กทม-สาธารณสุข
"รมว.พัฒนา" มอบของขวัญปีใหม่ 2569 ให้ "เด็กไทย" ลดเสียชีวิตจาก "นิวโมคอคคัส" ด้วยวัคซีน PCV พร้อมเปิด Kid Care Premium Clinic เพิ่มทางเลือกการรักษา
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบของขวัญปีใหม่ 2569 ให้แก่ "เด็กไทย" สร้างการเข้าถึงวัคซีน PCV ป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส พร้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ "สมเด็จพระพันปีหลวง" เผย เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อัตราติดเชื้อเสียชีวิตสูงถึง 11% เตรียมผลักดันเข้าแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ปรับปรุงระบบกระจายวัคซีนให้เข้าถึงเด็กพื้นที่ห่างไกล สื่อสารสร้างความเชื่อมั่นผู้ปกครองพาบุตรหลานมารับวัคซีน พร้อมเปิด Kid Care Premium Clinic ลดเวลารอคอย เพิ่มทางเลือกเข้าถึงการรักษา
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กทม. นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีมอบของขวัญปีใหม่ 2569 กระทรวงสาธารณสุข "ร่วมสร้างการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม เพื่อสุขภาพเด็กไทยอย่างยั่งยืน" โดยมี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์
นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พร้อมกล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ประการแรก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นที่เคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยการมอบ "โอกาส" และ "ความปลอดภัย" ทางสุขภาพให้แก่เด็กไทย สร้างอนาคตที่แข็งแกร่งให้กับประเทศชาติ และประการที่สอง เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วน เนื่องจากเชื้อนิวโมคอคคัสเป็นสาเหตุการเสียชีวิตและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของเด็กไทย โดยในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี มีอัตราการติดเชื้อในกระแสเลือดสูงถึง 33.8 ต่อประชากรแสนคน
นายพัฒนากล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงมอบของขวัญปีใหม่ให้กับเด็กไทยทุกคน ภายใต้แนวคิด "ร่วมสร้างการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม เพื่อสุขภาพเด็กไทยอย่างยั่งยืน" โดย 1) เร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส (PCV) โดยผลักดันและจัดหาวัคซีน PCV ที่มีประสิทธิภาพสูงเข้าสู่แผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศโดยเร็วที่สุด เพื่อลดอัตราป่วยและเสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบในเด็กไทย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง 2) สร้างความเท่าเทียมด้านวัคซีน โดยจะทบทวนและปรับปรุงระบบการกระจายวัคซีน เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ห่างไกล ชนบทหรือในเมืองหลวง สามารถเข้าถึงวัคซีนที่จำเป็นและวัคซีนเสริมได้อย่างเท่าเทียมและทันท่วงที และ 3) สื่อสารความเชื่อมั่น โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความสำคัญและความปลอดภัยของวัคซีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของประเทศ และให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานเข้ารับวัคซีนตามกำหนด ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตของเด็กไทย เพราะจะนำพาประเทศไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและปราศจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
“สำหรับ Kids Care Premium Clinic จะสอดรับกับนโยบายยกระดับบริการของโรงพยาบาลรัฐ เพื่อลดความแออัดและลดระยะเวลารอคอย เป็นการก้าวไปอีกขั้นของระบบบริการสาธารณสุขไทย โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพเด็ก ช่วยเพิ่มทางเลือกในการรับบริการและเสริมระบบสุขภาพให้สมบูรณ์และครบวงจร ที่สำคัญ ยังแสดงให้เห็นถึงการยกระดับมาตรฐานคุณภาพสูงสุดของแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็ก ที่มุ่งเน้นทั้งความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพ” นายพัฒนากล่าว
นพ.ณัฐพงศ์กล่าวว่า โรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสทำให้เกิดปอดอักเสบและเยื่อหุ้มสมองอักเสบรุนแรง เป็นสาเหตุของการป่วยและเสียชีวิตของเด็กทั่วโลก โดยประเทศไทยพบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีมีอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อนิวโมคอคคัสสูงถึง ร้อยละ 11 แต่ยังไม่ได้บรรจุวัคซีน PCV ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว 170 ประเทศ มีการบรรจุวัคซีน PCV ลงในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแล้ว ทั้งนี้ ประเทศไทยมีโครงการนำร่องในบางพื้นที่มาระยะหนึ่งแต่การเข้าถึงของเด็กไทยยังค่อนข้างจำกัด มีผู้ปกครองเพียงบางส่วนที่สามารถนำบุตรหลานมาฉีดได้ประมาณร้อยละ 10 – 20 ซึ่งการเข้าถึงวัคซีนถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคและลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ การมอบของขวัญปีใหม่ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เด็กไทยเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพครอบคลุมเชื้อก่อโรคได้ถึงกว่าร้อยละ 90 เพื่อปกป้องชีวิตจากโรคร้ายแรงที่ป้องกันได้
ด้าน นพ.อาคม กล่าวว่า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางระดับตติยภูมิขั้นสูง จึงมีผู้ป่วยเด็กรับบริการจำนวนมาก เกิดปัญหาความแออัดและการคอยรอรับบริการ โดยเฉพาะในคลินิกผู้ป่วยนอก จึงเปิดคลินิกบริการพิเศษ Kids Care Premium Clinic เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบายในการเข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป็นการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสูงสุด ภายใต้การบริหารจัดการเวลาและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้รอรับบริการและลดความแออัดในคลินิกปกติ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการพัฒนาการบริการทางการแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็กที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับพรีเมียม ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผสานกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลากหลายสาขา และการบริการที่เป็นเลิศ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ - ศุกร์ (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์) โดยลงทะเบียนนัดหมายได้ที่ Line id @kids2633 สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1415 ต่อ 2633 (ในเวลาราชการ)
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข
ข่าวในหมวดกทม-สาธารณสุข ![]()
เตือนฉลองปีใหม่ 2569 สสส.ผนึกภาคีฯตอกย้ำ “ดื่มไม่ขับ..กลับบ้านปลอดภัย” 13:17 น.- กปน. คว้าโล่ประกาศเกียรติคุณศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการโดดเด่น ปี 2568 09:24 น.
- BDMS ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ใช้ AI “BURT” ปฏิวัติการบริหารทรัพยากรการแพทย์ สร้างคุณค่าการรักษาแก่ผู้ป่วย บริษัทประกัน และระบบสาธารณสุข 20:18 น.
- MEDEZE ผนึก Identity Dermatology Center ลงนาม MOU ยกระดับนวัตกรรม Regenerative Beauty ดันไทยสู่ศูนย์กลาง Medical & Wellness Tourism 19:58 น.
- สธ. จับมือ 4 โรงเรียนชั้นนำ ปั้น "ยุวทูต อย.น้อย" สื่อสารผลิตภัณฑ์สุขภาพ เล็งผลในวงกว้าง เดินหน้าขยายผลครอบคลุมทั่วประเทศ 16:38 น.


