วันพุธ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 18:46 น.

กทม-สาธารณสุข

“สมศักดิ์” โชว์ตัดริบบิ้นทางไกลด้วยหุ่นยนต์ ระหว่างเปิดประชุมนานาชาติและโครงการนำร่องสาธิตการผ่าตัดทางไกลด้วยหุ่นยนต์ ครั้งแรก 

วันอังคาร ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 17.39 น.

“สมศักดิ์” โชว์ตัดริบบิ้นทางไกลด้วยหุ่นยนต์ ระหว่างเปิดประชุมนานาชาติและโครงการนำร่องสาธิตการผ่าตัดทางไกลด้วยหุ่นยนต์ ครั้งแรก ระหว่างไทย-จีน จากราชวิถี ถึงเซี่ยงไฮ้  ชูความสำเร็จ ของสธ. เชื่อมโยงการผ่าตัดทางไกล ระยะทาง 3,800 กิโลเมตร  พร้อมเปิดประชุม “กำหนดทิศทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วม”เผยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หนุนนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ยกระดับระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็งและยั่งยืน  เปิดยอดเสียหายสถานพยาบาลจากเหตุสู้รบไทย – กัมพูชา 285 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่โรงพยาบาลราชวิถี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมนานาชาติ “11th MISUR international congress: Pioneering the Future MIS in Prostate Care” โดยมี นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ ผู้บริหาร บุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จากส่วนภูมิภาคและนานาชาติ เข้าร่วม ภายในงานได้สาธิตควบคุมหุ่นยนต์ผ่าตัดทางไกล ไทย – จีน เป็นครั้งแรก โดยนายสมศักดิ์ ได้ตัดริบบิ้นผ่านระบบดังกล่าวด้วย   

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสุขภาพ เช่น AI และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ มาใช้ในการรักษาและการวินิจฉัยโรคที่ซับซ้อน  เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงนวัตกรรม ที่ทันสมัยและมีความปลอดภัย  ยกระดับการดูแลรักษา และคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ผมจึงมีความยินดีที่ได้ทราบว่า โรงพยาบาลราชวิถี มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิทยาการ  การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กบาดเจ็บน้อยในโรคทางเดินปัสสาวะ โดยได้จัดการประชุมวิชาการเป็นประจำในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และในปีนี้  ยังจัดให้มีโครงการนำร่องสาธิตการผ่าตัดทางไกลด้วยหุ่นยนต์เป็นครั้งแรกระหว่าง ประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ที่เชื่อมโยงการ ผ่าตัดทางไกล  จากราชวิถี ถึงเซี่ยงไฮ้ ระยะทางกว่า 3,800 กิโลเมตร เชื่อมั่นว่า การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์  จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาค จากการประชุมในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาวิทยาการทางการแพทย์  ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาชีพ นำไปสู่การยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ระหว่างภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ขอมอบนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและกรมการแพทย์ ให้ดำเนินการด้านศูนย์การแพทย์มูลค่าสูง และนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์  มอบโรงพยาบาลราชวิถี เป็นศูนย์สาธิตการสอนแสดงหุ่นยนต์ผ่าตัดของกระทรวงสาธารณสุขและขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่มีส่วนร่วมกับการประชุมนานาชาติในครั้งนี้

จากนั้น นายสมศักดิ์ เดินทางต่อมายังโรงแรมอัศวิน แกรนด์คอนเวนชัน เพื่อเปิดการประชุม “กำหนดทิศทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ประจำปี 2568 โดยมี นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้การต้อนรับ โดยนายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ควบคู่กับการยกระดับระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็งและยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นในระบบสุขภาพของประเทศ โดยที่ผ่านมา มีผลงานดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม เช่น การพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรคโควิด -19 และฝีดาษลิง ที่ช่วยลดการพึ่งพา การนำเข้าและแก้โรคระบาดได้อย่างทันท่วงที การยกระดับห้องปฏิบัติการ เพื่อรองรับการตรวจคุณภาพยาชีววัตถุและเซลล์บำบัด ซึ่งเป็นความหวังใหม่ ในการรักษาโรคมะเร็งและโรคหายาก การทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหาร ยา และสมุนไพร เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถแข็งขันได้ในระดับสากล การวิจัยและพัฒนาเพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากกระท่อมไทย โดยมีการศึกษาปริมาณสาระสำคัญไมทราไจนีนในใบกระท่อม ควบคู่กับการพัฒนาสารสกัดที่ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกพืชสมุนไพร การตรวจวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของอาหาร และคุณภาพข้าว ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพ และสร้างความเชื่อมั่นในตลาดส่งออก อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้ จะช่วยยกระดับนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน 

จากนั้นได้เป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยีส่วนประกอบปฏิกิริยาเคมีและกรรมวิธีการผลิตสารสกัดซึ่งมีสาร 7-ไฮดอกซีไมทราไจนีน ปริมาณสูงจากสารสกัดพืชกระท่อม ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และบริษัท เอออร์ต้า เอ็มจี จำกัด และพิธีลงนามสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยีการการผลิตสารกระท่อม ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และบริษัทสิทธิพรสมุนไพร จำกัด  

นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงการติดตามสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาว่า ในการดูแลประชาชนในช่วงนี้ กระทรวงกลาโหมถือเป็นก้าวแรก ส่วนก้าวที่สองคือกระทรวงสาธารณสุข เริ่มตั้งแต่สุขอนามัย แพทย์ การเยียวยาจิตใจ มีรถโมบายช่วยผู้ป่วยโรคไต สโตรคยูนิค ปัจจุบันมีทีมปฏิบัติการดูแลกว่า 600 ทีม ส่วนการทำหนังสือถึงองค์การอนามัยโลก นั้นยังไม่มี ตอบรับมา แต่เราต้องให้เกียรติผู้รับปลายทางในการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งไทยต้องการให้ทราบถึงประเด็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย การที่เด็ก ผู้หญิงเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่ละเมิดข้อตกลงระดับโลก ฉะนั้นโลกเสรีต้องรับรู้ในการดำเนินการของกัมพูชาที่ปฏิบัติการในทางติดลบกับสังคมโลกตรงนี้ ต้องรับรู้โดยทั่วไป

เมื่อถามถึงตัวเลขความเสียหายของโรงพยาบาลที่ถูกเขมรยิงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผลกระทบสถานพยาบาลเกือบ 20 แห่ง ส่วนใหญ่ปิดให้บริการอยู่ มีความเสียหายรวมประมาณ 285 ล้านบาท ซึ่งได้มีการเสนอต่อที่ประชุมครม.ไปแล้ว โดยรพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เสียหายมากที่สุด ต้องทำใหม่หมด ซึ่งที่เสียหายมากที่สุดต้องใช้เวลาฟื้นฟูเป็นปี หากสถานการณ์คลี่คลายก็จะไปบูรณะเพื่อเปิดให้บริการต่อไป
 
 

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข