วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 16:19 น.

การเมือง » คอลัมน์

แยกรัชวิภา

บ้านเมืองออนไลน์ : วันอังคาร ที่ 05 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 13.55 น.

ผู้นำธรรมาภิบาลกับการส่งเสริมสภาธรรมาภิบาลแห่งชาติ

ผู้นำธรรมาภิบาลกับการส่งเสริมสภาธรรมาภิบาลแห่งชาติ

 

รองศาสตราจารย์ ดร.ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล

 

ผู้นำต้องสุจริต ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในความหมายในแง่บุคคลหรือกลุ่มคนก็ตาม เนื่องจากผู้นำเป็นผู้ที่มีอิทธิพลและขณะเดียวกัน ยังเป็นผู้ที่มีความสามารถในการนำทีมหรือกลุ่มคนให้ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายต่าง ๆ ของผู้นำด้วย ดังนั้น ผู้นำจะต้องมีความรับผิดชอบควบคู่กันไปด้วยทั้งในแง่ความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ หรือแม้แต่มีหน้าที่ช่วยส่งเสริมแรงบันดาลใจแก่คนรอบข้างเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน ผู้นำธรรมาภิบาลมีบริบทที่กว้าง เช่น ผู้นำทางการเมือง ผู้นำองค์กรเอกชนหรือผู้นำในองค์กรทางการศึกษา  ซึ่งมาจากสาขาอาชีพและสถานะทางสังคมที่แตกต่างและหลากหลาย

การสร้างผู้นำไม่ได้เกิดขึ้นแบบอัตโนมัติทันทีทันใดหากแต่เกิดจากการพัฒนาคุณสมบัติและค่อย ๆ สร้าง เป็นขั้นเป็นตอน ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าผู้นำจะเป็นบุคคลที่ได้ผ่านการฝึกฝนและพัฒนาทักษะต่าง ๆ โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ที่สำคัญ ได้แก่

การเรียนรู้และพัฒนาทักษะการศึกษาและการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ทั้งในด้านความรู้ทางทฤษฎีและทักษะการปฏิบัติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ การศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้ผ่านการทำงานจริง

พัฒนาทักษะการคิดการสร้างทักษะในการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและวิเคราะห์สถานการณ์ รวมถึงการแก้ปัญหาและการเรียนรู้จากความล้มเหลว

การเรียนรู้จากประสบการณ์การสร้างผู้นำสามารถเกิดขึ้นผ่านประสบการณ์การทำงานต่าง ๆ โดยการเผชิญกับสถานการณ์และปัญหาที่ต้องแก้ไขในชีวิตประจำวัน

การเป็นตัวอย่างและการเป็นผู้มีส่วนร่วมผู้นำควรเป็นตัวอย่างที่ดีต่อผู้ในทีมหรือกลุ่ม และให้การสนับสนุนและกำลังใจให้กับคนรอบข้าง เพื่อให้พวกเขาเติบโตพัฒนาเป็นผู้นำในอนาคตที่ดี

การสร้างความเชื่อมั่นและการรับผิดชอบผู้นำควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีมและผู้ที่ต้องการนำ โดยเฉพาะเรื่องของระเบียบวินัย ตลอดจนความรับผิดชอบต่องานที่ทำ

การพัฒนาทักษะระหว่างบุคคลการสื่อสารและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ และการเรียนรู้จากประสบการณ์และความแตกต่างของคนที่มีส่วนร่วมในการทำงาน

การสร้างผู้นำไม่ได้เกิดขึ้นโดยทันที มันเกิดขึ้นผ่านการฝึกฝน การเรียนรู้ และประสบการณ์ที่หลากหลายที่มาพร้อมกับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในทางที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดที่เป็นไปได้ในทุกสถานการณ์ที่พบเจอในชีวิตประจำวันและการทำงานของผู้นำ

การสร้างผู้นำทางสังคมเกิดจากหลายปัจจัยหลายด้านด้วยกัน โดยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านั้น มีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อการเป็นผู้นำ ซึ่งการสร้างผู้นำทางสังคมมีความยากลำบากเพราะมีตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิเช่น

สภาพแวดล้อมทางสังคมสภาพแวดล้อมที่ไม่สนับสนุนหรือไม่เต็มใจในการยอมรับและส่งเสริมผู้นำทางสังคม อาจส่งผลให้การสร้างผู้นำมีความยากลำบาก เช่น การเจาะลึกในโครงสร้างทางสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยหรือการปกครองที่ไม่สนับสนุนการเป็นผู้นำ

การส่งเสริมและการพัฒนาทักษะบางครั้งสภาพแวดล้อมที่ไม่มีโอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำทางสังคมอาจทำให้การสร้างผู้นำมีความยากลำบาก

ความคาดหวังทางสังคมบางครั้งผู้ที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำทางสังคมอาจเผชิญกับการกดดันหรือการคาดหวังที่สูงจากสังคม ซึ่งอาจทำให้มีผลต่อความสามารถของผู้นำได้

ข้อจำกัดในการเข้าถึงทรัพยากรสำหรับการสร้างผู้นำนั้น ทรัพยากรต่าง ๆ มีความจำเป็นด้วยเช่นกัน เพราะจัดเป็นเครื่องมือที่สำคัญ  การไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรเพื่อใช้พัฒนาความสามารถในการเป็นผู้นำย่อมมีผลเช่นกัน อย่าง เช่น การศึกษา การอบรม หรือโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่น

ความเชื่อทางส่วนตัวบางครั้งอาจมีความขัดแย้งระหว่างความเชื่อทางส่วนตัวและความพร้อมที่จะเป็นผู้นำ หรือความกลัวที่จะเปิดเผยตนเองและเข้าสู่บทบาทของผู้นำทางสังคม

การสร้างผู้นำทางสังคมไม่ใช่เรื่องที่ง่ายและมีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการเป็นผู้นำ แต่ผ่านการสร้างทักษะ การสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมและการพัฒนาทักษะต่าง ๆ อาจช่วยเสริมสร้างผู้นำทางสังคมได้ในที่สุด

ผู้นำการเมืองกับความโปร่งใสเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผู้นำธรรมาภิบาล หมายความว่า โปร่งใสในการเมืองเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจในกระบวนการการปกครอง การพิจารณาความโปร่งใสของผู้นำการเมือง มีตัวบ่งชี้ อาทิเช่น

การเปิดเผยข้อมูลและการสื่อสารที่ชัดเจนผู้นำทางการเมืองที่โปร่งใสมักจะเน้นการเปิดเผยข้อมูลให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่าย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบาย งบประมาณ หรือการตัดสินใจที่สำคัญ และการสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายของนโยบายหรือมิตรภาพทางรัฐ

การดำเนินการและตัดสินใจที่โปร่งใสผู้นำทางการเมืองควรดำเนินการและตัดสินใจในกระบวนการที่โปร่งใส ไม่มีการมีส่วนได้เสียในการตัดสินใจที่มีผลต่อส่วนรวมโดยไม่ได้ประกาศเป็นสาธารณะ มีกระบวนการการตัดสินใจที่เปิดเผยเพื่อให้สาธารณะติดตามได้

การปฏิบัติตามกฎหมายและความเป็นธรรมผู้นำทางการเมืองที่โปร่งใสจะเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างในการทำตามความเป็นธรรมและค่านิยมที่ดีในการปกครอง

การประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข้อมูลอย่างถูกต้องมีช่องทางในการให้ข้อมูล มีการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์เพื่อให้สาธารณชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์

การควบคุมและการตรวจสอบการมีระบบควบคุมและการตรวจสอบกระบวนการการปกครองเพื่อให้มั่นใจว่ามีการดำเนินการอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

ลักษณะของผู้นำทางการเมืองที่มีความโปร่งใส ช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นและความเข้าใจจากสาธารณชนและชุมชนที่อยู่ในประเทศหรือพื้นที่ เป็นการส่งเสริมการปกครองบ้านเมืองที่ดีและเป็นธรรม ให้ก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง

นอกจากธรรมาภิบาล จะใช้เป็นหลักประกันที่ดีต่อตัวผู้นำด้านจิตใจและอารมณ์แล้ว ธรรมาภิบาล ยังเป็นหลักดำรงชีวิตที่เป็นพื้นฐานชีวิตและสร้างสังคม ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น ทั้งในแง่ของความมีสุขความสุจริตความเท่าเทียมความเชื่อมั่นความสัมพันธ์ที่ดีและความมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม

จะเห็นได้ว่ารัฐบาลที่ผ่านมา มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนธรรมาภิบาล (good governance) ไปสู่ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาชน ให้เกิดความตระหนักและใส่ใจ ตลอดจนประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งประกอบด้วยหลักนิติธรรม หลักคุณธรรมหลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักสำนึกรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า โดยหลักธรรมาภิบาลนี้มีความสอดคล้องกับความต้องการของสาธารณะชน และขณะเดียวกันสาธารณะชนก็มีความคาตหวังให้ทุกภาคส่วน อย่างให้เกิดนำไปการปฏิบัติอย่างจริงจัง

หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี หมายความว่า หลักการบริหารงานภาครัฐ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและไต้รับการตอบสนองความต้องการ มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

ธรรมาภิบาล ที่ปรากฎในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 มีหลักพื้นฐาน 6 ประการ คือ

หลักนิติธรรม(Rule of Law) หมายถึง การตรากฎหมายที่ถูกต้องเป็นธรรม การบังคับใช้กฎหมาย การกำหนด กฎ กติกาและการปฏิบัติตามกฎกติกาที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัต โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพความยุติธรรมของสมาชิก

หลักคุณธรรม(Ethics) หมายถึง การยึดมั่นในความถูกต้องตีงาม การส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนพัฒนาตนเองไปพร้อมกัน เพื่อให้คนไทยมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ขยันอดทนมีระเบียบวินัย ประกอบอาชีพสุจริตจนเป็นนิสัยประจำชาติ

หลักความโปร่งใส(Transparency) หมายถึง การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในชาติ โดยการปรับปรุงกลไกการทำงานขององศ์กรทุกวงการให้มีความโปร่งใส

หลักการมีส่วนร่วม(Participation) หมายถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้และเสนอความเห็นในการตัดสินใจ ปัญหาสำคัญของประเทศไม่ว่าด้วยการแจ้งความเห็น การไต่สวนสาธารณะ การประชาพิจารณ์ การแสดงประชามติหรืออื่น ๆ

หลักสำนึกรับผิดชอบ(Accountability)หมายถึงการตระหนักในสิทธิหน้าที่ ความสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหาสาธารณะของบ้านเมือง และการกระตือรือร้นในการแก้ปัญหาตลอดจนความเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างและความกล้าที่จะยอมรับผลตี และเสียจากการกระทำของตนเอง

หลักความคุ้มค่า(Value for Money) หมายถึงการบริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม โดยให้มีองค์กรหรือประชาชนมีความประหยัดใช้ของอย่างคุ้มค่า สร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันไต้ในเวทีโลก และรักษาพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน

หลักธรรมาภิบาลในการบริหารบ้านเมืองที่ดี ช่วยให้การบริหารจัดการและปกครองที่สร้างสังคมที่ดีความยุติธรรม สันติภาพ และความเป็นระเบียบ ซึ่งส่งผลให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนและเสริมสร้างคุณธรรมในสังคม การบริหารบ้านเมืองที่ดีต้องให้ความสำคัญกับความเป็นกฎหมาย และคุณธรรม เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและสันติภาพที่เป็นที่ยอมรับในทุก ๆ มุมของสังคมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ต้องการผู้นำที่มุ่งมั่นที่จะให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะ การตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ และส่งเสริมความโปร่งใสและความรับผิดชอบ คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของผู้นำที่ดีคือการมีจิตใจที่สะอาด บทความนี้จะสำรวจความสำคัญของผู้นำที่มีจิตใจสะอาดในธรรมาภิบาล โดยจะตรวจสอบว่าความเป็นผู้นำที่สะอาดส่งเสริมความโปร่งใสและความรับผิดชอบอย่างไร ผู้นำที่มีจิตใจที่สะอาดส่งเสริมความไว้วางใจของสาธารณชนต่อรัฐบาล และความท้าทายในการส่งเสริมความเป็นผู้นำที่สะอาดในการกำกับดูแล

ผู้นำธรรมาภิบาล สภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ และกลุ่มเยาวชนสภาธรรมาภิบาลนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือแม้แต่กลุ่มชมรม STRONG ต้านทุจริตด้วยจิตพอเพียง องค์กรที่ช่วยกันทำกิจกรรมส่งเสริมความสุจริต ที่สังกัดอยู่ในหน่วยงานคือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่เป็นคนหนุ่มสาวในสถาบันอุดมศึกษานั้น เป็นกลุ่มที่เป็นความหวังของสังคม ที่จะช่วยปลูกฝังความคิดสุจริต ป้องกันการโกง โดยเฉพาะส่งเสริมบทบาทของเยาวชนให้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีพื้นฐานจิตใจที่ดี ที่เรียกว่าจิตใจใสสะอาด เป็นผู้นำที่สุจริต เพื่อจะสร้างบ้านเมืองสุจริต และรักษาบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย ลดปัญหาคอร์รัปชั่นในบ้านเมืองและในสังคมให้น้อยลง จนหมดสิ้นไปในที่สุดได้

อย่างไรก็ตาม ต้องตระหนักร่วมกันให้ได้ว่า การคอร์รัปชันเป็นอุปสรรคสำคัญต่อธรรมาภิบาล เป็นความท้าทายจิตใจของคนในสังคม โดยเฉพาะผู้นำทางสังคม ซึ่งได้แก่นักการเมือง ที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง และกลุ่มผู้นำของสถาบันทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นสถาบันครอบครัว จนไปถึงสถาบันการเมือง การศึกษาและสถาบันศาสนา ผู้นำทางสังคมต้องมีจิตใจที่สะอาดและไม่ถูกทำให้หลงทางด้วยผลประโยชน์ที่ได้จากการคอร์รัปชั่นที่จะส่งผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากจะบ่อนทำลายความไว้วางใจของสาธารณชน และเป็นการขโยมทรัพยากรไปจากบริการสาธารณะ ผู้นำที่มีจิตใจที่สะอาดให้ความสำคัญกับความต้องการของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว ผู้นำธรรมาภิบาลจะขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม มากกว่าที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับตนเองหรือพรรคพวก เพื่อนพ้อง ซึ่งผู้นำหลายรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ได้รับการยอมรับและยกย่องจากความพยายามในการต่อสู้กับการทุจริตและส่งเสริมความโปร่งใส

อย่างไรก็ตาม คอร์รัปชั่นเป็นอริกับธรรมาภิบาล คอร์รัปชั่นเป็นความท้าทายของจิตใจคน โดยเฉพาะผู้นำทางสังคมซึ่งรวมถึงนักการเมืองที่บริหารประเทศ ซึ่งหมายรวมไปถึงผู้นำของสถาบันทางสังคมต่าง ๆ ที่มีอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถาบันครอบครัว สถาบันการเมือง สถาบันการศึกษาและสถาบันศาสนา ผู้นำสังคมจะต้องรักษาจิตใจที่สุจริต อย่าหลงไปกับประโยชน์ของการคอร์รัปชั่นเพราะเป็นอันตรายต่อชีวิต ขณะเดียวกันก็จะทำลายความไว้วางใจของประชาชน การคอร์รัปชั่นถือเป็นการอาชญากรรมที่ร้ายแรง ผู้นำธรรมาภิบาล ต้องสามารถแยกแยะประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวมให้ได้ ต้องคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชนก่อนประโยชน์ส่วนตัว ส่งเสริมนโยบายที่ดีต่อส่วนรวม

ผู้นำธรรมาภิบาลมีความรับผิดชอบสาธารณะ คือจะต้องขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม มากกว่าที่จะดำเนินนโยบายเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับตนเองหรือพรรคพวก เพื่อนพ้อง ซึ่งผู้นำหลายรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ที่ได้รับการยอมรับ การยกย่อง และยังอยู่ในความทรงจำของประชาชนคือการเป็นผู้นำธรรมาภิบาลที่ใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชั่นและส่งเสริมความโปร่งใส ตลอดจนการเคารพกฎหมาย ยึดหลักคุณธรรม การสนับสนุนและส่งเสริมความโปร่งใส การมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบและความคุ้มค่า  เป็นผู้นำที่มีธรรมาภิบาลที่ต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง เป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างสังคมที่มีความโปร่งใสเท่าเทียมซึ่งเป็นการส่งเสริมคุณค่าที่ดีของสังคมไปในทิศทางที่ถูกต้อง