กทม-สาธารณสุข
สคอ.ย้ำเตือน “ดื่มไม่ขับคนข้างหลังเป็นห่วง” แนะ 4 ความพร้อมเดินทางปลอดภัย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เครือข่ายลดอุบัติเหตุชวนรณรงค์ย้ำเตือน “ดื่มไม่ขับ คนข้างหลังเป็นห่วง” ปีใหม่ 2569 เร่งสื่อสารลดความเสี่ยง แนะเตรียม 4 พร้อมก่อนเดินทาง เพื่อให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย
วันที่ 23 ธ.ค.68 - นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เทศกาลปีใหม่มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 7 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.68-5 ม.ค.69) เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวจำนวนมาก ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษมากกว่าช่วงเวลาปกติ ทั้งนี้สถิติอุบัติทางถนนข้อมูลจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ในเทศกาลปีใหม่ 2568 (ช่วง 7 วัน) ที่ผ่านมา มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ 1,930 ครั้ง บาดเจ็บ 1,894 คน เสียชีวิต 311 คน สาเหตุจากดื่มแล้วขับ ร้อยละ 17.20 ขับรถเร็ว ร้อยละ 40.25 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20.18 และยังพบว่า 50 % ของกลุ่มผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน อยู่ไม่ไกลจากบ้านหรือที่พักในรัศมีประมาณ 5-10 กิโลเมตร
นายพรหมมินทร์ กล่าวว่า ปีใหม่นี้ขอชวนร่วมรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ คนข้างหลังเป็นห่วง” เพื่อกระตุ้นเตือนเน้นย้ำถึงความความสำคัญของการดื่มไม่ขับ เพื่อให้เดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ สคอ.ยังได้มีการสื่อสาร
ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนด้วยการสร้างความรู้ ความตระหนักแก่ประชาชนผู้ขับขี่ตั้งแต่ก่อนเทศกาลและช่วงเทศกาล โดยผลิตสื่อฯและชุดข้อมูลการเฝ้าระวังป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนสนับสนุนภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ตลอดจนจัดทีมลงพื้นที่ติดตามกรณีอุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดช่วงเทศกาลโดยใช้ข้อมูลตัวเลขจาก ศปถ.รายวัน จัดทำเป็นคลิปวิดีโอสะท้อนผลกระทบ ปัญหา สาเหตุและข้อเสนอแนะขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในอนาคตต่อไป
“การดื่มแล้วขับไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ขับขี่ แต่ยังกระทบไปถึง “คนข้างหลัง”จำนวนมาก โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1.ระยะสั้น ครอบครัวอาจต้องสูญเสียหัวหน้าครอบครัวและรายได้ โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ขับขี่เป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งผลให้คนข้างหลัง ขาดเสาหลัก ขาดผู้นำ และขาดที่พึ่ง เป็นผลกระทบแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นทันที 2. ระยะกลาง คือภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่าชดเชยให้คู่กรณีที่เสียชีวิต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นภาระที่หนักขึ้นทับซ้อนในช่วงที่ครอบครัวกำลังเปราะบาง 3. ระยะสุดท้าย หากคนดื่มแล้วขับเป็นฝ่ายผิด และคู่กรณีเสียชีวิตอาจเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมชดเชยไปถึงลูกเมีย แม้คนเมาแล้วขับจะเสียชีวิตไปแล้ว ทรัพย์สินที่มีอาจต้องขายเพื่อชดเชยให้คู่กรณี บางครอบครัวอาจถึงขั้นล่มสลาย” นายพรหมมินทร์ กล่าว
สำหรับข้อแนะนำผู้ที่ต้องเดินทางไกล ขอแนะให้เตรียม 4 พร้อม คือ 1.คนพร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับขี่โดยเด็ดขาด ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง 2.รถพร้อม ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทาง เบรก ยางรถและลมยาง ไฟหน้า–ไฟท้าย–ไฟเลี้ยว น้ำมันเครื่อง อุปกรณ์ฉุกเฉินพร้อมใช้งาน ยางอะไหล่ ไฟฉาย 3.เส้นทางพร้อม วางแผนเส้นทางล่วงหน้า เช็กจุดเสี่ยง จุดก่อสร้าง ตรวจสอบสภาพอากาศ หลีกเลี่ยงช่วงเวลาจราจรหนาแน่น เตรียมจุดพักทุก 2 ชั่วโมง หรือเมื่อเริ่มง่วง 4.เวลาและสติพร้อม ไม่เร่งรีบ ไม่ขับเร็วเกินกำหนด เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า มีสติ เคารพกฎจราจร หากง่วงหรือเหนื่อยให้จอดพักทันที
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข
ข่าวในหมวดกทม-สาธารณสุข ![]()
พม. ปรับเกณฑ์ขึ้นทะเบียนดึงคนพิการการเข้าระบบ 4.1 ล้านคนให้ได้รับสิทธิ สวัสดิการ สสส.ร่วมแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 19:14 น.- สธ. ส่งโมบายคลินิกดูแลหญิงตั้งครรภ์ วางระบบส่งต่อฉุกเฉินรับมือสถานการณ์ไทย-กัมพูชา 14:14 น.
- รามาธิบดี ลงนามเริ่มต้นการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลแห่งใหม่ โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี 13:53 น.
- สสส.สานพลังภาคีย้ำเตือนเดินทางปีใหม่ 2569 ดื่มไม่ขับกลับบ้านปลอดภัย 12:29 น.
- สสส.ปลื้ม “Happy Workplace” ช่วยแรงงานไทยสุขภาวะดี-ลดป่วย NCDs 12:07 น.


