วันอาทิตย์ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568 15:44 น.

อาชญากรรม

“บัญชา” แนะรัฐบาลเพิ่มความกล้า ยกระดับกลไกตลาดข้าวไทย ช่วยชาวนาฟื้นตัวจากความยากลำบาก ย้ำ ไม่ได้ต้องการเยียวยา แต่ต้องสร้างเศรษฐกิจฐานราก

วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.44 น.

 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2868     เวลา 16.30 น.นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม(กธ.) กล่าวอภิปรายสนับสนุน ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ซึ่งเป็นวิกฤตเรื้อรังที่กระทบต่อหัวใจของชาวนา ซึ่งที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกได้ตกต่ำมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ฤดูกาลผลิต 2567/2568 จนถึงขณะนี้ โดยเฉพาะราคาข้าวหอมมะลิที่ในบางช่วงตกต่ำถึง เพียง 8,000–9,000 บาท/ตัน ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ทำให้ชาวนาเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง ทั่วทั้งประเทศมีเกษตรกรชาวนาได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 3.5 ล้านครัวเรือน จากผลผลิตข้าวนาปีประมาณ 27.7 ล้านตัน และข้าวนาปรังอีกกว่า 9 ล้านตัน

นายบัญชา กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลได้ตั้งวงเงินช่วยเหลือผ่านโครงการสินเชื่อรวม 2 โครงการ ได้แก่ สินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าโดยสถาบันเกษตรกร วงเงิน 15,000 ล้านบาท,สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปี 2567/68 วงเงินสูงถึง 35,481 ล้านบาท ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถเก็บผลผลิตไว้รอราคาดีขึ้น โดยรัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยแทน อย่างไรก็ดี ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 นี้ กระผมขอ สนับสนุนให้ เพิ่มวงเงินทั้ง 2 โครงการอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อชะลอการขาย ซึ่งจำเป็นต้องขยายวงเงินจาก 35,481 ล้านบาท เป็นอย่างน้อย 45,000 ล้านบาท เพื่อรองรับผลผลิตที่ยังค้างในระบบ และเพื่อขยายการเข้าถึงของชาวนาได้ทั่วถึงมากขึ้น

นายบัญชา ยังกล่าวต่อเพิ่มเติมว่า การกำหนดราคาการให้สินเชื่อควรเป็นธรรม สอดคล้องกับคุณภาพของข้าว ดังเช่นที่ใช้ในปีที่ผ่านมา อาทิ ข้าวหอมมะลิในเขต 23 จังหวัด ราคาสูงสุด 12,500 บาท/ตัน,ข้าวหอมมะลินอกเขต 11,000 บาท/ตัน,ข้าวเจ้า 9,000 บาท/ตัน,ข้าวปทุมธานีและข้าวเหนียว 10,000 บาท/ตัน มาตรการนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารการขายผลผลิตได้ดีขึ้น ไม่ถูกกดราคาในฤดูเก็บเกี่ยว และยังช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาข้าวทั้งระบบ

”พรรคกล้าธรรม ขอยืนยันว่า เราไม่ต้องการเพียงแค่นโยบายเยียวยา แต่ขอเสนอให้เพิ่มความกล้าในการยกระดับกลไกตลาดของข้าวไทยอย่างยั่งยืน ทั้งด้านงบประมาณ การตลาด และการสนับสนุนสหกรณ์ หากรัฐบาลจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้อย่างเพียงพอ จะช่วยให้ชาวนาไทยมีโอกาสฟื้นตัวจากความยากลำบาก ลดหนี้ เพิ่มรายได้ และส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างแท้จริง“

หน้าแรก » อาชญากรรม