วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 08:01 น.

การเมือง

"อนุทิน" เปิดประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจรภาคเหนือ พร้อมขอบคุณแม่บ้านมหาดไทย ผู้เป็น "ลมใต้ปีก"

วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.20 น.

"อนุทิน" เปิดประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจรภาคเหนือ พร้อมขอบคุณแม่บ้านมหาดไทย ผู้เป็น "ลมใต้ปีก" ของคนมหาดไทย หนุนเสริมเติมเต็มบทบาทการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุข อย่างยั่งยืน 

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดการประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ประจำปี 2568 ครั้งที่ 4 พื้นที่ภาคเหนือ โดยมี น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายอรรษิษฐ์  สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะที่ปรึกษานายกสมาคม อุปนายกสมาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด และสมาชิกสมาคมในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม Tharathong Ballroom II ชั้น 2 โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
 
นายอนุทิน กล่าวว่า การรวมตัวกันของแม่บ้านมหาดไทยในทุกครั้ง คือการรวมตัวเพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคม และเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความเข้าใจในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยทุกด้านทุกมิติ ทั้งด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการขยะ การบรรเทาทุกข์ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส การส่งเสริมการพัฒนาจิตใจ และการสร้างการรับรู้เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและกระทรวงมหาดไทยให้พี่น้องประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมและรับประโยชน์ ดังนั้น กิจกรรมของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงเป็นการสนับสนุนการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้อุดมสมบูรณ์พูนสุข" อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นกุศโลบายตั้งแต่ที่ตนได้เข้ามารับตำแหน่งรมว.มหาดไทย เพื่อ “เติมเต็ม” ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
 
"การที่เป็นมวลหมู่สมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาไทย ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านหรือพ่อบ้าน 'ทุกคนคือครอบครัวมหาดไทย' ที่ต่างมีภารกิจมากมายที่เกี่ยวข้องกับประเทศชาติ การดูแลสารทุกข์สุขดิบของประชาชน ตลอดจนสาธารณภัย ซึ่งการทำงานล้วนต้องอาศัยกำลังใจ ยามสุขเรายินดี ยามทุกข์เราต้องการคนปลอบใจว่า 'ไม่เป็นไร' ดังนั้น สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ซึ่งเป็นคู่สมรสของข้าราชการมหาดไทยคือเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน เป็นคนที่สำคัญมากกับชีวิตของพวกเรา อย่างที่กล่าวเสมอว่าทุกท่านคือ "ลมใต้ปีก" ของพวกเรา ถ้าหาก "นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน หรือปีกไม่มีลม" ก็จะบินลอยไม่ได้ เราจึงต้องร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อไปเจอคนที่เสียสละ ทำความดีเหมือนกับเรา ภารกิจของเรา ทุกท่านในที่นี้ตั้งใจมาเป็นข้าราชการมหาดไทย เช่นเดียวกันกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่เรามาด้วยใจและทำงานอย่างกลมเกลียวสามัคคี และมีความสุขที่ได้ร่วมกันทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่" นายอนุทิน กล่าว
 
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญของการ ทำให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี นอกจากจะมีความมั่นคงแล้ว ยังต้องมีเศรษฐกิจดี ซึ่งตนได้มีนโยบายให้มี 'รองผู้ว่าราชการจังหวัดด้านเศรษฐกิจทุกจังหวัด' เพื่อช่วยกันหาแนวทางทำให้พื้นที่จังหวัดเป็นจุดหมายและจุดดึงดูดของนักท่องเที่ยว โดยใช้วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ยกระดับและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกระทรวงมหาดไทยจึงต้องขับเคลื่อนในเรื่องท่องเที่ยว เพราะเรื่องปากท้องของชาวบ้านเป็นเป้าหมายของผู้ว่าราชการจังหวัด ด้วยการสนับสนุนของประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด เมื่อหมุนเวียน ไม่สะดุด ก็จะส่งผลให้มีคนมาท่องเที่ยว ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เมื่อมีเงินหมุน เศรษฐกิจก็จะหมุนตาม
 
"ผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ต้องช่วยกันให้เกิดการไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว อีกทั้งต้องดูเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เกิดขึ้นในพื้นที่ของเรา ทำให้สิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่คงอยู่เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาจับจ่ายใช้สอย และฝากให้ได้จัดทำเป็นคู่มือเพื่อถ่ายทอดและต่อยอดให้สิ่งดีเหล่านี้ขับเคลื่อนต่อไปเมื่อท่านพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ทั้งจากการเกษียณอายุราชการหรือย้ายพื้นที่ เพราะสิ่งที่ดี ที่เกิดประโยชน์ จะต้องได้รับการสานต่อเพื่อยังผลประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่ของเราอย่างยั่งยืนให้ได้" นายอนุทิน กล่าว
 
ด้านนายอรรษิษฐ์  สัมพันธรัตน์ กล่าวว่า การจัดประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจรครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 ของปี 2568 เป็นโอกาสอันดีที่ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้มาพบปะ ทำความรู้จัก สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ในบรรยากาศการสัญจรที่เป็นกันเอง และเป็นโอกาสอันดีที่ทุกท่านได้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ซึ่งการขับเคลื่อนงานของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในพื้นที่ จะมีประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด รวมถึงสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยในระดับจังหวัด ไปจนถึงระดับอำเภอ ช่วยสนับสนุนงานตามนโยบายของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และในแต่ละพื้นที่จังหวัดนั้น นโยบายของประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด จะมีความสอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการร่วม “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เพื่อ “เติมเต็ม” ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยให้การสนับสนุน และช่วยเหลือได้อย่างเต็มความสามารถภารกิจของประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนั้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง            
   
ทางด้านของ นางจิณณารัชช์  สัมพันธรัตน์ กล่าวว่า การจัดประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ประจำปี 2568 ได้กำหนดพื้นที่ดำเนินการ จำนวน 4 ครั้ง ใน 4 ภาค ได้แก่ ครั้งที่ 1 ภาคกลาง และภาคตะวันออก ณ จังหวัดราชบุรี ระหว่างวันที่ 7 – 8 มีนาคม 2568 ครั้งที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดนครพนม ระหว่างวันที่ 28 – 29 มีนาคม 2568 ครั้งที่ 3 ภาคใต้ ณ จังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 25 – 26 เมษายน 2568 และ ครั้งที่ 4 ภาคเหนือ ณ จังหวัดลำพูน และจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดดำเนินการ ระหว่างวันที่ 23 – 24 พฤษภาคม 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ทำความรู้จัก และร่วมทำกิจกรรมตามนโยบายของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน รวมถึงสร้างความเข้าใจในการขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และนำไปปฏิบัติให้เป็นไป ในแนวทางเดียวกัน อันได้แก่ 1) สมาคมแม่บ้านมหาดไทยห่วงใยใส่ใจสิ่งแวดล้อม 2) การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน 3) การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส 4) การส่งเสริมการพัฒนาจิตใจ และ 5) การสร้างการรับรู้และสร้างความสัมพันธ์อันดีภายใน และภายนอกองค์กร
 
ภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมออกบูธ จัดแสดงและจำหน่าย จำนวน 10 บูธ ประกอบด้วย 1) กลุ่มโหล่งฮิมคาว (Artiyacraft) 2) กลุ่มหัตถกรรมเพ้นท์ผ้า หมู่ 11 อ.สันป่าตอง 3) กลุ่มผ้าฝ้ายอำพัน อ.ฮอด 4) แม่ต๋า อ.แม่ออน 5) Hug me ผลไม้ อ.พร้าว 6) วิสาหกิจชุมชน บอริการ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวิถีชีวิตชุมชนบ้านแม่ไคร้ อ.แม่แตง 7) วิสาหกิจชุมชนแมคคาเดเมียอมก๋อย (ไร่คานาอัน) อ.อมก๋อย 8) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลิตทางการเกษตรบ้านแคว อ.สารภี 9) กลุ่มหัตถกรรมเครื่องเงินชุมชนวัดศรีสุพรรณ อ.เมืองเชียงใหม่ และ 10) ณัฐนาราหินสี อ.เมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้มียอดจำหน่ายรวม 128,700 บาท
 

 
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง