เมื่อวันที่ 16  มิถุนายน 2568     นายสมบัติ ยะสินธุ์ สส.แม่ฮ่องสอน พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดเผยข่าวดีและรายละเอียดความคืบหน้าครั้งสำคัญ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งน้ำและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตป่าทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ถูกจำกัดด้วยขั้นตอนการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน

สส.สมบัติ อธิบายว่า ในอดีตการที่หน่วยงานภาครัฐจะเข้าไปดำเนินโครงการใดๆ ในหมู่บ้านที่อยู่ในเขตป่าสงวนหรืออุทยาน (ซึ่งมีมากกว่า 10,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ) เช่น การทำประปาหมู่บ้าน การเจาะบ่อน้ำบาดาล หรือการสร้างฝาย จะต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าที่ยุ่งยาก เริ่มตั้งแต่การขอผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท./อบต.) จากนั้นต้องรอการอนุญาตจากกรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานฯ ตั้งแต่ระดับพื้นที่ จังหวัด จนถึงอธิบดี ซึ่งกระบวนการเหล่านี้บางครั้งใช้เวลาหลายปี ทำให้โครงการพัฒนาต่างๆ หยุดชะงัก เพราะสำนักงบประมาณจะไม่สามารถอนุมัติงบประมาณให้ได้หากยังไม่มีใบอนุญาตพื้นที่

วันนี้ สส.สมบัติ เผยข่าวดีว่า ความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดการ "ปลดล็อกระเบียบ" ครั้งสำคัญ ภายใต้การนำของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.)

สาระสำคัญของการปลดล็อกคือ:
 การปลดล็อก 3 กรมหลักของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ: ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรธรณี ได้รับการปรับแก้ระเบียบ ให้เจ้าหน้าที่ของทั้ง 3 กรมนี้ มีสถานะเป็นเจ้าพนักงานของกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ ซึ่งจะทำให้สามารถนำไปดำเนินโครงการในพื้นที่หมู่บ้านที่อยู่ในเขตป่าได้ทันที โดยไม่ต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าตามขั้นตอนปกติอีกต่อไป

สส.สมบัติ ย้ำว่า นี่คือผลลัพธ์จากการผลักดันอย่างต่อเนื่องในสภาฯ และการหารือกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ โดยเฉพาะกับ ดร.เฉลิมชัย ซึ่งได้กำชับให้เร่งรัดดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยให้โครงการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาน้ำกินน้ำใช้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตป่า สามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขั้นตอนที่เคยเป็นอุปสรรคมานานหลายปี 

อย่างไรก็ตาม สำหรับกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 3 กรมนี้ ตลอดจนโครงการของ อบต. และ อบจ. ยังคงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าแบบเดิม 

นี่คืออีกหนึ่งความสำเร็จของพรรคประชาธิปัตย์ ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง และอำนวยความสะดวกให้การพัฒนาเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างแท้จริง