“สมศักดิ์” ติดตามขับเคลื่อนแก้ปัญหาโรคเอดส์ ยันให้ความสำคัญ เดินหน้าแก้เต็มที่ ย้ำพร้อมสนับสนุนการเข้าถึงถุงยางอนามัย กำชับ หน่วยงานใด ยังแจกไม่หมด ให้เร่งรณรงค์ ชี้ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ช่วยป้องกันได้ เผย ตอนนี้ มีถุงยางฟรี -PrEPฟรี -ตรวจ HIV ฟรีปีละ 2 ครั้ง 

เมื่อวันที่ 7  พฤษภาคม 2568    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ ตนได้หารือการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาโรคเอดส์ โดยมีนายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยได้รับทราบแนวทางการป้องกันควบคุมเอชไอวี หรือ โรคเอดส์ ซึ่งการยุติปัญหาเอดส์ของประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560 - 2573 ได้กำหนดเป้าหมาย ลดติด ลดตาย ลดตีตรา 1.ลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ เหลือปีละไม่เกิน 1,000 ราย 2.ลดการเสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ เหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย และ 3.ลดการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลง ไม่เกินร้อยละ 10

นายสมศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า เอชไอวี ติดต่อได้จาก 3 ช่องทางเท่านั้น คือ 1.เพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไม่ใส่ถุงยาง ถุงแตก 2.เลือด เช่น ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และ 3.จากแม่สู่ลูกในครรภ์ โดยการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ได้แก่ ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ กับทุกคน ทุกช่องทาง การจัดบริการยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PrEP) ซึ่งบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ การชวนคู่ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี (Index partner testing) และการตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง (HIV Self-Test) เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น  
 
“ส่วนการเข้าถึงการดูแลรักษา เพื่อลดการเสียชีวิตจากเอดส์ มีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ 1.เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี ควรได้รับการวินิจฉัยและเริ่มยาเร็ว (Same-Day ART) 2.ในกรณีที่มีโรคร่วม เช่น TB/HIV ควรได้รับการรักษาการติดเชื้อวัณโรคระยะแฝง (TPT) โดยปัญหาโรคเอดส์ ผมได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ซึ่งจะสนับสนุนการเข้าถึงถุงยางอนามัยได้โดยง่าย ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้เกิดความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ และเกิดการป้องกันให้ได้มากที่สุด โดยหน่วยงานใดยังแจกไม่หมด ก็จะให้เร่งรณรงค์แจก เพราะการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันได้ หรือมีอีกทางเลือก คือ กินยา PrEP ยาป้องกันก่อนสัมผัสเชื้อเอชไอวี แต่ป้องกันเพียงแค่เชื้อเอชไอวีเท่านั้น ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส หนองใน ดังนั้น เพื่อให้ Safe SEX ควรใส่ถุงยางอนามัยด้วยทุกครั้ง ซึ่งตอนนี้ เรามีถุงยางฟรี  PrEP ฟรี และตรวจ HIV ฟรีปีละ 2 ครั้ง รวมถึงสามารถตรวจได้ด้วยตัวเอง ผ่านชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตนเอง HIV self-test ฟรีเช่นกัน” รมว.สาธารณสุข กล่าว