เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568   พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด (ครส.) ได้แถลงผลการจับกุมยาเสพติดครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่ยกระดับการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ  โดยเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ นำโดย กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กก.สส.2 บก.สส.จชต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 ราย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ที่บ้านไม่มีเลขที่ ในชุมชนลูโบะฆง หมู่ที่ 3 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส 

จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถยึดยาไอซ์ได้รวม 615 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกตั้งข้อหา "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์หรือไอซ์) เพื่อการค้า อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน" การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการสืบสวนขยายผลจากการตรวจยึดยาบ้า 396,000 เม็ด เมื่อเดือนกันยายน 2567 

พันตำรวจเอกทวีได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ดำเนินโครงการ "แผนรวมพลังจิตอาสา เอาชนะยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้" ซึ่งมีเป้าหมายบูรณาการทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 กันยายน 2568

ในการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ทำงานร่วมกับ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 4 (กก.3 บก.ปส.4), สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 9 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ โดยได้ปฏิบัติการใน 150 หมู่บ้าน/ชุมชน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 218 คดี รวม 241 คน ยึดยาบ้าได้ 681,753 เม็ด และยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องมูลค่าประมาณ 17,222,996 บาท

ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดรวม 12,107 คดี ผู้ต้องหา 12,538 คน โดยมียาเสพติดที่ยึดได้ดังนี้:

ยาบ้ากว่า 19.2 ล้านเม็ด
ไอซ์ 1,112 กิโลกรัม
เฮโรอีน 235 กิโลกรัม

นอกจากนี้ ยังสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดได้มูลค่ารวมกว่า 590 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จะยังคงดำเนินการขยายผลต่อเนื่อง เพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี และยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป