วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:04 น.

การเมือง

นายกฯแพทองธาร เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถกผลประชุม JBC บ่าย "สมช. ถก

วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 09.51 น.

เมื่อวันที่ 16  มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก เพื่อประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC) และแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทในพื้นที่ชายแดน

โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  นายประเสริฐ จันทรรวงทองรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม/ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม /ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

คาดว่าจะมีการหารือ ถึงผลการประชุมคณะกรรมการร่วม JBC ไทย-กัมพูชา และนำมาสู่การแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ผิดหวังต่อท่าทีของกัมพูชา ที่ไม่ยอมรับความร่วมมือจากไทยในการแก้ไขปัญหาและลดความตึงเครียดระหว่างกัน สะท้อนว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจในการหารือทวิภาคี รวมถึงประเด็นที่กัมพูชาอ้างว่ามีการหารือในประเด็นแผนที่ 1:200,000 โดยทางการไทยยืนยันว่า การประชุมมิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุดเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลกและมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ ตามที่กัมพูชาอ้างแต่อย่างใดการประชุมในครั้งนี้เป็นการหารือในประเด็นเทคนิคในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 2 ของการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนตามแผนแม่บทฯซึ่งฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมในเดือนกันยายนนี้

ทั้งนี้ เวลา 14.00 น. สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือกรณี สมเด็จฯฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศยุติการซื้อสัญญาณโทรคมนาคมและกระแสไฟฟ้าจากไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ และแนวทางการดำเนินการ โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ 5 ข้อ ดังนี้

1.ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาณโทรคมนาคมและกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชา
2.การดำเนินการภายหลังที่รัฐบาลกัมพูชามีมาตรการยุติการซื้อสัญญาณโทรคมนาคมและกระแสไฟฟ้าจากไทย
3.ผลกระทบจากมาตรการของฝ่ายกัมพูชา
4.ข้อกฎหมายและอุปสรรคการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง
5.ข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินการในระยะต่อไป

นักวิชาการ มธ. มอง Agreed Minutes ที่ไทยแนบในประชุม JBC แยบยล-ไทยได้เปรียบ 

นายภัทรพงษ์ แสงไกร อาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ แสดงทัศนะภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ

นายภัทรพงษ์ ระบุว่า สิ่งสำคัญที่ชวนมองคือ Agreed minutes หรือ บันทึกข้อตกลงที่ได้ตกลงร่วมกันแล้ว หรือ รายงานการประชุมที่ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ซึ่งเป็นชั้นเชิงในการเจรจาของฝ่ายไทย

"หลายท่านอาจจะไม่พอใจที่ฝ่ายไทยสื่อสารกับประชาชนล่าช้า ผมเข้าใจ แต่ผมอยากจะชวนให้สังเกตชั้นเชิงการเจรจาของฝั่งไทยในแถลงข่าวฉบับนี้ แถลงข่าวกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า "ประธานฝ่ายไทยได้ย้ำท่าทีไทยตอบโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา" และ "บันทึกแนบไว้ในเอกสารผลลัพธ์ Agreed Minutes ของการประชุมครั้งนี้"

อย่างหลังนี่แหละครับที่มีนัยสำคัญ เพราะ agreed minutes เป็นความตกลงร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา มีผลผูกพันทั้งสองฝ่าย การที่ไทยสามารถนำท่าทีของฝ่ายไทยไปแนบเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกการประชุมนี้ได้ ก็เท่ากับว่า กัมพูชายอมรับและผูกพันตามเนื้อหาในเอกสารแนบนี้ด้วย

ผมอยากให้อ่านภาษาที่ใช้อย่างละเอียด

ข้อ 1 กัมพูชารับรู้และยอมรับว่า การดำเนินการของทหารเป็นไปตามหลักการป้องกันตนเอง และเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ (เท่าที่เห็นจากข่าว กัมพูชาไม่ได้โต้แย้งในประเด็นนี้ในแถลงการณ์ด้วย ยิ่งตอกย้ำว่า กัมพูชายอมรับว่าไทยทำโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว)

ข้อ 2 กัมพูชารับรู้ว่า "ไทยแสดงความผิดหวังที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกที่จะปิดประตูการเจรจาอย่างสันติใน 4 พื้นที่" อ่านตรงนี้ดี ๆ นะครับ กัมพูชากำลังยอมรับว่า เป็นฝ่ายที่เลิกการเจรจาไปเอง พูดง่าย ๆ หากกระบวนการเจรจาในส่วนพื้นที่พิพาทสี่แห่งไม่เดินหน้า ก็เป็นความผิดของฝ่ายกัมพูชาเอง ที่ "เลือกที่จะปิดประตูการเจรจา"

ข้อ 3 และข้อ 4 อธิบายหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายที่ผูกพันต่อกันซึ่งเพิ่มขึ้นมาจาก MOU 2543 คือ "ต้องใช้ความอดกลั้น" (คีย์เวิร์ดของฝ่ายไทยที่ใช้มาตลอด) และ "ต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่จะนำไปสู่ความเข้าใจผิด"

สองข้อนี้ผูกพันทั้งสองฝ่าย ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ของรัฐกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ทำให้เข้าใจผิด เท่ากับว่าทำผิดความตกลงที่ทำขึ้นเมื่อวาน แต่กลับเป็นฝ่ายที่เดินหน้าไปฟ้องศาลโลก เช่นนี้แล้ว การฟ้องคดีชอบธรรมหรือไม่ 

การใส่เอกสารแนบเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกประชุมที่ตกลงกันสองฝ่าย agreed minutes นี้ เป็นกลวิธีที่แยบคายและทำให้ไทยได้เปรียบมากครับ"

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง