"ไทยสร้างไทย" ร่วมรำลึก 14 ปีเหตุการณ์ 10 เมษา 53 เชิดชูวีรชน สดุดีความกล้าหาญ ยืนหยัดต่อสู้ตามอุดมการณ์ประชาธิปไตย มั่นใจ การเรียกร้องประชาธิปไตยจะยังคงเดินหน้าต่อไป โดยพรรคไทยสร้างไทย หนุนการทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนสร้างความปรองดอง 

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 พรรคไทยสร้างไทย ส่งตัวแทนพรรคร่วมรำลึก ในโอกาสครบรอบ 14 ปีเหตุการณ์ 10 เมษายน2553 โดยฝ่ายผู้มีอำนาจ ได้นำกองกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม มีการใช้อาวุธและกระสุนจริงสลายการชุมนุม จนทำให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก 

พรรคไทยสร้างไทย ขอสดุดีในความกล้าหาญและอุดมการณ์ของผู้รักประชาธิปไตย พี่น้องคนเสื้อแดงทุกคน พรรคไทยสร้างไทยขอเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับผู้ที่สูญเสีย รวมถึงการเรียกร้องเพื่อให้ประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อเดินหน้าตามอุดมการณ์ ของเหล่าวีรชนและผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าในโอกาสครบรอบ 14 ปี  10 เมษา พรรคไทยสร้างไทยขอ สดุดีวีรชนคนเสื้อแดง และผู้รักประชาธิปไตย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 14 ปี ของเหตุการณ์สลายการชุมนุมวันที่ 10 เมษายน 2553 บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และพื้นที่ใกล้เคียง ต่อเนื่องถนนราชดำเนิน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ถูกดำเนินคดีมาจนถึงทุกวันนี้ 

จึงขอชื่มชมผู้รักประชาธิปไตยทุกคนที่ยืนหยัดต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม สงครามแย่งชิงอำนาจการเมืองสองขั้ว ที่วนลูปยาวนานกว่า 18 ปี  เกิดวงจรอุบาทว์จนทำให้เกิดการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง ที่ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ แต่ประชาชนจะเป็น “ผู้แพ้”เมื่อประชาชนแพ้ ประเทศก็เดินต่อไปไม่ได้

"ไทยสร้างไทย ขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้รัฐบาลรีบจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เป็นกลไกป้องกันการรัฐประหาร และปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามที่ได้หาเสียงไว้โดยเร็วที่สุดโดยพรรคไทยสร้างไทย ขอสนับสนุนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมย์ของกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มผู้รักประชาธิปไตย" นายชวลิต กล่าว

พรรคไทยสร้างไทย จึงสนับสนุนการเดินหน้าสร้างความปรองดอง โดยนำรายงานการศึกษา เรื่อง แนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของประชาชนในชาติ ของสภาฯชุดที่แล้วมาปรับใช้ ซึ่งผลการศึกษาทั้งหมด มาจากการพูดคุยปรึกษาหารือกันนอกรอบทีละกลุ่มๆ จนทราบข้อมูลเชิงลึกของแต่ละกลุ่ม แต่ละสี 

แล้วจัดประชุมร่วมกันจนตกผลึกทางความคิด ซึ่งคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ผ่านมา ได้ใช้ความเพียรพยายามพูดคุยนอกรอบกับกลุ่มคู่ขัดแย้งในอดีตมาจับมือกัน สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ โดยเชื่อว่าจะเป็นแนวทาง ในการสร้างความปรองดองให้กับประเทศต่อไปได้