วันอาทิตย์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:20 น.

ภูมิภาค

เตือนภัย! อ้างเป็นสื่อดังตระเวนขอบริจาคหมื่นแลกเหรียญที่ระลึก

วันเสาร์ ที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 21.14 น.

อำเภอกระสัง / ชายฉกรรจ์อ้างเป็นสำนักข่าว (ไม่มีใครรู้จัก) ตระเวนยื่นเอกสารขอบริจาคเงินสดแลกกับเหรียญที่ระลึก เจ้าของกิจการวัย 32 ปี สะดุดหลังได้ยินเสียงเข้มขอบริจาค 10,000 ไหวตัวไม่ขอบริจาคพร้อมแชร์วงจรปิดแจ้งเตือน มีคนเข้าไปคอมเม้นเป็นจำนวนมาก คาดโดนไปแล้วหลายราย


วันที่ 3 พ.ค.68 เฟสบุ๊คชื่อ”หมอขวัญ ทศพล จริตรัมย์” ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดบ้านตัวเอง เป็นคลิปภาพของชาย 2 คนรูปร่างสันทัดตัดผมสั้นเดินลงจากรถเข้าไปในบ้าน และเอกสารของสำนักข่าวชื่อหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่าฝากเตือน พี่น้องทุกท่านด้วยนะครับระมัดระวังด้วยครับ


ตรวจสอบพบว่าคนโพสต์คือนายทศพล จริตรัมย์ อายุ 32 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 313 บ้านน้อย หมู่ 2 ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเจ้าของร้านร้าน TA ทศพล อิเล็กทรอนิกส์


นายทศพล เล่าว่า เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ตอนนั้นตนทำงานอยู่ในร้าน ได้มีชาย 2 คนแต่ตัวดีเดินลงมาจากรถ บอกว่ามาจากสำนักข่าวอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ แล้วยื่นเอกสารให้ 2 ฉบับ ฉบับแรกเขียนหัวข้อว่า “หนังสือพิมพ์ข่าวไทยสยาม” เรื่องขอความอนุเคราะห์สนับสนุนเหรียญที่ระลึก “โครงการรวมน้ำใจเพื่อผู้ด้อยโอกาส” ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์


ในข้อความหนังสือระบุว่าเป็นวันครบวาระครบรอบ 35 ปี ของหนังสือพิมพ์ไทยสยาม เพื่อความเสมอภาคของประชาชนได้จัดนำเหรียญที่ระลึกหลวงปู่ทวด,หลวงพ่อโสธร ,ท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแห่งขุมทรัพย์และความร่ำรวย เป็นการบอกบุญต่อขอความอนุเคราะห์ในการสนับสนุนเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ด้านการกุศล


ในหนังสือยังระบุด้วยว่าเงินที่ได้ไปเป็นกองทุนมอบเพื่อการศึกษาให้เด็กเรียนดีมีฐานะยากจนตามที่ร้องขอมา รวมถึงผู่พิการ มีฐานะยากจน มีความจำเป็นใช้รถวิลแชร์ รถสามล้อโยก และเตียงตามที่ถูกร้องขอและ”เพื่อเป็นกองทุนสำรองฉุกเฉินและสวัสดิการให้กับสมาชิก และการดำเนินงานของสำนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยสยาม”


นายทศพล กล่าวด้วยว่า เมื่อเห็นหนังสือตนก็พร้อมจะช่วยเหลือเตรียมไว้ 2,000 บาท แต่หนึ่งใน 2 คนที่ตัดผมเกรียนใช้วาจาคล้ายกระแทกให้ตนจ่าย 10,000 บาท ตนงงจึงไปอ่านหนังสือหน้า 2 พบว่าเป็นหนังสือยินยอมบริจาค ส่วนตัวคิดว่าน่าจะกันไม่ให้ผู้บริจาคหันมาเอาผิด


จากนั้นตนได้โทรศัพท์สอบถามเพื่อนที่ทำงานราชการว่ามีโครงการนี้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่มี “ระวังโดนต้ม” จึงยกเลิกการบริจาค แล้วเอาคลิปไปโพสต์แจ้งเตือนคนทั่วไป ปรากฏว่ามีคนคอมเม้นมาเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่บริจาครายละ 1,000-2,000 บาท และคาดว่าน่าจะไปตามหน่วยงานราชการ, อบต., เทศบาลหลายแห่งแล้ว


นายทศพล กล่าวด้วยว่าจากนั้นตนได้สอบถามไปยังชมรมนักข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าหนังสื่อพิมพ์ฉบับที่ปรากฏในหนังสือ ไม่พบว่ามีการตีพิมพ์หรือวางจำหน่ายในจังหวัดบุรีรัมย์ และชมรมฯยังไม่เคยรับบริจาคแบบนี้มาก่อนจึงคิดว่าไม่ชอบมาพากล แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ เพราะหนังสือที่เขียนมารัดกุมและรอบคอบพอที่จะเอาผิดไม่ได้อยู่แล้ว



 

หน้าแรก » ภูมิภาค