วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568 04:59 น.

กทม-สาธารณสุข

สสส.ปลื้ม “Happy Workplace” ช่วยแรงงานไทยสุขภาวะดี-ลดป่วย NCDs

วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.07 น.

สสส.ปลื้มแนวคิด “Happy Workplace” ช่วยคนทำงานอุตสาหกรรมขนส่ง 102 แห่ง สุขภาวะดี-ลดป่วย NCDs-ลดอุบัติเหตุทางถนน เดินหน้าสานพลังสมาคมขนส่งสินค้าฯเปิดเวที “TRUCK HERO : ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ” อุดช่องว่างแรงงานไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

วันที่ 17 ธ.ค.2568 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย จัดกิจกรรม “TRUCK HERO: ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง ถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การนำแนวคิดองค์กรสุขภาวะ (Happy Workplace) ไปใช้ในการทำงานการสร้างเสริมสุขภาพในอุตสาหกรรมขนส่งไทย

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวว่า ความปลอดภัยและสุขภาวะเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะให้คนทำงานอย่างยั่งยืน จึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่สำคัญสำหรับ 3 ภาคส่วน 1.ภาครัฐ ควรสนับสนุนองค์กรขนส่งที่ให้ความสำคัญกับสุขภาวะพนักงาน ด้วยมาตรการลดหย่อนภาษี หรือรางวัลองค์กรสุขภาวะ บังคับใช้กฎหมายเรื่องชั่วโมงการทำงานและการพักผ่อนของคนขับอย่างจริงจัง และพัฒนาพื้นที่พักรถและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพและปลอดภัย 2.ผู้ประกอบการ ควรจัดสรรงบประมาณตรวจสุขภาพประจำปี การฝึกอบรม และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างให้พนักงานแจ้งปัญหาสุขภาพได้โดยไม่ต้องกังวลจะกระทบการทำงาน 3.บุคลากรขนส่ง ต้องดูแลสุขภาพของตนเอง เพื่อเป็นต้นแบบบุคคลสุขภาวะดีทั้ง 4 มิติ ทั้งนี้ ขอชื่นชม สสส. ที่สนับสนุนโครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง สะท้อนวิสัยทัศน์การทำงานด้านสุขภาพที่ไม่ได้มองแค่ตัวเลข แต่มองไปถึงองค์กรและคนทำงานตัวจริงทุกคน

นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า ประชากรวัยทำงานมีบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ปัจจุบันคนกลุ่มนี้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อ (NCDs) เฉลี่ย 400,000 คนต่อปี สาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารเน้นหวาน มัน เค็ม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และมีกิจกรรมทางกายไม่เพียง สอดคล้องกับผลศึกษาสถานการณ์ปัญหาโรคไม่ติดต่อและพฤติกรรมสุขภาพที่เกี่ยวข้องของวัยทำงานในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างแรงงานในระบบ 46,200 คนทั่วประเทศ ปี 2568 โดย สสส. และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ พบแรงงานในระบบสูบบุหรี่มากกว่าแรงงานนอกระบบ เพศชายสูบบุหรี่มากกว่าเพศหญิง ขณะที่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบเพศชายดื่มมากกว่าเพศหญิง โดยช่วงอายุที่ดื่มมากที่สุดคือ 45-59 ปี ส่วนพฤติกรรมการบริโภคในมิติการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและการกินผักผลไม้ไม่เพียงพอ พบเพศชายกินผักผลไม้น้อยกว่าเพศหญิง เช่นเดียวกับพฤติกรรมเนือยนิ่งที่มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเพศหญิง

“จากสถานการณ์ดังกล่าว สสส. ร่วมกับ สมาคมฯ ขับเคลื่อนงานด้านสุขภาวะของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง มีสถานประกอบการร่วมขับเคลื่อนนโยบายสร้างสุขในองค์กร 102 แห่ง และยกระดับสู่การเป็นองค์กรต้นแบบสุขภาวะ 20 แห่ง ได้พัฒนาให้เกิดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านสุขภาวะ สำหรับพนักงานขับรถขนส่งเพื่อผลักดันสู่มาตรฐานวิชาชีพ มีพนักงานเข้าร่วมแล้ว 100 คนจากทั่วประเทศ เกิดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และนักสร้างสุของค์กรผู้นำสุขภาพ 160 คน ในจำนวนนี้ถูกยกระดับเป็นพี่เลี้ยงถ่ายทอดความรู้ด้านสุขภาพ 40 คน ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีในอุตสาหกรรมขนส่ง ซึ่งจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมสุขภาพ ช่วยให้คนทำงานมีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่ความมั่นคงแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมขนส่งต่อไป” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

ดร.ปิยะนุช สัมฤทธิ์ หัวหน้าโครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง กล่าวว่า บุคลากรในภาคขนส่งต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ สาเหตุจากการทำงานไม่เป็นเวลา ความเครียดจากสภาพการจราจร ปัญหาสุขภาพจากการนั่งหรือขับขี่ยานพาหนะเป็นเวลานาน รวมถึงขาดการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้คนทำงานมีสุขภาพดี สมาคมฯ จึงร่วมกับ สสส. พัฒนาโครงการขับเคลื่อนฯ โดยนำเอาแนว Happy Workplace ของ สสส. มาส่งเสริมให้คนทำงานมีองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพทุกมิติ ลดเสี่ยงป่วยโรค NCDs อาการออฟฟิศซินโดรม สภาวะความเครียด ลดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และที่สำคัญคือ ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาวะ สมาคมฯ เชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร จะช่วยให้บุคลากรในธุรกิจขนส่งมีสุขภาวะที่ดี พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข