เมื่อค่ำวันที่ 28 พฤษภาคม 2868 สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจต่อครอบครัวทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตในเหตุปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมย้ำว่าชายแดนระหว่างสองประเทศควรเป็น “เขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือ” ไม่ใช่สมรภูมิการสู้รบ

สมเด็จฮุนเซนประณามทุกการกระทำรุกราน ไม่ว่าจะโดยบุคคล องค์กร หรือกลุ่มใดก็ตาม พร้อมระบุว่า ตนเองไม่ต้องการเห็นการสู้รบ แต่สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชาในการเสริมกำลังทหารและอาวุธหนักที่ชายแดนเพื่อการป้องกันตนเองในกรณีจำเป็น

ช่วงเช้าวันนี้ (29 พ.ค.68) สมเด็จฮุนเซนโพสต์เพิ่มเติมว่า “ไม่อยากให้เกิดการต่อสู้ แต่สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลในการเตรียมทัพอาวุธหนักขึ้นชายแดนเพื่อป้องกันตนเอง หากมีการรุกราน”

"ภูมิธรรม"  มอบอำนาจ "บิ๊กปู"  เจรจาผู้บัญชาการทหารกัมพูชา 31 พ.ค.นี้

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่าทุกฝ่ายพยายามยุติเหตุการณ์ โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.ไทย จะพูดคุยกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผบ.ทบ.กัมพูชา ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ เพื่อป้องกันความขัดแย้งบานปลาย

นายภูมิธรรมระบุว่า ได้คุยกับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ซึ่งยืนยันไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง พร้อมชี้แจงว่า ระดับนโยบายทั้งสองฝ่ายยังเข้าใจกันดี ปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในระดับปฏิบัติการ ซึ่งจะต้องเคลียร์กันอย่างละเอียด

เรียกร้องความอดทน-ย้ำสงครามไม่เป็นผลดีต่อใคร

นายภูมิธรรมยืนยันว่า “การปะทะชายแดนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ต้องหาทางเจรจาและอดกลั้น เพราะสงครามไม่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใด ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ คือประชาชน” พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรอให้สถานการณ์สงบก่อนตัดสินใจใดๆ เพราะความจริงใจในการแก้ปัญหามีอยู่แล้วทั้งสองฝ่าย

นายภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทหารสองฝ่ายยังคงนั่งพูดคุยกันตามแนวชายแดน ขอประชาชนอย่ากังวล เพราะทั้งรัฐบาลไทยและกัมพูชามีจุดยืนเดียวกันในการยุติความขัดแย้งผ่านการเจรจา

ไม่เห็นโพสต์ "ฮุนเซน" ยุขนกำลังประชิดชายแดนไทย

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ยังไม่ได้เห็นโพสต์ดังกล่าวโดยตรง แต่ยืนยันว่าเป็นความเข้าใจผิดของทุกฝ่าย  ได้พูดคุยกับที่ปรึกษาของสมเด็จฮุน เซนแล้ว ซึ่งต่างฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า โดยอยากให้มีการเจรจาโดยยังไม่แตะประเด็นดินแดน พร้อมระบุว่า ผู้บัญชาการทหารบกของไทยและกัมพูชาได้นัดเจรจากันในช่วงบ่ายวันนี้ และจะลงพื้นที่ตรวจสอบจริง เพราะประเด็นแผนที่เป็นเรื่องซับซ้อน ทั้งนี้ ทหารทั้งสองฝ่ายได้ถอยออกจากจุดเผชิญหน้าฝ่ายละ 200 เมตร รวมระยะทาง 400 เมตรแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์

นายภูมิธรรมยังกล่าวว่า ได้เห็นแถลงการณ์ของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-กัมพูชา ที่ขอให้สื่อมวลชนอย่านำเสนอข่าวให้บานปลาย เพราะทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันแล้ว และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น

เมื่อถามถึงมาตรการหากการเจรจาในอนาคตไม่เป็นไปตามข้อตกลง นายภูมิธรรมระบุว่า ขอให้รอดูข้อเท็จจริงก่อน โดยย้ำว่ารัฐบาลยืนหลักไม่ให้เกิดความรุนแรง และพยายามหาทางออกโดยสันติ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันในหลักการ

ส่วนข้อกังวลว่าไทยอ่อนข้อต่อกัมพูชา นายภูมิธรรมยืนยันว่าได้พูดคุยกันหมดแล้ว และขอให้สื่อทั้งสองประเทศอย่าเพิ่งรายงานข่าวให้เรื่องราวบานปลายต่อไป