วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 16:00 น.

กทม-สาธารณสุข

"สมศักดิ์" เดินสายต่อเนื่อง เปิดบริการทุกช่วงวัยฯ “เมืองช้างสุรินทร์” ขน 11 คลินิก ให้บริการประชาชน  

วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.21 น.

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568    ที่โรงพยาบาล จังหวัดสุรินทร์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัยด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็งเพื่อคนไทยห่างไกล NCDs โดยมี นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นางธัญพร มุ่งเจริญพร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ เขต 2  พรรคเพื่อไทย นายพรเทพ พูนศรีธนากูล สส.สุรินทร์เขต 4 พรรคเพื่อไทย นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 ผู้บริหาร บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข และอสม.เข้าร่วมงานดังกล่าว พร้อมมอบเครื่องช่วยฟัง 10 เครื่อง และฟันเทียม 5 ราย ให้ผู้รับบริการ 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับ การดูแลสุขภาพ ของพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย  ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงอายุประมาณ 14 ล้านคน  หรือประมาณ 21% ของประชากรรวม  ทำให้ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพ   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs  และปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ  เช่น การมองเห็น  สุขภาพช่องปาก  และการได้ยิน  เป็นต้น  ตนจึงมีความยินดีที่ได้มาเปิด โครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้หลักการ “อสม. มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs”  ซึ่งมีคลินิกให้บริการพี่น้องประชาชนถึง 11 คลินิก อาทิ   คลินิกโรคอ้วน คลินิก NCDs คลินิกโรคไต  คลินิกผ่าตัดนิ้วล็อค คลินิกบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คลินิกสมุนไพร  เชื่อมั่นว่าโครงการนี้  จะช่วยยกระดับเข้าถึงบริการสุขภาพ สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ  ป้องกันและลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ  ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ได้  
 
“โครงการนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเปิดโครงการให้ครั้งแรกในวันที่  1 พ.ค. ให้กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ทั่วแระเทศ นี่คือความเข้มแข็งของกระทรวง ส่วน อสม.เข้มแข็ง คือการสร้างมั่นคงให้ โดยผมคิดตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้ารับตำแหน่ง และหารือกับปลัดกระทรวง จนตกผลึกว่าจะทำกฎหมายให้ อสม.มั่นคง และผ่านไป 1 ปี 2 สัปดาห์ ก็สามารถผลักดันร่าง พ.ร.บ.อสม.ให้เข้าสภาฯ ได้สำเร็จ และดูแล้วไม่น่าจะมีพรรคการเมืองขวาง เพราะภูมิใจไทยก็ทำตามมาแล้ว”นายสมศักดิ์กล่าว 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถ้ากฎหมายออกมาเสร็จเรียบร้อย จะสร้างความมั่นคงให้พี่น้อง อสม. และโดยเฉพาะเรื่องของเครดิตจากสถาบันการเงิน ที่อาจจะเพิ่มวงเงินกู้ให้อีก ขณะเดียวกัน เน้นย้ำเรื่องของบัญชีนอกงบประมาณ ที่จะต่อรองให้เงินจากการจ้างเบาะแสยาเสพติดร้อยละ 5  % และเงินงบประมาณที่ อสม. ช่วยรณรงค์การนับคาร์บ ทำให้ประชาชนป่วยน้อยลง เพียงแต่โรคเบาหวานกับโรคไต ก็เชื่อว่าจะประหยัดได้ถึง 4 หมื่นล้านบาทแล้ว ดังนั้น หากกฎหมายจบ ขอให้รณรงค์กันเต็มที่เพื่อไม่ให้คนไทยเจ็บไข้ได้ป่วย เชื่อว่าจะลดงบประมาณ ลดภาวะให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วย ตนมั่นใจถ้าทำแบบนี้ 2 ปี คนป่วย NCDs จะลดลงอย่างชัดเจน 
 

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข