ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เชื่อหรือไม่ มี 3 หมู่บ้านใน อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ที่ยังคงยึดมั่นในหลักพระพุทธศาสานา ยึดการไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ในช่วงวันพระและสืบทอดกันมากว่า 474 ปี และหากไปร้านอาหารในพื้นที่หมู่บ้านนี้ คุณจะได้คำตอบว่าไม่ขาย ไม่มี หากต้องการจะกินจริงๆ ชาวบ้านจะบอกว่า หากเป็นไข่ที่ตายมาแล้ว เมื่อวานไม่ใช่ไข่สด มีกิน เพราะต้องทำฆ่าหรือตอกไข่ไว้ก่อนถึงวันพระ เพราะกลัวบาป

นายประยูร  อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ลงพื้นที่เพื่อไปดูประเพณีที่ดีงาม ที่สืบทอดกันมากร่วม 474  ปีหรือมากกว่านั้น เมื่อเดินทางไปถึง อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน ได้มีการเข้าไปสอบถามว่าอยากรับทานอาหารอาหารเที่ยง เป็นเมนูกระเพราะหมู ไข่ดาว แต่ได้รับคำตอบว่า วันนี้ไม่สามารถทำเมนูกระเพราะหมู และไข่ดาวได้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันพระ หากจะทานได้ จะต้องใช้ไข่หมู ที่มีการฆ่ามาแล้ว ก่อนถึงวันพระ ซึ่งจะต้องไปบอกลูกค้า ว่าเหตุผลและสาเหตุที่เราทำแบบนั้น ซึ่งลูกค้าก็ไม่ขัดข้อง แต่ความจริงนั้น เจ้าหน้าที่หรือร้านค้า ร้านอาหารนั้น จะต้องทำ(ตอกไข่ ฆ่าหมู่ ฆ่าไก่) และแช่ตู้เย็นไว้ก่อนหากเป็นช่วงวันพระที่จะต้องทำแบบนี้ เพราะเคร่งกับการทำดี ทำบุญ ไม่ทำบาป ในวันพระ โดยเด็ดขาด 

นางวาสนา จันทะรี ชาวบ้านบ้านแสงภา และเป็นแม่ครัวของอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย จังหวัดเลย เล่าให้ฟังว่า 3 หมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านแสงภา บ้านป่าก่อ บ้านหัวนา ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีประเพณีที่ดีงาม สืบทอดกันมากว่า 474 ปีโดยมีวัดศรีโพธิ์ชัยเป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นสัญญาลักษณ์ของพุทธศาสนาที่หมู่บ้านเหล่านี้ ไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตในวันพระเด็ดขาด ไข่ยังไม่ตอกกินทำอาหารเคร่งมาก หยุดทำงาน ไม่ล่าสัตว์อยู่แต่บ้าน ทำงานบ้านไม่ออกไปไหน  ถามใครใน 3 หมู่บ้านนี้ ก็จะทราบและตอบเป็นเสียงเดียวกัน ซึ่งที่ทราบมา เหลือเพียง 3 หมู่บ้านในจังหวัดเลยแล้ว หรือ ในประเทศไทยไม่รู้มีที่ไหนบ้างที่ทำเช่นนี้  ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่ลูกหลานสืบทอดกันมาร่วม 400 กว่าปี และยังมีให้เห็นที่นี่ที่เดียว