วันศุกร์ ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2568 19:48 น.

การเมือง » คอลัมน์

แยกรัชวิภา

บ้านเมืองออนไลน์ : วันอังคาร ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 18.59 น.

คุณธรรมในวิถีชีวิตดิจิทัล : กับความท้าทาย "คุณธรรมคือชาติ"

คุณธรรมในวิถีชีวิตดิจิทัล : กับความท้าทาย "คุณธรรมคือชาติ"

รองศาสตราจารย์ ดร.ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน คุณธรรมและจริยธรรมที่เคยเป็นรากฐานสำคัญของวิถีชีวิตในสังคมไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ไม่เพียงแต่มอบโอกาสในการเชื่อมโยงและเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น แต่ยังสร้างพื้นที่สำหรับการแพร่กระจายข่าวลวง (Fake News) และพฤติกรรมที่ขัดต่อคุณธรรม การบ่มเพาะค่านิยม "คุณธรรมคือชาติ" ให้เข้มแข็งในยุคดิจิทัลจึงเป็นความจำเป็นเพื่อรักษาความมั่นคงทางสังคมและจิตใจ
บทความนี้ ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์บทบาทของคุณธรรมในยุคดิจิทัล พร้อมทั้งเสนอแนวทางในการส่งเสริมและปรับตัวให้สอดคล้องกับค่านิยม "คุณธรรมคือชาติ" โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและผู้ใช้งานออนไลน์
คุณธรรมในยุคดิจิทัล(Digital Moral Values) ความจำเป็นและความท้าทาย
Digital Moral Values หมายถึง ชุดของคุณธรรมและจริยธรรมที่ใช้เป็นหลักในการปฏิบัติในโลกดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม การใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ และการสร้างสังคมออนไลน์ที่มีความยุติธรรมและเคารพสิทธิของทุกคน คุณค่าด้านจริยธรรมในบริบทดิจิทัลมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น ความไม่เปิดเผยตัวตน การกระจายข่าวลวง และการละเมิดความเป็นส่วนตัว
ตัวอย่าง Digital Moral Values ได้แก่
ความสุจริต การแชร์ข้อมูลหรือเนื้อหาที่ถูกต้องและไม่หลอกลวง
ความรับผิดชอบ การรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดจากการใช้งานดิจิทัล เช่น การแสดงความคิดเห็นหรือการโพสต์
การเคารพผู้อื่น การไม่กลั่นแกล้งทางออนไลน์ (Cyberbullying) และการให้เกียรติความแตกต่างทางความคิด
จิตสาธารณะ การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เช่น การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมหรือการสนับสนุนกิจกรรมชุมชน
ในแง่ของการคิดเชิงคุณธรรมจริยธรรม จะเห็นได้ว่า Digital Moral Values มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือในโลกออนไลน์ อย่างน้อยมีบริบทด้านเหตุผล 2 ประการ คือ
1. ความจำเป็นของคุณธรรมในวิถีชีวิตดิจิทัล
คุณธรรมเป็นรากฐานในการสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนในสังคม ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในโลกดิจิทัลที่การปฏิสัมพันธ์มักเกิดขึ้นโดยปราศจากการพบหน้ากัน การยึดมั่นในคุณธรรม เช่น ความสุจริต ความรับผิดชอบ และการเคารพสิทธิผู้อื่น ช่วยป้องกันปัญหาการหลอกลวง การละเมิดสิทธิ และความขัดแย้งในสื่อออนไลน์
ตัวอย่างเช่น ความสุจริต (Integrity) มีบทบาทสำคัญในการลดการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่การมีจิตสาธารณะ (Public Mind) สามารถช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้งานร่วมกันสร้างสรรค์เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
2. ความท้าทายในการปลูกฝังคุณธรรมในยุคดิจิทัล
แม้ว่าคุณธรรมจะเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพื้นฐานที่ดี แต่ในบริบทดิจิทัลมีปัจจัยที่ทำให้การยึดมั่นในคุณธรรมกลายเป็นเรื่องท้าทาย ได้แก่
ความไม่เปิดเผยตัวตน การใช้งานออนไลน์ที่ผู้ใช้อาจไม่ต้องแสดงตัวตนที่แท้จริงทำให้เกิดพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบ เช่น การกลั่นแกล้งทางออนไลน์ (Cyberbullying)
แรงกดดันทางสังคม การแสดงตนในโลกออนไลน์มักถูกขับเคลื่อนด้วยแรงกดดันทางสังคม เช่น การแข่งขันเพื่อยอดไลก์หรือผู้ติดตาม ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ขัดต่อคุณธรรม
การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม สื่อดิจิทัลเปิดโอกาสให้เยาวชนเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสมหรือขัดต่อค่านิยมทางศีลธรรมได้ง่าย
ค่านิยม "คุณธรรมคือชาติ" ในบริบทดิจิทัล
ค่านิยม "คุณธรรมคือชาติ" เป็นแนวคิดที่มุ่งส่งเสริมการยึดมั่นในคุณธรรมพื้นฐานของสังคมไทย เช่น ความกตัญญู ความมีวินัย และความซื่อสัตย์สุจริต การนำค่านิยมนี้มาประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิตดิจิทัลต้องคำนึงถึงวิธีการที่เหมาะสมและเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวอย่างการประยุกต์ ได้แก่
การพัฒนาเนื้อหาดิจิทัลที่ส่งเสริมคุณธรรม สร้างเนื้อหาในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย เช่น การ์ตูนหรือคลิปวิดีโอ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของการปฏิบัติตามคุณธรรมในชีวิตประจำวัน
การบ่มเพาะคุณธรรมผ่านเกมและแอปพลิเคชัน: ใช้เกมดิจิทัลหรือแอปที่มีการจำลองสถานการณ์เพื่อให้ผู้เล่นเรียนรู้คุณธรรม เช่น เกมที่เน้นการแก้ปัญหาด้วยการมีจิตสาธารณะหรือการรับผิดชอบต่อสังคม
การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในสื่อสังคมออนไลน์: ส่งเสริมการสร้างชุมชนออนไลน์ที่เน้นคุณธรรม โดยมีระบบตรวจสอบเนื้อหาและพฤติกรรมที่สนับสนุนการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์
แนวทางส่งเสริมคุณธรรมในยุคดิจิทัล
การศึกษาและการปลูกฝังในโรงเรียน: รวมคุณธรรมในหลักสูตรการศึกษา เช่น การสอนการใช้สื่อออนไลน์อย่างรับผิดชอบ การตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์ และการเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
การพัฒนาผู้นำคุณธรรมดิจิทัล สร้างเครือข่ายเยาวชนและบุคคลที่เป็นต้นแบบในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรม เพื่อขยายผลไปยังชุมชนออนไลน์
การรณรงค์ผ่านสื่อดิจิทัล ใช้แคมเปญออนไลน์ที่เน้นการแสดงออกถึงคุณธรรม เช่น #ซื่อสัตย์ออนไลน์ หรือ #จิตสาธารณะดิจิทัล เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
การสร้างกลไกควบคุมที่ยืดหยุ่น กำหนดนโยบายหรือกฎระเบียบในการใช้งานสื่อดิจิทัลที่ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่ส่งเสริมการใช้งานที่มีคุณธรรม
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า การส่งเสริมคุณธรรมในวิถีชีวิตดิจิทัลเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน การบูรณาการค่านิยม "คุณธรรมคือชาติ" กับวิถีชีวิตดิจิทัลจะช่วยให้สังคมไทยสามารถปรับตัวและดำรงคุณค่าที่ดีงามในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งนี้ การปลูกฝังคุณธรรมในยุคดิจิทัลไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคล แต่ยังเป็นการสร้างสังคมที่ยั่งยืนด้วยพื้นฐานของคุณธรรมที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม โจทย์ใหญ่ที่ต้องช่วยกันขบคิดคือ จะมีวิธีอะไรมาช่วยให้การบูรณาการค่านิยมของประเทศไทยที่เน้นคุณธรรมคือชาติ เข้ากับการสอนคุณธรรมแบบดั้งเดิม และการสอนคุณธรรมโดยใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ สามารถดำเนินการได้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ต่อไปนี้เป็นกระบวนการและวิธีการที่สามารถนำมาปรับใช้ได้
1. การสืบสานและปรับปรุงเนื้อหาคุณธรรมแบบดั้งเดิม
การใช้หลักธรรมจากศาสนาและภูมิปัญญาท้องถิ่น นำเนื้อหาคุณธรรม เช่น ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ และการมีจิตสาธารณะ ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมไทย มาเป็นเนื้อหาหลักในการสอน พร้อมประยุกต์ให้เข้ากับบริบทปัจจุบัน เช่น การเคารพสิทธิในโลกดิจิทัล หรือการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใสในระบบออนไลน์
การเล่าเรื่องผ่านประวัติศาสตร์และวรรณกรรม ใช้เรื่องเล่าหรือนิทานที่สื่อถึงคุณธรรม เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจความสำคัญและที่มาของค่านิยมไทย
2. การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ในกระบวนการสอน
การเรียนรู้ผ่านเกมดิจิทัลที่ส่งเสริมคุณธรรม พัฒนาเกมหรือแอปพลิเคชันที่จำลองสถานการณ์ซึ่งผู้เรียนต้องตัดสินใจโดยยึดหลักคุณธรรม เช่น เกมที่เน้นความซื่อสัตย์ ความมีวินัย หรือการช่วยเหลือเพื่อนในทีม
การใช้เทคโนโลยี AR/VR นำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในการสอน เช่น จำลองสถานการณ์ที่ต้องแก้ไขปัญหาด้วยความซื่อสัตย์ หรือการทำงานร่วมกันในชุมชนออนไลน์เพื่อสร้างจิตสาธารณะ
การเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ใช้แพลตฟอร์มที่ผู้เรียนสามารถร่วมอภิปราย แสดงความคิดเห็น และเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาคุณธรรมในสังคมร่วมสมัย เช่น การจัดกิจกรรมเวิร์กชอปออนไลน์ที่ผู้เรียนช่วยกันวิเคราะห์กรณีศึกษา (Case Studies)
3. การพัฒนาผู้สอนให้เป็นผู้นำทางคุณธรรมยุคดิจิทัล
การอบรมครูและผู้สอน จัดอบรมครูและผู้นำชุมชนให้เข้าใจถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างคุณธรรม และวิธีการสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผสมผสานระหว่างเนื้อหาดั้งเดิมกับเครื่องมือสมัยใหม่
การใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ ผู้สอนสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการกระจายเนื้อหาที่เกี่ยวกับคุณธรรม เช่น การสร้างแฮชแท็กเกี่ยวกับคุณธรรมในชีวิตประจำวัน (#คุณธรรมดิจิทัล) เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรม
4. การออกแบบกิจกรรมเรียนรู้แบบบูรณาการ
การทำโครงการชุมชนออนไลน์ ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในโครงการที่เน้นการพัฒนาชุมชน เช่น การจัดกิจกรรมออนไลน์เพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลน หรือการรณรงค์เรื่องความซื่อสัตย์ในระบบการศึกษา
การสร้างเครือข่ายจิตอาสาในโลกดิจิทัล ส่งเสริมให้เยาวชนร่วมกิจกรรมจิตอาสาผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การเผยแพร่เนื้อหาที่ให้ความรู้ด้านคุณธรรม หรือการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสผ่านการระดมทุนออนไลน์
5. การประเมินผลและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการวิเคราะห์พฤติกรรมและผลลัพธ์การเรียนรู้ เพื่อประเมินว่าผู้เรียนสามารถพัฒนาคุณธรรมในชีวิตประจำวันได้มากน้อยเพียงใด
การสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาจิตวิทยา การศึกษา และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาวิธีการและเครื่องมือใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างการบูรณาการ
กิจกรรมแบบดั้งเดิม การสอนเรื่องความกตัญญูผ่านบทสวดมนต์หรือบทเรียนจากพุทธศาสนา
เสริมด้วยนวัตกรรม สร้างแอปพลิเคชั่นที่ผู้เรียนสามารถบันทึกการแสดงออกถึงความกตัญญู เช่น การดูแลผู้สูงอายุหรือการทำหน้าที่ในครอบครัว พร้อมรับคำแนะนำผ่านระบบ AI
จะเห็นได้ว่า ท่ามกลางแสงแห่งคุณธรรมนี้ กระทรวงวัฒนธรรมและศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ได้ร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่มุ่งปลูกฝังและสร้างความตระหนักในความสำคัญของคุณธรรม ซึ่งมิใช่แค่แนวคิดทางปรัชญาเท่านั้น แต่เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการหล่อหลอมสังคมให้เต็มไปด้วยความดีงาม การยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความกตัญญู เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในวิถีชีวิตของเราทุกคน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามัคคีและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่สามารถสร้างสรรค์สังคมที่ดีได้จริง
การปลูกฝังคุณธรรมในสังคมทุกกลุ่มนั้น คือการปลูกฝังคุณธรรมในทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ การบรรจุคุณธรรมในหลักสูตรการศึกษาและกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมหรือการสัมมนาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ยึดมั่นในจริยธรรม ล้วนเป็นหนทางที่นำพาให้เราก้าวไปสู่สังคมที่เต็มไปด้วยคุณค่าที่แท้จริง  ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การเฉลิมฉลองสงกรานต์ หรือวันสำคัญทางศาสนา เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมคุณธรรม เป็นการเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันให้กลมกลืนกัน การเคารพผู้อาวุโสและการแสดงความเคารพซึ่งกันและกันในขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นภาพสะท้อนแห่งความสำนึกดีในชีวิตและสังคม
นวัตกรรมเชิงวัฒนธรรมเพื่อการปลูกฝังคุณธรรม ในยุคแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล การสร้างเนื้อหาสื่อที่เชื่อมโยงคุณธรรมกับวิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างสรรค์สังคม คุณธรรมไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในอดีต แต่ยังสามารถเติบโตและสอดแทรกอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความทันสมัยผ่านแคมเปญในโซเชียลมีเดียหรือแอปพลิเคชั่นเพื่อปลูกฝังจริยธรรมให้แก่เยาวชนและคนรุ่นใหม่
การสร้างเครือข่ายคุณธรรมดิจิทัล ซึ่งจะส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม ไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องมือในการแบ่งปันความดี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้ในคุณธรรมผ่านช่องทางดิจิทัล
การส่งเสริมคุณธรรมในระดับพื้นที่ การส่งเสริมคุณธรรมไม่ใช่เพียงแค่การจัดกิจกรรมในระดับชาติเท่านั้น แต่ต้องการการบูรณาการที่เกิดขึ้นในระดับพื้นที่ด้วย การสร้างโครงการ "ชุมชนคุณธรรม" ในแต่ละท้องถิ่นเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมที่ยึดมั่นในความดี ทำให้คุณธรรมกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันในแต่ละพื้นที่
ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ สังคมแห่งคุณธรรม สิ่งที่เราหมายมั่นจะได้เห็นคือสังคมที่ยึดมั่นในคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ในสังคมที่ทุกคนเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความสามัคคีจะเกิดขึ้นจากความเข้าใจและความรักในคุณธรรม สังคมที่ไม่เพียงแต่ก้าวไปข้างหน้าในด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี แต่ยังสามารถคงความดีงามและมีจิตสำนึกในความถูกต้อง ความเสมอภาค และความยุติธรรมได้อย่างมั่นคง
สรุปได้ว่า การขับเคลื่อน “คุณธรรมคือชาติ” จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ไม่เพียงแต่สร้างรากฐานของสังคม แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างอดีตและปัจจุบันระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อปลูกฝังคุณธรรมให้เป็นสิ่งที่หล่อหลอมจิตใจของผู้คนในสังคมไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นแรงผลักดันสู่การพัฒนาประเทศด้วย แนวคิดคุณธรรมคือชาติ มิใช่เพียงแค่คำพูดที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของอุดมการณ์ แต่คือรากฐานที่ยึดเหนี่ยวสังคมและผลักดันให้การพัฒนาแห่งชาติเป็นไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน   
คุณธรรมคือชาติ วัฒนธรรมสร้างชาติ