วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมโสมพระมิตร ชั้น 4 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายวิทยา ปัญจมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ (ผอ.ทสจ.กาฬสินธุ์) นายวิชิต ทองปาน ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ ผู้แทนผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ จัดประชุมกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ตามมติรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของอปท.ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

ด้านนายวิทยา ปัญจมาตย์ ผอ.ทสจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติผ่อนผันให้ส่วนราชการ หรือหน่วยของรัฐ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ที่ได้เข้าประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตและยังไม่ได้ยื่นคำขอ ให้ยื่นคำขอได้ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติคือวันที่ 25  กุมภาพันธ์ 2568 หรือต้องยื่นภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 โดยโครงการที่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐได้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตจะต้องเป็นโครงการที่ได้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เท่านั้น

นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้เป็นการประชุมร่วมกับสำนักงานท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่7 ขอนแก่น เพื่อชี้แจง ซักซ้อม ทำความเข้าใจกับอปท.ทุกแห่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ทั้ง 151 แห่ง เพื่อให้รับทราบแนวทางเกี่ยวกับการดำเนินการยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ที่ผ่อนผันตามมติครม.ดังกล่าว พร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการยื่นขอภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 โดยสามารถยื่นคำขอได้ที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น)  ในวันเวลาราชการ

นายวิทยา กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์และเชิญชวนส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วน รวมไปถึงอปท.ทุกแห่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียงที่ได้เข้าไปดำเนินการก่อสร้าง หรืออยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนวันที่ 23 มิถุนายน 2563 ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอทำประโยชน์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้เร่งดำเนินการยื่นขอ เพราะหากยื่นคำขอไม่ทันภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ส่วนราชการหรือหน่วยงานรัฐนั้น จะต้องเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเอง อย่างไรก็ตามหากส่วนราชการหรือหน่วยงานรัฐที่ได้ยื่นคำขออนุญาตดังกล่าวแล้วไม่ต้องจัดสรรงบประมาณค่าปลูกป่าทดแทนตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 อีกด้วย