วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:53 น.

ภูมิภาค

เจอแล้ว! รถเหยื่อฆ่าเผานั่งยาง ซุกคลองตรัง ล่ากลุ่ม “ไอ้บิน” ยังหนี

วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 07.32 น.

ภายหลังจากมีการออกหมายจับ ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย หัวโจกคือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ ‘ไอ้บิน ควนกุน’ อายุ 37 ปี ส่วนอีก 3 คือนายจรณชัย อายุ 32 ปี นายปิยะศักดิ์  อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์  อายุ 36 ปี ในคดีร่วมกันยิงและฆ่าเผานั่งยางอย่างโหดเหี้ยม 4 ศพ ภายในสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่ หมู่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง จำนวน 4 ศพ ก่อนคนร้ายจะชิงรถยนต์กระบะของผู้ตายไปด้วย เมื่อวันที่ 11 พ.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเปิดปฎิบัติการไล่ล่าติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี
 

ความคืบหน้าเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 15 พ.ค.68 พ.ต.อ.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ศิวกรณ์ แป้นไทย สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ได้รับแจ้งจาก กำลัง ตำรวจ กก.สส.ภ.9 และตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตรัง ว่าจากการสืบทราบว่า นายศุภกรณ์  อายุ 37 ปี (หัวหน้าแก๊ง) พร้อมกลุ่มคนร้าย ได้ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน ผฉ 9997 นครศรีธรรมราช ของนายสุรเชษฐ์ ล้วนเกียรติขจร หรือโกเชษฐ์ อายุ 69 ปี ผู้ดูแลสวนปาล์มน้ำมัน หลังจากก่อเหตุฆ่าทั้งหมด 4 ศพ แล้วนำมาทิ้งไว้ในคลองผันน้ำ หน้าประตูระบายน้ำจุฬาภรณ์ พื้นที่หมู่ 1 บ้านนาโต๊ะหมิง ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง
 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจัดกำลังออกตรวจสอบบริเวณจุดดังกล่าว จากริมประตูระบายน้ำจุฬาภรณ์ ถึงประตูน้ำท่าส้ม เป็นระยะทางประมาณ 7.5 กม. แต่การตรวจสอบเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไม่ปรากฎรอยล้อรถ หรือว่ามีรอยต้นไม้หัก ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการสำรวจพื้นที่ข้างเคียงที่มีบ่อน้ำและลำคลอง แต่ก็ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการประสานกรมชลประทาน จ.ตรัง ขอความร่วมมือในการปิดประตูระบายน้ำบริเวณประตูระบายน้ำท่าส้ม และทำการเปิดประตูระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำจุฬาภรณ์ เพื่อปรับปริมาณน้ำในช่วงดังกล่าวลง
 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงพบเห็นว่า รถยนต์กระบะของนายสุรเชษฐ์ หรือโกเชษฐ์ ช่วงเวลาประมาณ 00.40 น. คืนเกิดเหตุ ถูกกลุ่มคนร้ายขับและเลี้ยวเข้ามาในขับบนถนนเลียบเลียบคลองชลประทาน ในพื้นที่ ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง โดยมีรถของนายแต้มขับนำหน้า ต่อมากล้องวงจรปิดอีกตัวจับได้ ในช่วงเวลา 02.14 น. คนร้ายได้ขับรถผู้ตาย มาตามทางถนนเลียบคลองชลประทาน ต่อมาเวลา 02.16 น. ได้กลับรถมาจอด โดยมีคนลงจากรถ ต่อมา เวลา 02.20 ได้ดับไฟหน้ารถ และในเวลา 02.24 น. รถยนต์อีกคันซึ่งเป็นของนายแต้มผู้ร่วมก่อเหตุ จอดและดับไฟ และในเวลา 02.32 น. ได้ออกรถไปเพียงคันเดียว เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานกล้องวงจรปิดดังกล่าว จึงได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณจุดดังกล่าว บริเวณฝั่งตรงข้ามด้านหลังโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยตรัง จึงได้พบร่องรอยหญ้าและดินริมตลิ่งคล้ายมีรถลงไปในลำคลอง ประกอบกับมีคราบน้ำมันลอยขึ้นเป็นวงในคลองผันน้ำ จึงประสานนักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) เข้ามาดำลงค้นหาและตรวจสอบ
 

เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยชุดประดาน้ำ ดำลงไปประมาณ 10 นาที สืบทราบชันเจนว่าเป็นรถของผู้ตายที่ผู้ก่อเหตุขับมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี จึงได้ประสานรถลากเข้ามาลากรถดังกล่าวขึ้นมา พบแผ่นป้ายทะเบียนรถทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกกลุ่มคนร้ายปลดทิ้งไป ซึ่งรถได้ถูกเปิดบานกระจกเอาไว้ มีกุญแจรถเสียบคาเอาไว้ แต่ไม่พบสิ่งของหรือวัตถุพยานใดๆ มีเพียงร่องรอยคมกระสุนถูกเจาะเข้าบริเวณท้ายกระบะรถจำนวน 1 จุด
 

ด้านนายเดชานนท์ ชูประสิทธิ์ และ นายวิทวัส เพชรเล็ก เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) กล่าวว่า รถอยู่ห่างจากตลิ่งไปประมาณ 5 เมตร ลึกลงไปประมาณ 3 เมตร รถถูกหันหัวไปทางทิศตะวันออก ซึ่งไม่พบป้านทะเบียนคาดว่าถูกปลดออกไป กระจกทั้งสองบานถูกเปอิดอยู่ทั้งหมด
 

ขณะเดียวกัน นายเรืองศักดิ์ ล้วนเกียรติขจร ลูกชายของนายสุรเชษฐ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้มาดูในที่เกิดเหตุหลังจากพบรถของคุณพ่อ โดยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะสมารถจับกุมกลุ่มผู้ร่วมกันก่อเหตุฆ่าพ่อของตนเองได้ทั้งหมดในเร็ววันนี้
 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะนำรถคันดังกล่าวลากไปไว้ที่ สภ.สิเกา พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

หน้าแรก » ภูมิภาค