วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:15 น.

ภูมิภาค

เปิดใจ! พ่อถอดรองเท้าตบหน้าลูกชาย รับโมโหไม่เชื่อฟัง เมียหลวงเผยเมียน้อยส่งข้อความเยาะเย้ยไม่หยุด ลั่นขอเลี้ยงลูกสามคนให้ดีที่สุด

วันพุธ ที่ 07 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.09 น.

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากจังหวัด กรณี นางสาวชฎาภรณ์ อายุ 31 ปี ตกเป็นเหยื่อหญิงสาววัย 30 ปีเศษ (นามสมมุติ "เหมียว") ที่แอบได้เสียอยู่กินกับ นายจักรพันธ์ สามีของนางสาวชฎาภรณ์ มานานร่วม 3 ปี โดยหญิงสาวคนดังกล่าวได้แสดงตนเป็นเมียน้อย ทวงสิทธิ์ต่างๆ และส่งข้อความทาง LINE ด่าทอ บีบบังคับให้นางสาวชฎาภรณ์หย่ากับสามี เพื่อที่จะได้สิทธิ์ในตัวในจักรพันธ์หลายๆ อย่าง ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้มีการนัดหมายให้เมียหลวงไปเซ็นใบหย่า แต่เมื่อบิดามารดาของฝ่ายหญิงติดต่อผู้สื่อข่าวให้มาทำข่าว ฝ่ายเมียน้อยกลับไม่ปรากฏตัวในห้องทะเบียน และหลบหนีไป

กระทั่งเมื่อวานนี้ ฝ่ายเมียน้อยได้ส่งข้อความทาง LINE มายังเมียหลวงอีกครั้ง โดยแจ้งว่าจะเดินทางจากจังหวัดสระบุรีมายังที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรีในวันนี้ เพื่อให้นายจักรพันธ์และนางสาวชฎาภรณ์หย่าขาดจากกัน ในขณะเดียวกัน นางสาวชฎาภรณ์ได้พาลูกสาววัย 3 เดือนไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ระหว่างนั้นมีพ่อแม่ และพ่อปู่แม่ย่าเดินทางมาเพื่อที่จะพูดคุยกับนายจักรพันธ์

บิดาของฝ่ายชาย เมื่อทราบว่าลูกชายตั้งใจจะเดินทางไปหย่ากับลูกสะใภ้ ด้วยความรักและห่วงใยที่มีต่อทั้งลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานน้อยทั้ง 3 คน จึงได้พยายามพูดคุยขอร้องให้ลูกชายสำนึกผิด กลับไปอยู่กับภรรยาและลูกที่บ้าน ซึ่งทางพ่อตาแม่ยายและภรรยาก็พร้อมที่จะให้อภัย แต่นายจักรพันธ์ยังคงยืนกรานไม่กลับ โดยอ้างว่าต้องการปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน ด้วยความโมโหและเสียใจอย่างสุดซึ้ง นายสมสวรรค์จึงตัดสินใจถอดรองเท้าแตะตบหน้านายจักรพันธ์ พร้อมทั้งร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดใจตามคลิปที่ปรากฏ

ล่าสุด วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางสาวชฎาภรณ์ที่บ้าน โดยเธอเปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ฝ่ายหญิงได้ส่งข้อความเยาะเย้ยมาอีกครั้ง และจากนี้ไปตนเองจะมุ่งมั่นเลี้ยงดูบุตรทั้งสามคนให้ดีที่สุด โดยมีปู่ย่าคอยช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการคืนดีกับสามีนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้คิดอะไร และไม่ทราบว่าสามีจะตัดสินใจอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยทำผิดต่อสามีแม้แต่น้อย และอยากให้ผู้หญิงคนนั้นเลิกยุ่งเกี่ยววุ่นวายกับชีวิตของตนเองเสียที

บิดาของนายจักรพันธ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนเองได้เข้าไปพูดคุยและขอร้องให้ลูกชายกลับมาอยู่กับภรรยาและลูกหลายครั้ง แต่ลูกชายกลับตอบว่า "ถ้าเอาหนูกลับไป หนูก็หนีไปอีกอยู่ดี ปล่อยหนูไปดีกว่าพ่อ" ด้วยความโมโหที่ลูกชายไม่เชื่อฟัง และทั้งรักและเป็นห่วงลูกมาก เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเล็กไม่เคยลงโทษด้วยการตีแม้แต่ครั้งเดียว เพิ่งจะใช้รองเท้าตบลูกชายเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกเสียใจมากและขอโทษลูกชาย รวมถึงขอโทษสังคมที่แสดงความรุนแรงกับลูก อยากให้ลูกชายได้คิดและกลับมาใช้ชีวิตคู่กับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เคยใช้ชีวิตที่ยากลำบากยากจนร่วมกันมา ทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อตาแม่ยาย รวมถึงตนเอง ภรรยา และญาติพี่น้องทุกคนก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ แต่ไม่รู้ว่าลูกชายจะคิดได้หรือไม่

มารดาของนางสาวชฎาภรณ์ กล่าวด้วยความสงสารลูกสาวเป็นอย่างมาก เกรงว่าลูกสาวจะคิดมากจนอาจป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เนื่องจากถูกหญิงฝ่ายนั้นส่งข้อความมาหาอยู่เรื่อยๆ หญิงคนดังกล่าวเคยมาที่บ้านของตนเองแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อตามหานายจักรพันธ์ อยากจะขอร้องให้ผู้หญิงคนนั้นหยุดส่งข้อความมารบกวนลูกสาวตนเองเสียที ขอให้ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า

หน้าแรก » ภูมิภาค