วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 14:11 น.

ภูมิภาค

รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ชายแดน เยี่ยมผู้บาดเจ็บ ช่วยครอบครัวเหยื่อปะทะ

วันอาทิตย์ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 08.13 น.

วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษอย่างเร่งด่วน เพื่อติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บและผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะที่ยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะ

โดยเมื่อเวลา 09.00 น. ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เป็นประธานในการประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุด รวมถึงแนวทางการเยียวยาและการบริหารจัดการผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

 


 ต่อมาในเวลา 12.00 น. พันตำรวจเอกทวี เดินทางไปยังโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณแนวชายแดน จำนวน 8 ราย โดยได้พูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด พร้อมมอบกระเช้าสุขภาพและสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้บาดเจ็บและญาติที่ดูแล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและแสดงความห่วงใยจากรัฐบาล
 
ในเวลา 14.00 น. รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมได้เดินทางไปยังวัดบ้านหนองสนม ตำบลเหล่ากวาง อำเภอโนนคูณ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชายแดน จำนวน 4 ราย พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย โดยระบุว่า “แม้รัฐบาลจะสามารถช่วยเหลือด้วยเงินตามเกณฑ์ได้ แต่ไม่มีสิ่งใดจะทดแทนชีวิตอันมีค่าของประชาชนได้ เงินไม่อาจซื้อชีวิตกลับคืนมา”

 


 
ภายหลังจากนั้น พันตำรวจเอกทวี ได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนเบญจลักษ์วิทยา อำเภอเบญจลักษ์ ซึ่งใช้เป็นศูนย์อพยพชั่วคราวสำหรับประชาชนจากแนวชายแดนที่ต้องอพยพหนีภัยปะทะ โดยได้พูดคุยกับประชาชนภายในศูนย์ พร้อมมอบแนวทางและกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดกับประชาชนในพื้นที่ปลอดภัยที่ถูกลูกหลงจากเหตุปะทะ เขาย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือตามเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว โดยเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและจัดสรรเงินช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

 

 

“ขอฝากฝ่ายจิตวิทยาในทุกพื้นที่ดูแลจิตใจของประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงอย่างใกล้ชิด อย่าให้มีความเครียดสะสม หรือรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ควรมีการจัดกิจกรรมหรือเชิญจิตอาสามาช่วยสร้างความเบิกบานให้บ้าง แม้ในยามยากลำบาก” รัฐมนตรีกล่าว
 
นอกจากนี้ยังเน้นย้ำว่า การให้ความช่วยเหลือต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมดูแลทั้งด้านกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และการเยียวยาจิตใจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเครียดจากการสูญเสีย
 
กระทรวงยุติธรรมจะบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าถึงทุกกลุ่ม และยั่งยืน

หน้าแรก » ภูมิภาค