การศึกษา
เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย ปี 2482 เหรียญที่ได้รับความนิยมสูงสุดทางวัดราชบพิตรได้ให้ร้านอัมราภรณ์แกะบล็อก
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัยปี 2482 “...เหรียญที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทางวัดราชบพิตรได้ให้ร้านอัมราภรณ์แกะบล็อก และเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับวัตถุมงคลของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์...”
“ครูบาศรีวิชัย” ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย เป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จนได้รับการยกย่องให้เป็น “นักบุญแห่งล้านนาไทย”นอกจากนี้ กิตติศัพท์และอภินิหารของท่านก็เป็นที่เลื่องลือทั้งด้านพุทธบารมีและคุณวิเศษ อีกทั้งยังเป็นพระนักพัฒนาที่หาผู้ใดเทียบเทียม
ครูบาศรีวิชัย เกิดที่บ้านปาง จ.ลำพูน เมื่อปี พ.ศ.2421 ช่วงที่ท่านเกิดได้มีนิมิตมหัศจรรย์ บิดามารดาจึงตั้งชื่อว่า “อ้ายฟ้าร้อง” ท่านมีผิวพรรณวรรณะผุดผ่อง ฉลาด ว่านอนสอนง่าย มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีเมตตา ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยเลย และที่สำคัญท่านมีความผูกพันกับพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก ชอบชวนบิดามารดาเข้าวัดอยู่เสมอ บิดามารดาจึงไปฝากเป็นศิษย์พระอธิการขัติ เจ้าอาวาสวัดบ้านปาง เพื่อศึกษาเล่าเรียนอักขระสมัยและอักษรไทย จนอายุ 18 ปีจึงบวชเป็นสามเณรและศึกษาภาษาพื้นเมือง ภาษาบาลี-สันสกฤต
ท่านสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและแตกฉาน เมื่ออายุครบบวชท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีฉายา “สิริวิชโย” แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า “พระศรีวิชัย” ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนาธุระจากพระอาจารย์จนเชี่ยวชาญ แล้วไปศึกษาเพิ่มเติมกับพระอาจารย์อุประ วัดบ้านนาแต ผู้มีชื่อเสียงทางวิปัสสนากรรมฐาน
จากนั้นออกเดินรุกขมูลธุดงควัตรไปตามป่าดงแถบภาคเหนือเป็นเวลาหลายปี จึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านปางดังเดิม ความที่ท่านเป็นพระที่พูดจาไพเราะ ยิ้มแย้มแจ่มใส มีเมตตาธรรมกรุณาธรรม และเคร่งในวัตรปฏิบัติอย่างสูง ผู้คนจึงแวะเวียนมานมัสการเยี่ยมเยือนและปรึกษาหารือไม่ขาดสาย ทุกคนก็จะได้รับคำแนะนำและชี้ทางให้เกิดความสบายใจและยึดมั่นในศีลในธรรม ท่านเป็นที่รู้จักและเคารพเลื่อมใสอย่างกว้างขวางในเวลาอันรวดเร็ว มีผู้มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วทั้งเขตภาคเหนือ
พุทธศาสนิกชนทั่วไปที่ได้ยินชื่อเสียงกิตติศัพท์และได้มีโอกาสมากราบนมัสการ ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่สร้างประโยชน์แก่พุทธศาสนามากมาย โดยได้รับความร่วมมือจากลูกศิษย์ลูกหาทั้งด้านกำลังทรัพย์และกำลังแรงงาน ที่สำคัญมีอาทิ
บูรณะวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ เป็นวัดหลวงและเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธสิหิงค์” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ บูรณะวัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ เป็นวัดที่บรรจุอัฐิของราชวงศ์เชียงใหม่ และเมื่อท่านมรณภาพก็ได้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิของท่านที่วัดนี้ด้วย สร้างทางรถยนต์ขึ้นสู่พระธาตุดอยสุเทพ ถือเป็นถนนสายประวัติศาสตร์สายเดียวในเมืองไทยให้ชื่อว่า “ถนนศรีวิชัย” โดยได้สร้างอนุสาวรีย์ของพระครูบาศรีวิชัยประดิษฐานไว้ที่เชิงดอยสุเทพ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งคุณงามความดีและบุญบารมีของท่าน บูรณะกำแพงและโบสถ์วัดจามเทวี จ.ลำพูน ซึ่งเป็นงานชิ้นสุดท้ายของพระครูบาศรีวิชัย และเป็นสถานที่จัดงานฉลองอายุครบ 60 ปีด้วย
ท่านมรณภาพที่วัดบ้านปางเมื่อปี พ.ศ. 2481 สิริรวมอายุ 60 ปี พรรษา 42 พรรษา
วัตถุมงคลของครูบาศรีวิชัยมีมากมายทั้งเมื่อยังมีชีวิตและหลังจากมรณภาพไปแล้ว สำหรับรุ่นที่เป็นที่นิยมเล่นหากันมากในหมู่นักนิยมสะสมเหรียญคณาจารย์คือ เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย ปี 2482 นับเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทางวัดราชบพิตรได้ให้ร้านอัมราภรณ์แกะบล็อก และเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับวัตถุมงคลของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2481 แบ่งออกเป็น 2 แบบ
เหรียญลงยา สำหรับแจกกรรมการ ทำเป็นพุ่มข้าวบิณฑ์ ปัจจุบันราคาอยู่หลักล้าน เหรียญรูปไข่ จะมี สองชาย และ สามชาย โดยพิมพ์สามชายได้รับความนิยมกว่าพิมพ์สองชาย พิมพ์สองชาย ให้ดูที่ข้อมือซ้ายจะมีขีดคล้ายชายจีวร 2 เส้น หากใช้กล้องส่องอาจเห็นเส้นวิ่งกึ่งกลางเป็นติ่งยื่นลงมาระหว่างเส้นชายทั้งสองนิดเดียว ฝีมือช่างเดียวกัน มักพบเป็นเนื้อทองเหลืองด้วย พิมพ์สองชายราคาหลักแสนขึ้น พิมพ์สามชาย ที่ข้อมือซ้ายจะมีขีดคล้ายชายจีวร 3 เส้น และยังแบ่งย่อยออกเป็น
สามชาย อักษรมน นับเป็นพิมพ์หนึ่ง (บ้างเรียกก้นอักษรมน) ให้ดูที่ สระอู กับ ตัว ช จะไม่มีเหลี่ยม ด้านหน้าเป็นแอ่งท้องกระทะ ด้านหลังเรียบไม่แอ่น และเห็นขอบเส้นแผ่วๆ วิ่งรอบเหรียญ ถือว่าลึกที่สุดในสี่พิมพ์ ขอบตัดด้วยเครื่องไม่มีรอยตะไบ ห่วงเชื่อม เส้นพระเกศา พื้นไม่เรียบ เหนือกลางคิ้วขวามีไฝเม็ดซึ่งปรากฏทุกพิมพ์ ใบหน้าท่านตอบซูบเห็นเป็นเนื้อ ทุกพิมพ์ครองจีวรแบบห่มคลุม มีผ้าเล็กคลุมอีกชั้นกันหนาว เนื้อโลหะเป็นทองแดง อาจพบเนื้อทองเหลืองผสมบ้าง เรียกทองฝาบาตร (พบเหรียญเงินจำนวนไม่มากนัก)
สามชาย อักษรสลับ เป็นพิมพ์สอง ฝีมือช่างเดียวกันกับพิมพ์หนึ่ง สระอูทำเป็นตัวมน ส่วน ตัว ช กลับเป็นฐานเหลี่ยม นอกนั้นคล้ายพิมพ์หนึ่งมาก ท้องอ่างเป็นแอ่งกระทะไม่ลึกเท่าพิมพ์หนึ่ง เนื้อโลหะคล้ายคลึงกัน ไมค่อยพบเนื้อเงิน เนื้อเงินสภาพดีดีหลักแสนกลาง เนื้อทองแดงหลักแสนขึ้น สามชาย อักษรเหลี่ยม พิมพ์ที่สาม (บ้างเรียกก้นอักษรเหลี่ยม) สระอู กับ ตัว ช เป็นเหลี่ยมไม่กลมโดยเฉพาะที่ฐานตัวอักษรเป็นมุมแหลมค่อนข้างชัดเจน ราคาหลักแสนขึ้น
หมายเหตุ : ขอบคุณภาพพระ ของ ดร. สุกิจ พูนศรีเกษม https://www.facebook.com/447101282711213/posts/548042975950376/
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- อ.นิติศาสตร์ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานีจับมือที่ปรึกษานายกอบจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว “หินพัด มหัศจรรย์เมืองสุราษฎร์” 30 พ.ค. 2568
- วธ.จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติ ถวายพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี 30 พ.ค. 2568
- เชฟรอน – มูลนิธิเอไอพี – ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนสงขลา รณรงค์เดินเท้าปลอดภัย 30 พ.ค. 2568
- ราชมงคลพระนคร จัดประชุมวิชาการด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ครั้งที่ 17 30 พ.ค. 2568
- จุฬาฯ จับมือการบินไทย ลงนาม MOU พร้อมจัดเสวนา President’s Distinguished Speaker ครั้งที่ 4 30 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ จับมือ สผ. - สพภ. ผลักดันแผนความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติ สู่เป้าหมายสิ่งแวดล้อมโลกที่ยั่งยืน 09:30 น.
- สุดยอดเสือแห่งยุค! พระสมเด็จเสือนอนกิน ปลุกกระแสพระใหม่ ต่างชาติจองเพียบ 20:01 น.
- สพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ มอบโล่รางวัลและเข็มเชิดชูเกียรติ 15:15 น.
- ราชมงคลสุวรรณภูมิ สร้างเครือข่ายวิจัย 9 มทร. ยกระดับสู่มาตรฐานประเทศ 13:28 น.
- ศิริราช จับมือ MIT Hacking Medicine ดัน “Hackathon นวัตกรรมสุขภาพ” ขึ้นแท่นระดับอาเซียน 11:47 น.