซื้อ ส.ส. ในกวนเพื่อไทยได้มาหลายคนอยู่ด้วยแลกเปลี่ยนหลายบาทอยู่ก็ทำให้พรรคเพื่อที่หวังว่าจะคะแนนแบบแลนด์สไลด์คงจะยากและดูเหมือนทุกพรรคก็ใช้กำลังในการดูด ส.ส. เข้ามาอยู่ในพรรค เราจะเห็นว่าพรรคที่นับว่าแก่ที่สุด ที่เคยมีสส. อยู่ในพรรคเป็นจำนวนมากก็ไหลออกไม่หยุดมองได้ว่าส่วนหนึ่งไม่อาจทดต่อความยั่วยวนของอำนาจเงินที่เป็นพลังสำคัญในการดูดส.ส. อย่างเป็นระบบเช่นกันและการดูดสส. แต่ล่ะครั้งไม่ใช่ว่าจะมาคนเดียว แต่อาจมาทั้งกลุ่มนั้นหมายความว่าพรรคใดสามารถดูด ส.ส. ได้ทั้งกลุ่มหรือทั้งทีมและมีอำนาจการต่อรองสูงในการเข้ามาในพรรคหนึ่งซึ่งสิ่งนี้ก็จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป สส.ที่ไม่เคยมีผลงานก็จะหมดบทบาทเช่นกัน และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าหากเราพิจารณาถึงคุณธรรม และจริยธรรมในการปกครองหรือแม้กระทั่งในการเลือกตั้งสิ่งเหล่านี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้เพราะการเป็นสส. เป็นอาชีพหนึ่งเมื่อเป็นอาชีพก็จะต้องมีการลงทุนเมื่อมีการลงทุนก็ต้องมีกำไร

ดังนั้นความคาดหวังว่านักธุรกิจจะใช้หลักธรรมาภิบาลในการทำการค้าเป็นเรื่องยากและทุกพรรคจึงไม่ให้ความสำคัญในประเด็นของธรรมาภิบาลเลือกตั้งในประเทศไทยเพราะจะขัดแย้งกับความรู้สึกที่จะต้องหาวิธีการหรือกลไกลในการเลือกตั้งเพื่อให้ได้คะแนนมากที่สุดและสามารถอ้างได้ว่านี้คือเสียงของประชาชนที่มอบความไว้ใจให้จัดตั้งรัฐบาลทั้งที่วิธีการได้มาซึ่งคะแนนนั้นดูไม่ดูโสภาสักเท่าไรเนื่องจากทุกพรรคจึงอาศัยความได้เปรียบทางการเงินที่มาสนับสนุนเพราะการเลือกตั้งโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมนั้นไม่มีอยู่จริงในโลกเป็นเพียงมายาคติที่นักการเมืองพยายามใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองก็เท่านั้น

หากนักการเมืองที่ดำเนินการทางการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมไม่มีนอกในคงจะไม่ร่ำรวยอย่างมหาศาลหลังจากที่เลิกเล่นการเมืองเมื่อเป็นอย่างนี้สส. ทุกคนจึงมีเป้าหมายของตัวเองที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนหลังจากที่ได้รับคะแนนแล้วและเดินเข้ามาในสภาอันทรงๆ ซึ่งเขาจะพบเจอกับเสื้อ สิงห์ กะทิ แรด ฯลฯ ตรงนี้จะทำให้สิ่งที่รับมั่นกับประชาชนว่าจะทำสิ่งนี้สิ่งนั้นก็จะเปลี่ยนไปและจะพยายามรักษาตัวเองก่อนที่จะรักษาคำมั่นสัญญากับประชาชนเพราะประชาชนไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสส.ที่เราเลือกไปทั้งที่เคยรับปากอย่างเต็มร้อยว่าจะจัดการกับปัญหาต่างๆของพวกเขาแต่สุดท้ายสิ่งที่ประชาชนได้รับคือความหวังเท่านั้นส่วนอย่างอื่นไม่มีหรืออาจจะมีบ้างแต่เป็นเพียงสะเก็ดเล็กๆน้อยๆผมจึงบอกว่าทุกครั้งของการเปิดประชุมสภาควรให้ผู้นำทุกศาสนาเข้าไปเทศนาธรรมศาสนาล่ะหนึ่งชั่วโมงเพื่อเป็นการย้ำเตือนสิ่งที่พวกเขาสัญญากับประชาชนว่าควรจะใสใจแค่ไหนและจำเป็นที่เขาจะต้องปฏิบัติตามคำพูดที่กล่าวไว้ในขณะที่หาเสียงกระนั้นก็ตามการเลือกตั้งทุกครั้งจะพบว่าการยึดตามสัญญาที่ให้กับประชาชนก็ยังเหมือนเดิมที่ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงกล่าวคือน้อยมากที่จะปฏิบัติและสิ่งที่สำคัญคำสัญญาใดๆ หากไม่ปฏิบัติตามนับว่าผิดหลักธรรมทางศาสนาจึงยากจะให้สส. ทุกคนไตร่ตร่องเพื่อความคลายทุกข์ของชาวบ้าน

ดังนั้นความคาดหวังของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อนั้นดูเหมือนอาจจะไม่ใช่แลนด์สไลด์และอาจจะเป็นความหวังครั้งสุดท้ายของคนที่อยู่แดนไกลที่ต้องการกลับมาเลี้ยงหลานจริงไม่จริงรู้เพราะคนอีสานก็ตื่นรู้มากเท่าๆกับทุกๆท่านรู้ และอาจมองได้ว่าแลนด์สไลด์มีโอกาสที่สลับขั้วกันซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริงก็สร้างความช้ำใจให้คนแดนไกลไม่น้อยและหมดโอกาสที่จะกลับมาอย่างสบายๆ และทั้งหมดทั้งปวงนั้นอยู่ที่ว่าพรรคใดจะเป็นผู้นำในการรวบรวมเสียงข้างมากเพื่อจัดรัฐบาลซึ่งไม่จำเป็นต้องได้รับคะแนนมากกว่าพรรคอื่น และพิจารณาอย่างก็จะมองได้ว่าหลังการเลือกตั้งเสร็จทุกกวนทุกมุ้งของแต่ล่ะพรรคจะมีการเจรจาต่อรองความเป็นไปได้ในการเข้ามาเป็นรัฐบาลเพราะเป็นที่ทราบดีว่าทุกพรรคต้องการเป็นฝ่ายรัฐบาลไม่มีพรรคไหนต้องการเป็นฝ่ายค้านแน่นอน