การเมือง » คอลัมน์
แยกรัชวิภา
บ้านเมืองออนไลน์ : วันพุธ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567, 18.45 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
“ปลาหมอสีคางดำ” ประโยชน์และรสชาติ
“ปลาหมอสีคางดำ” ประโยชน์และรสชาติ
โดย มีนา รัตนากรพิสุทธิ์
ขึ้นชื่อว่า “ปลาหมอสีคางดำ” ทุกคนคงรู้จักดีว่ามันเป็นปลาต่างถิ่น หรือ เอเลี่ยนสปีชีส์ ที่มีความสามารถในการขยายพันธุ์สูงมาก จนถึงขณะนี้ระบาดไปแล้วหลายจังหวัด กระทั่ง“กรมประมง” ต้องออกปฏิบัติการล่าปลาชนิดนี้ เพื่อลดปริมาณและควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัด โดยได้แต่งตั้ง“คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ” ขึ้นเพื่อวางแผนและกำหนดมาตรการในการควบคุม ป้องกัน และแก้ไขปัญหา รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเครือข่ายชาวประมงและเกษตรกรในการกำจัดปลาหมอสีคางดำ ด้วยเรือประมงขนาดไม่เกิน 3 ตันกรอส ติดอวนรุน ร่วมกับการปล่อยปลาผู้ล่า เช่น ปลากะพงขาวปลาอีกง ในแหล่งน้ำที่พบการแพร่ระบาดเพื่อควบคุมและลดจำนวนประชากรปลาหมอสีคางดำขนาดเล็กที่พบในธรรมชาติ
เมื่อเร็วๆนี้ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ได้เปิดปฏิบัติ “การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ” นำร่องพร้อมกันใน 5 จังหวัดได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ เพชรบุรี และกทม. ล่าสุดเมื่อวันก่อน จังหวัดสมุทรสงคราม ก็เดินหน้ากิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” ต่อยอดการกำจัดปลาชนิดนี้ด้วยอีกกิจกรรมหนึ่ง
อีกมาตรการที่ขาดไม่ได้หากต้องการให้ชาวบ้านช่วยกันจับปลาขึ้นมาคงหนีไม่พ้นการให้ความรู้ถึงประโยชน์ของปลาชนิดนี้ที่สามารถนำมารับประทานได้ไม่ต่างกับปลาชนิดอื่นๆเพื่อสร้างพลังของการบริโภค (เฉกเช่นเดียวกับที่ประเทศไทยสามารถใช้จัดการกับปลาซัคเกอร์และหอยเชอรี่ได้สำเร็จ) เพราะอันที่จริงปลาชนิดนี้มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ปลานิล ยิ่งถ้าวัตถุดิบชนิดนี้อยู่ในมือแม่ครัวหัวป่าก์ด้วยแล้วจะพบว่าสามารถทำให้อร่อยได้สารพัดเมนูทีเดียว
เริ่มกันที่ของง่ายที่สุดอย่าง “ปลาแดดเดียว” ที่หากเป็นปลาไซด์เล็กก็ต้องทอดให้กรอบสุดๆ ทั้งตัว หรือยิ่งถ้าได้ปลาตัวใหญ่หน่อยก็สามารถแล่เอาแต่เนื้อออกมาได้ง่าย เพราะปลาชนิดนี้ก้างใหญ่ เลาะไม่ยาก นำมาปรุงรสและทอดให้เหลืองกรอบกำลังดี ได้ชิมเมื่อไหร่รับรองจะติดใจ ชิ้นเดียวไม่พอ
หรืออีกเมนู “ปลาหวาน” ที่ใช้วิธีแล่เฉพาะเนื้อปลาออกมาหั่นเป็นเส้นๆ แล้วปรุงรสตามกรรมวิธีทำปลาหวาน เมื่อนำลงทอดแล้ว ทุกเสียงยืนยันว่า อร่อยเหมือนปลาริวกิวหวานที่เราๆท่านๆชอบกินกันเลย
เมนูขนมจีนน้ำยาปลาและแกงส้มปลาก็ไม่ควรพลาด ไม่น่าเชื่อว่าปลาหมอสีคางดำจะนำมาทำสองเมนูนี้ได้อร่อยขนาดนี้ ยิ่งถ้าได้เครื่องเคียงขนมจีนครบสูตร กินกับไข่ต้มสักฟอง เห็นทีต้องมีคนขอเบิ้ล ส่วนแกงส้มปลาใส่หน่อไม้ดองราดบนข้าวสวยร้อนๆ นี่ก็กินหมดจานไม่รู้ตัวเหมือนกัน รวมถึงของทานเล่นอย่าง ไส้อั่วปลาและข้าวเกรียบปลา ก็เป็นอะไรที่ต้องชิม ทั้งยังนำไปทำปลาร้า และน้ำปลาที่หลายจังหวัดที่ทดลองทำแล้ว ถึงกับยกนิ้วชื่นชมรสชาติกันทั้งนั้น ... นี่ล่ะ ปลาหมอสีคางดำที่สามารถรังสรรค์ได้หลากหลายเมนูจริงๆ
นอกเหนือจากการปรุงเป็นเมนูอาหารและขนมของกินเล่นแล้ว ประโยชน์ของปลาหมอสีคางดำยังนำขึ้นมาขายให้โรงงานปลาป่นเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ หรือนำไปทำปุ๋ยน้ำชีวภาพสำหรับใช้รดต้นไม้ให้ดอกผลงดงาม ได้อีกด้วย
ปัจจุบัน ราคาปลาหมอสีคางดำ (คละขนาด) ที่ยังไม่นำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่า อยู่ที่ประมาณ 7-10 บาท/กก. สามารถจับขึ้นมาได้โดยไม่ต้องลงทุนเลี้ยงซึ่งเป็นการช่วยฟื้นฟูสมดุลธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพให้สิ่งแวดล้อมในชุมชน ขณะที่ปลาที่ถูกนำไปแปรรูปแล้ว เช่น ปลาแดดเดียวแบบทั้งตัวจะอยู่ที่ 80-90 บาท/กก. แต่ถ้าแล่เฉพาะเนื้อ จะอยู่ที่ 160 บาท/กก.ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องสร้างมูลค่าให้ปลาชนิดนี้มีราคาสูงจนเกินเหตุเพราะนั่นอาจทำให้เกษตรกรบางคนทำการลักลอบขยายพันธุ์ปลาจนเกิดภาวะที่ควบคุมไม่ได้ซึ่งจะผิดเป้าประสงค์และเกิดหายนะของน่านน้ำตามมาอีกระลอกใหญ่ ... ขอเพียงช่วยกันจับ-ช่วยกันกิน-ช่วยกันใช้ ควบคู่ไปกับมาตรการอื่นๆ ตามแผนของกรมประมง เช่น กิจกรรมลงแขกลงคลอง การปล่อยปลากะพง-ปลาอีกง เป็นระยะๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด พร้อมๆไปกับการประเมินสถานการณ์ปริมาณปลา รวมถึงต้องไม่ลืมการให้ความรู้เกษตรกรและชาวบ้านที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเช่นกัน...หรืออย่างน้อยที่สุดก็ขออย่าได้มีใครนึกพิเรนทร์นำปลาชนิดนี้ไปเป็นเหยื่อตกปลาในแหล่งน้ำอื่นๆ ที่ทำให้มันแพร่ระบาดมากขึ้นไปอีกก็แล้วกัน./
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง » คอลัมน์
คอลัมน์ล่าสุด
- ...คำถามประจำวันเด็ก...
ใต้ถุนสภา - ปรากฏการณ์ "ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน" 21:25 น.
- “หนี้นอกระบบ” 05:33 น.