วันศุกร์ ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:15 น.

การเมือง

สศท.5 ชูผลสำเร็จ “หนองบัวแดง” ปั้นกล้วยหอมทอง GI ส่งออก โกยรายได้ปีละกว่า 36 ล้าน

วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 09.22 น.

สศท.5 ชูผลสำเร็จ “กลุ่มปลูกกล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง” จ.ชัยภูมิ  ผลิตกล้วยหอมทอง GI ส่งออก สร้างรายได้กลุ่มกว่าปีละ 36 ล้าน  

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 (สศท.5) เผยความสำเร็จของ “กลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง” จังหวัดชัยภูมิ ที่สามารถผลิตกล้วยหอมทองคุณภาพสูง ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และส่งออกสร้างรายได้ให้สมาชิกกลุ่มรวมปีละกว่า 36 ล้านบาท

นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการ สศท.5 เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิเป็นแหล่งปลูกกล้วยหอมทองที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะพันธุ์คอสมอสแซลหรือพันธุ์กาบดำ ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ ผลไม่ใหญ่เกินไป เนื้อแน่น หอมหวาน เปลือกหนาไม่ช้ำง่าย ผลดิบมีสีเขียวนวล และเมื่อสุกจะมีสีเหลืองนวล ไม่มีจุดดำที่เปลือก จนได้รับการขึ้นทะเบียน GI เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566

กลุ่มเกษตรกรในอำเภอหนองบัวแดงได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ตั้งแต่ปี 2559 บริหารจัดการผลผลิตแบบหมุนเวียนเพื่อให้มีกล้วยจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี โดยปัจจุบันมีสมาชิก 35 ราย รวมพื้นที่ปลูกกว่า 570 ไร่ หรือเฉลี่ย 5-10 ไร่ต่อครัวเรือน ผลผลิตได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP และ GI ทุกขั้นตอน

ในปี 2568 เกษตรกรจัดสรรพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทอง 1 ไร่ ปลูกประมาณ 400 ต้น ใช้เวลา 8-9 เดือนจึงเก็บเกี่ยวได้ โดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 3,950 กิโลกรัมต่อไร่ต่อรอบ และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 63,608 บาทต่อไร่ต่อรอบ หากรวมรายได้ทั้งกลุ่มในรอบปี จะมีมูลค่ากว่า 36.25 ล้านบาท

ราคาจำหน่าย ณ เดือนพฤษภาคม 2568 แบ่งเป็น 3 เกรด คือ

เกรด A (น้ำหนักลูกมากกว่า 110 กรัม) จำหน่ายที่ 17 บาท/หวี

เกรด B (95–109 กรัม) จำหน่ายที่ 13 บาท/หวี

กล้วยตกเกรด (น้อยกว่า 95 กรัม) จำหน่ายในประเทศที่ 10 บาท/กิโลกรัม

โดยกล้วยเกรด A คิดเป็น 79% ของผลผลิตทั้งหมด เกรด B 20% และกล้วยตกเกรดเพียง 1% เท่านั้น สะท้อนถึงคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานและสม่ำเสมอ

กลุ่มฯ วางแผนปลูกแบบเว้นช่วง 2 เดือนระหว่างแปลง เพื่อให้มีผลผลิตหมุนเวียนตลอดปี พร้อมทั้งเน้นการเก็บเกี่ยวผลผลิตตอที่ 2 ถึง 25% เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตลง

ในด้านการตลาด ร้อยละ 95 ของผลผลิตกล้วยหอมทองจากกลุ่มส่งให้กับบริษัท เจ เฟรช จำกัด สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 4,000–5,000 กิโลกรัม เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งให้ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป ส่วนอีก 5% ส่งขายให้กับพ่อค้าในประเทศและโรงงานแปรรูป

นายอุดมศักดิ์ เพิงจันดา ประธานกลุ่มฯ กล่าวว่า กลุ่มมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านคุณภาพสินค้า การปลูกแบบปลอดสารเคมี และความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานเกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และสำนักงานพลังงานจังหวัด เพื่อยกระดับกล้วยหอมทองให้เป็นสินค้าส่งออกที่มีมาตรฐานระดับสากล

ผู้สนใจศึกษาหรือขอคำปรึกษาด้านการปลูกและจัดการกล้วยหอมทองแบบแปลงใหญ่เพื่อการส่งออก สามารถติดต่อได้ที่ นายอุดมศักดิ์ เพิงจันดา โทร. 09 4472 4767
 

หน้าแรก » การเมือง