วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568 13:49 น.

กทม-สาธารณสุข

โรงพยาบาลวิมุต เปิด "ศูนย์กระดูกและข้อ" รับมือวิกฤต "ภัยเงียบ" จากวิถีชีวิตของ “มนุษย์คลั่งงาน”

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.45 น.

โรงพยาบาลวิมุต เปิด "ศูนย์กระดูกและข้อ" รับมือวิกฤต "ภัยเงียบ" จากวิถีชีวิตของ “มนุษย์คลั่งงาน”

ชี้คนไทยนั่งเฉลี่ย 13 ชั่วโมงต่อวัน เร่งโรคกระดูกและข้อลุกลามสู่วัยทำงาน

เดินหน้าพลิกโฉมการดูแลสุขภาพด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง ยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

 

 

โรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน  โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำใจกลางกรุงเทพฯ เปิด “ศูนย์กระดูกและข้อ (ViMUT Bone & Joint Center)” ภายใต้แนวคิด "อย่าให้ทุกการเคลื่อนไหวต้องสะดุด" ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการยกระดับบริการสุขภาพแบบองค์รวมด้วยแนวทาง Comprehensive Bone & Joint Care ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกัน วินิจฉัย รักษา ฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ พร้อมรับมือวิกฤตสุขภาพเงียบ (Silent Epidemic) ที่กำลังลุกลามในสังคมไทย โดยข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยว่า คนไทยใช้ชีวิตอยู่ในท่านั่งเฉลี่ยมากถึง 13 ชั่วโมงต่อวัน พฤติกรรม "นั่งนาน ยืนนาน ขยับน้อย" จึงกำลังกลายเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้โรคกระดูกและข้อแพร่ระบาดเงียบ ๆ ในกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์ออฟฟิศและผู้ที่อยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานต่อเนื่องทุกวัน

 

ปัจจุบัน โรคกระดูกและข้อได้กลายเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลกที่องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้อยู่ในกลุ่มโรคที่เป็นสาเหตุของความพิการอันดับต้น ๆ ของประชากรโลก โดยมีผู้ป่วยกว่า 1.71 พันล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะอาการปวดหลังส่วนล่าง ที่เป็นสาเหตุความพิการอันดับหนึ่งในกว่า 160 ประเทศ ไลฟ์สไตล์ที่ขาดการเคลื่อนไหวอย่างเพียงพอส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างของร่างกาย เมื่อร่างกายอยู่ในท่าเดิมซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง แรงกดสะสมจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบไหลเวียนเลือดลดลง และเส้นประสาทถูกกดทับ จนเกิดอาการปวดเมื่อยหรือชาที่อาจดูเล็กน้อยในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ปรับพฤติกรรม อาการเหล่านี้สามารถพัฒนาไปสู่ภาวะข้อเสื่อม หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกพรุนก่อนวัยได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทั้งด้านอารมณ์ สมาธิ การทำงาน และความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

 

นพ.นิพัฒน์ กุหลาบขาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า "การเปิดศูนย์กระดูกและข้อ เป็นการเดินหน้าวิสัยทัศน์ในการสร้างระบบสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Healthcare) ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต มากกว่าการรักษาโรคเพียงชั่วคราว เราเห็นชัดว่าภัยเงียบจากโรคกระดูกและข้อกำลังขยายวงกว้างขึ้นทุกปี ไม่เฉพาะในผู้สูงอายุ แต่ลุกลามสู่วัยอายุน้อยและคนวัยทำงานที่เป็นกำลังหลักของประเทศ เราจึงเลือกลงทุนในสาขานี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างศูนย์ความเป็นเลิศที่รวมทั้งความชำนาญการของทีมแพทย์เฉพาะทาง เทคโนโลยีระดับโลก และแนวคิดการดูแลแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Care) เพื่อคืนสมดุลการเคลื่อนไหวให้ผู้ป่วย ทุกวันนี้ วงการเฮลท์แคร์กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุค “พาร์ทเนอร์สุขภาพ” ที่ผู้บริโภคมองโรงพยาบาลเป็นเพื่อนคู่คิดด้านสุขภาพมากกว่าผู้รักษา รพ. วิมุต มุ่งพัฒนาอีโคซิสเต็มอัจฉริยะด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงศูนย์ความเป็นเลิศเข้ากับบริการสุขภาพที่เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และดูแลอย่างใส่ใจ พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงในทุกช่วงวัย"

นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต เผยว่า "ศูนย์กระดูกและข้อคือก้าวสำคัญของวิมุตในการสร้างศูนย์ความเป็นเลิศที่ไม่ได้มุ่งเพียงรักษาโรค แต่ยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพกระดูกและข้อของคนไทยสู่มาตรฐานระดับสากล ภายใต้กลยุทธ์ M.O.V.E. ที่ให้ความสำคัญกับ M – Mastery of Expertise ความชำนาญระดับสูงของทีมแพทย์เฉพาะทาง ครอบคลุมทุกโรคกระดูกและข้อ ตั้งแต่ข้อเสื่อมจนถึงการผ่าตัดที่ซับซ้อนที่สุด, O – Orthopedic Innovation การนำนวัตกรรมมาใช้จริง เพื่อการวิเคราะห์และการรักษาที่แม่นยำ, V – Value-based Care การดูแลที่มุ่งสร้าง 'คุณค่า' แก่ผู้ป่วย เน้นการคืนคุณภาพชีวิตและสร้างความสุขจากการใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ, และ E – Empowered Recovery การฟื้นฟูที่ออกแบบเฉพาะบุคคล โดยทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว”

 

“ยิ่งไปกว่านั้น รพ.วิมุตเชื่อว่า ความเป็นเลิศทางการแพทย์ไม่ได้เกิดจากเครื่องมือเท่านั้น แต่เกิดจาก 'คน' ที่ทำงานด้วยหัวใจ เราผนึกกำลังแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางในหลากหลายสาขา ได้แก่ ศัลยกรรมกระดูกและข้อ เวชศาสตร์ฟื้นฟู เวชศาสตร์การกีฬา และด้านการดูแลรักษาด้วยโภชนบำบัด เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นจนกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดี ศูนย์แห่งนี้ออกแบบด้วยแนวคิด 'Full Loop Care' ที่รวมทุกขั้นตอนไว้ที่เดียว เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวก ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุดในการฟื้นตัว"

 

รพ. วิมุต นำเสนอระบบรักษาที่ครบครันสำหรับโรคกระดูกและข้อ อาทิ เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลความละเอียดสูงแบบ Auto Stitching X-Ray สำหรับตรวจภาพแนวยาวของกระดูกสันหลังทั้งแนว, เครื่องตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกและองค์ประกอบร่างกาย (Bone Mineral Density & Whole Body Composition Scan), เครื่อง MRI เพื่อสร้างภาพโครงสร้างกระดูกและข้อต่ออย่างละเอียด เพื่อระบุสาเหตุของอาการปวดได้อย่างตรงจุด และการผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็ก ซึ่งช่วยลดความเจ็บ ฟื้นตัวไว ศูนย์กระดูกและข้อ รพ. วิมุต ยังให้ความสำคัญกับ Personalized Orthopedic Care โดยทีมแพทย์จะออกแบบแผนการรักษาให้เหมาะกับสภาพร่างกาย พฤติกรรม และความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยจะได้รับการติดตามผลอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนและหลังการรักษา รวมถึงเข้ารับการฟื้นฟูในศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู (Rehabilitation Center) และศูนย์ดูแลต่อเนื่อง (Transitional Care Ward) ที่มีทีมสหสาขาวิชาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เรายังมีการดูแลโดยนักกำหนดอาหาร ที่เข้ามาช่วยวางแผนโภชนาการทางการแพทย์เฉพาะบุคคล ควบคุมเรื่องน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และการคำนวณโปรตีนให้เหมาะสมกับการรักษา

 

นพ.สมยศ ปิยะวรคุณ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านข้อเข่าและสะโพกเทียม โรงพยาบาลวิมุต เผยว่า "จริง ๆ แล้ว โรคกระดูกและข้อส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุหรืออายุที่มากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก 'พฤติกรรมซ้ำ ๆ ในชีวิตประจำวัน' ที่เราทำโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป การก้มดูมือถือ การจับเมาส์ต่อเนื่อง หรือแม้แต่การยืนนานเกินควร พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อรับแรงกดซ้ำ ๆ จนเกิดการอักเสบ เส้นเอ็นตึง และข้อเริ่มสึกหรอ โดยโรคกระดูกและข้อ ส่วนใหญ่ที่พบบ่อยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ โรคกระดูกสันหลัง อาทิ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเสื่อม โรคบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา อาทิ เส้นเอ็นไขว้หน้าและหมอนรองเข่าฉีกขาด รวมถึงเส้นเอ็นบริเวณหัวไหล่ฉีกขาด และโรคข้อเสื่อม ทั้งข้อเข่าและข้อสะโพก”

 

 

 

“ศูนย์กระดูกและข้อ รพ. วิมุต พร้อมดูแลรักษาทุกข้อตั้งแต่กระดูกคอถึงเท้า โดยศูนย์แห่งนี้ครอบคลุมการรักษาทุกกลุ่มโรคของระบบกระดูกและข้อ ตั้งแต่โรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุน หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เอ็นอักเสบ ไหล่ติด รวมถึงอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา ทั้งยังมีแพทย์เฉพาะทางสำหรับกลุ่มมะเร็งกระดูกและโรคกระดูกในเด็ก โดยทุกเคสจะได้รับการประเมินอย่างละเอียดก่อนวางแผนรักษา เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างแม่นยำและลดการผ่าตัดที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้ เราจะพิจารณาการตรวจคัดกรองในผู้ป่วยแต่ละรายตามความเหมาะสม เช่น การตรวจมวลกระดูก การปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังมีบริการ Telemedicine สำหรับผู้ที่ต้องการปรึกษาแพทย์เบื้องต้น”

 

พญ.พิชชาพร เมฆินทรพันธุ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า "โรคทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูกส่วนใหญ่ ค่อย ๆ พัฒนาอย่างช้า ๆ จากพฤติกรรมที่เราทำซ้ำทุกวัน อาการปวดเล็กน้อยเรื้อรังที่หลายคนมองข้าม จึงอาจเป็น 'สัญญาณเตือนแรก' ของความเสื่อมที่เริ่มต้นขึ้น ดังนั้นการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจึงสิ่งสำคัญมาก เพราะยิ่งดูแลเร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสรักษาได้ง่าย ฟื้นตัวได้ไว และป้องกันไม่ให้รุนแรงจนกระทบต่อคุณภาพชีวิต ที่อยากย้ำคือ การมีสุขภาพกล้ามเนื้อกระดูกและข้อที่ดีในระยะยาวต้องมาจาก 'การคืนสมดุลให้ร่างกาย' เราควรเริ่มจากการขยับให้ถูกวิธี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อซ้ำๆทุกวัน เพราะการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมจะช่วยกระตุ้นให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงอยู่เสมอ สุขภาพที่ดีไม่ควรเริ่มจากยามป่วย เราควรหันมาเคลื่อนไหวร่างกายและเลิกพฤติกรรมเนือยนิ่ง(sedentary lifestyle) ตั้งแต่วันนี้ พร้อมสังเกตอาการปวดอยู่เสมอเพื่อจะได้เข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที" 

 

ผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์กระดูกและข้อ รพ.วิมุต  และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.วิมุต 

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข