กทม-สาธารณสุข
ปลุกสังคมคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ในอาคารชุด
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ กระตุ้นเตือนปัญหาควันบุหรี่ในอาคารชุด ชาวคอนโด อพาร์ทเมนท์ 89 % “อาคารชุดเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่” ส่วนใหญ่เคยรับควันบุหรี่มือสองในพื้นที่ส่วนกลาง พบ 77 % รู้สึกไม่สบายจากการหายใจที่มีผู้สูบบุหรี่ในอาคารชุด
ที่โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ สถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (สสท.) สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการแถลงข่าวและเสวนาวิชาการ เรื่อง “การคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ในอาคารชุด” เพื่อแก้ปัญหาการสูบบุหรี่และคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ในอาคารชุดของประเทศไทย เพราะการสูบบุหรี่ต้องไม่ไปกระทบกับสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นที่ไม่ได้สูบบุหรี่

นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าวว่า การควบคุมยาสูบจัดเป็นปัญหาการสาธารณสุขที่สำคัญของโลก รวมถึงประเทศไทย จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกในปี 2562 ระบุว่า ยาสูบฆ่าคนมากกว่า 8 ล้านคน/ปี เป็นผู้ใช้ยาสูบโดยตรงเสียชีวิตกว่า 7 ล้านคน และอีก 1.2 ล้านคนเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง ซึ่งปัจจุบันสังคมไทยมีความเป็น ‘เมือง’ มากขึ้น การอยู่อาศัยร่วมกันของผู้คนในเมืองใหญ่จึงมักอยู่ในรูปแบบของอาคารชุด เช่น คอนโด หรืออพาร์ทเมนท์ ปัญหาเรื่องควันบุหรี่ของผู้ที่สูบในอาคารชุดเป็นปัญหาที่สังคมต้องการแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอาคารชุดเข้ามีมีบทบาทในการสร้างการรณรงค์การคุ้มครองสิทธิของผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่
รศ.ดร.สสิธร เทพตระการพร คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในอาคารชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2563 โดยกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ที่พักอาศัยในอาคารชุดในกรุงเทพฯ ช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม จำนวน 1,204 ราย พบว่า ผู้ที่พักอาศัยในอาคารชุด 15 % เป็นผู้สูบบุหรี่ 78 % ไม่สูบบุหรี่ โดยผู้สูบบุหรี่ 45 % สูบนอกห้องตรงริมระเบียง ซึ่งผู้ที่อาศัยในอาคารชุด 89 % เห็นด้วยให้ที่พักอาศัยในอาคารชุดเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ เพราะ 77 % รู้สึกไม่สบายจากการหายใจที่มีผู้สูบบุหรี่ในอาคารชุด 73 % เคยได้กลิ่นควันบุหรี่ที่ลอยมาจากห้องอื่น และส่วนใหญ่เคยรับควันบุหรี่มือสองในพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันในอาคารชุด สะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของคนส่วนน้อย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ที่พักอาศัยร่วมกัน
รศ.ดร.นิภาพรรณ กังสกุลนิติ อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การสูบบุหรี่ในอาคารชุดส่งผลต่อสุขภาพของผู้อื่นที่ไม่สูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่สามารถกระจายลอยผ่านไปยังห้องอื่นๆ ตามช่องระบายอากาศ หน้าต่าง และรอยแตกในผนังหรือพื้นที่ใช้สอยร่วมกัน จึงไม่มีระดับที่ปลอดภัยจากการสัมผัสควันบุหรี่ ทั้งนี้ อาคารชุดที่ปลอดบุหรี่จะส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยและประหยัดเงินได้มากด้วย โดยสหรัฐอเมริกาได้รายงานว่า การห้ามสูบบุหรี่ในอาคารชุดช่วยประหยัดเงินได้ถึงปีละ 153 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดอาคารที่มีคนสูบบุหรี่และลดความเสียหายจากไฟไหม้ของการทิ้งก้นบุหรี่
นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า พรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2561 ไม่ได้กำหนดให้อาคารชุดเป็นเขตปลอดบุหรี่ จึงยังไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมายฉบับนี้ได้ ซึ่งควรปรับปรุงกฎหมายให้อาคารชุดเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ ไม่กระทบกับคนส่วนใหญ่ที่พักอาศัยที่ไม่สูบบุหรี่ ทั้งนี้ผู้พักอาศัยในอาคารชุดที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ควรร้องเรียนเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพราะถือเป็นเหตุรำคาญตาม พรบ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 โดยเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจห้ามระงับผู้หนึ่งผู้ใดมิให้ก่อเหตุรำคาญในสถานที่เอกชนด้วย
ศ.ดร.ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ นักวิจัยภายใต้การสนับสนุนของศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ กล่าวถึงผลการศึกษามาตรการทางกฎหมายและสังคมเพื่อการคุ้มครองสิทธิของผู้ไม่สูบบุหรี่ในอาคารชุดในต่างประเทศ แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ 1.ก่อนที่จะมีมาตรการห้ามสูบบุหรี่ ให้สื่อสารบ่อยๆ กับผู้อยู่อาศัยใช้ทุกช่องทาง ถึงสาเหตุการห้ามสูบบุหรี่และจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ โดยแจ้งให้ผู้อยู่อาศัยทราบล่วงหน้าหลายเดือน ก่อนจะมีการบังคับห้ามสูบบุหรี่เพื่อให้ผู้อาศัยคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อบางคนอาจใช้เวลานี้เพื่อเลิกบุหรี่ และจัดประชุมให้ผู้อาศัยแสดงความคิดเห็นเพื่อเพิ่มการสนับสนุนและลดปัญหาการบังคับห้ามสูบบุหรี่ที่จะเกิดขึ้น 2.การดำเนินการระหว่างและหลังการใช้มาตรการห้ามสูบบุหรี่ ให้มีป้ายคำเตือนแก่ผู้อยู่อาศัยรวมถึงบุคคลภายนอก โดยผู้ดูแลอาคารต้องตรวจสอบ ติดตามเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามมาตรการห้ามสูบบุหรี่ และเตือนผู้อาศัยว่าต้องรับผิดชอบค่าเสียหายกรณีการเกิดผลกระทบจากการสูบบุหรี่
นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการบริหารงานอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริหารสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยและสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อาคารชุดมีระเบียบข้อบังคับตามกฎหมายในการอยู่อาศัยที่ร่วมกันชัดเจน ผลกระทบที่เกิดจากเพื่อนบ้านที่สูบบุหรี่ ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มากและอยู่ในพื้นที่ของตนโดยสิทธิ แต่ก็สร้างปัญหาต่อเพื่อนบ้าน ดังนั้นแนวทางการดูแลต้องจัดการให้เหมาะสมและตอบโจทย์ทุกคน เช่น รณรงค์เชิงรุก/รับในผลกระทบเชิงสุขภาพต่อตนเองและผู้อื่นตั้งแต่เริ่มเข้าอยู่อาศัย จัดพื้นที่สูบบุหรี่โดยเฉพาะที่ห่างไกลและสร้างผลกระทบต่ำ ขอความร่วมมือในการลดผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ที่สำคัญต้องประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ฐานข้อมูลผู้พักอาศัยที่ชัดเจน จะช่วยสร้างบรรยากาศสังคมที่ร่วมกันดูแลและสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมส่วนรวมที่ยั่งยืนได้
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข
Top 5 ข่าวกทม-สาธารณสุข ![]()
- รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ จัดกิจกรรม “ธารน้ำใจ ช่วยน้ำท่วม จาก รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ สู่ รพ.หาดใหญ่” 12 ธ.ค. 2568
- รพ.กรุงเทพ ติด Top 10 ใน “Fortune 100 Best Companies to Work For Southeast Asia 2025” สะท้อนความมุ่งมั่นสร้างสถานที่ทำงานที่ให้ความสำคัญกับ “คน” เป็นหัวใจหลักขององค์กร 12 ธ.ค. 2568
- สสส.ตรวจพบ “ผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย” โฆษณาเกินจริงพุ่งกระฉูด 12 ธ.ค. 2568
- คณะวิจัยทีมแพทย์จุฬาค้นพบ L34 – โพรไบโอติกสายพันธุ์ใหม่ใช้รักษาสุขภาพลำไส้คนไทย 12 ธ.ค. 2568
ข่าวในหมวดกทม-สาธารณสุข ![]()
สธ. คุมเข้มมาตรการสุขอนามัย – สิ่งแวดล้อม รองรับนักกีฬา 11 ชาติ แข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 09:59 น.- รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ จัดกิจกรรม “1 หน่วยงาน 1 ต้นไม้ประดับปรับภูมิทัศน์เพิ่มพื้นที่สีเขียว @ CKP.” 15:20 น.
- รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ครบรอบ 6 ปี เปิดตัวศูนย์สุขภาพเด็ก 21:14 น.
- “วรโชติ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวหาดใหญ่ เร่งฟื้นฟู รพ.หาดใหญ่ ติดตามกลุ่มเปราะบางและมอบสิ่งของแก่ผู้ประสบภัย 17:10 น.
- “หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน” ภัยเงียบคร่าชีวิตในไม่กี่นาที ไม่เลือกวัย ไม่เลือกอาการแพทย์เตือนต้องรู้เท่าทันก่อนสายเกินแก้ 16:30 น.


