วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 14:27 น.

การเมือง

ไทยเริ่มใช้ "แผนจักรพงษ์ภูวนารถ" รับมือสถานการณ์ชายแดนตะวันออก – คุมเข้มตามยุทธศาสตร์ทหาร

วันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.18 น.

โฆษกกองทัพไทยเผย ปฏิบัติการเข้าสู่ขั้นปฏิบัติจริง ตามแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ใช้กำลังสนับสนุนทางบกและอากาศ ภายใต้การบัญชาการโดย ผบ.ทบ. ยืนยันยึดหลักสากล – ไม่แตะเป้าหมายพลเรือน

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568  พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเกิดความรุนแรงต่อเนื่อง หลังทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่หลายจุดในฝั่งไทย ส่งผลให้มีทหารและประชาชนไทยบาดเจ็บและเสียชีวิต กองทัพไทยจึงเริ่มใช้แผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ซึ่งเป็นแผนเผชิญเหตุฝั่งตะวันออก โดยมี ผบ.ทบ.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ปฏิบัติการปัจจุบันอยู่ในขั้น “การปฏิบัติการ” มีการใช้อาวุธสนับสนุนทางบกและอากาศโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารของกัมพูชา โดยไม่แตะต้องเป้าหมายพลเรือน

กองทัพไทยขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา พร้อมย้ำจุดยืนในการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ 

ขณะที่เพจกองทัพภาคที่ 2 ได้ สรุปสถานการณ์ไทยตอบโต้การโจมตีของกัมพูชา เวลา 15.00 น.
- ช่องบก ทั้ง 2 ฝ่ายตรึงกำลัง 
- ช่องอานม้า F16 ทิ้งไข่ที่ตั้งกำลังกัมพูชา 
- พื้นที่ซำแต อ.กันทรลักษ์ ใช้รถถังเข้าตีเพื่อยึดพื้นที่
- จุดตรวจการณ์ภูผี ตรงข้ามปราสาทโดนตวล ใช้ F-16 ช่องตาเฒ่า  
- จุดตรวจการณ์เขาสัตตาโสม ทำลายรถถังกัมพูชาได้จำนวน 2 คัน
- เขาพระวิหาร วัดแก้วฯ ใช้รถถังระดมยิง ส่งทหารราบเข้ายึด
- ภูมะเขือ ปัจจุบันสามารถทำลายกระเช้าส่งกำลังได้บางส่วน 
- ช่องจอม โจมตีกันไปมา
- พื้นที่ปราสาทตาควาย กัมพูชาวางกำลัง ฝ่ายไทยเข้าตีระลอกที่ 2 
- พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ไทยวางกำลัง กัมพูชาพยายามเข้าตี

ทบ.ประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีพลเรือน มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ-เสียชีวิตแล้ว 9 ราย

กองทัพบกขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ล่าสุดพบประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการกระทำดังกล่าวแล้ว ย้ำฝ่ายไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าว

จากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้

1. พื้นที่บริเวณปั๊ม ปตท. บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 10 ราย

2. พื้นที่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (1 รายเป็นเด็กชายอายุ 8 ปี) และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่งต่อ รพ.กาบเชิง

3. พื้นที่บ้านกุดเชียงมุน, บ้านจันลา, บ้านโพนทอง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย

4. พื้นที่บ้านขี้เหล็ก ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงทางการเกษตรได้รับความเสียหาย

5. พื้นที่หมู่ 16 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย

6. พื้นที่บ้านหนองแรด ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย

7. พื้นที่บ้านนายบุญล่วม ทองวิเศษ หมู่ 9 ต.โดมประดิษฐ์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด

จีนเรียกร้องไทย-กัมพูชาหันหน้าเจรจา ย้ำทั้งสองชาติเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของจีน

กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่งว่า จีนมีความกังวลอย่างมากหลังจากกองทัพไทยและกัมพูชาปะทะกันในพื้นที่ชายแดนที่เป็นข้อพิพาท พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านการพูดคุยและหารือ โดยทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดีของจีน และเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน

โฆษกฯ กล่าวว่า "เรากังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านการพูดคุยและหารือกัน" และเสริมว่า "จีนได้ทำและจะยังคงมีส่วนสนับสนุนการสร้างสันติภาพและการหารือในแบบของตนเอง โดยมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการบรรเทาความตึงเครียดและทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง" โดยจีนคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค และยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลางมาโดยตลอด

หน้าแรก » การเมือง