เหยื่อร้องหนุ่มสกุลดังโกงหุ้นมูลค่ากว่า 100 ล้าน

 

 

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ก.พ. น.ส.สุจินดา รักตระกูล อายุ 43 ปี พร้อมผู้เสียหายอีก 17 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์ ผกก.สน.ศาลาแดง และ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน สน.ศาลาแดง เพื่อติดตามทวงถามคดีฉ้อโกงหุ้นที่ผู้เสียหายทุกราย เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับหนุ่มนามสกุลดัง ซึ่งเป็นผู้บริหาร บมจ. แห่งหนึ่ง ประกอบกิจการซื้อขาย รถ จยย.มือสอง รวมมูลค่าความเสียหายของทั้ง 18 ราย ประมาณ 100 ล้านบาท

 

 

น.ส.สุจินดา กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 ตนและผู้เสียหายที่เดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง รวม 18 ราย ได้ตัดสินใจซื้อหุ้นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ร่วมกับ บมจ.แห่งหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่าผู้บริหารหนุ่มเป็นบุคคลมีนามสกุลดังเป็นญาติกับนักการเมือง และบุคลิกน่าเชื่อถือ แต่เมื่อซื้อหุ้นกันไปแล้วยอดรวมรายละระหว่าง 100,000-7,000,000 บาท กลับไม่มีการปันผลมาให้จนถึงปัจจุบัน พอติดตามทวงถามก็อ้างเหตุผลต่างๆ นานา โดยความเสียหายลักษณะเดียวกันยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ยังไม่เข้าแจ้งความ นับร้อยราย มีบางกลุ่มรวมตัวกันไปฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อดำเนินการข้อหาฉ้อโกงประชาชนขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งศาลตัดสิน กลุ่มของตนร้อนใจจึงร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนและพากันเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในวันนี้เพราะเกรงว่าคดีจะเงียบหายเนื่องจากคู่กรณีรู้จักคนใหญ่คนโตมากมาย

 

 

ด้าน  พ.ต.ท.ศิริพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้เสียหายนับร้อยราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท จากการพิจารณาลักษณะความเสียหายแล้วตนมองว่า เป็นความผิดต่อประชาชนจำนวนมาก และส่งผลต่อเศรษฐกิจ เบื้องต้นจึงทำหนังสือไปที่ บก.ปอศ.ขอให้รับทำคดีเป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์กำหนด ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 1144 พบว่า ที่ผ่านมาผู้เสียหายปล่อยปละละเลยกันตั้งแต่ในช่วงซื้อหุ้น โดยไม่ติดตามตรวจสอบข้อมูลของทางบริษัท ผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น จนถึงปี 2561 ทำให้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้แม้แต่คดีฉ้อโกง เพราะคดีลักษณะนี้ไม่ใช่คดีเช็คเด้ง แต่อย่างไรก็ตามวันที่ 15 ก.พ.นี้ ทราบว่าศาลจังหวัดตลิ่งชัน นัดหมายพิพากษาคดีที่มีผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่งรวมตัวไปฟ้องโทษฐานฉ้อโกงประชาชน หากศาลมีคำพิพากษาว่ามีความผิด ก็จะนำคำพิพากษาของศาล มาเป็นบรรทัดในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.