รวบ2หนุ่มมูลนิธิกู้ภัยดัง
ขนยานรก500,000เม็ด

จับสองหนุ่มมูลนิธิกู้ภัยดัง ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวน 500,000 เม็ด แลกค้าจ้าง 1,250,000 บาท สุดท้ายจนมุมตำรวจภาค 5 จับกุมดำเนินดี

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2562 โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุขผบช.ภ.5 ,พ.ต.อ .ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ รอง ผบก.สส.ภ.5 ,พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวน 1 ราย 2 คน พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษจำนวน 500,000 เม็ด เบื้องต้นนำตัวขยายผล ดำเนินคดีในข้อหา"มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย"

เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจากจากนายอาร์ม ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลให้นำยาเสพติดจำรวน 500,000 เม็ด ไปส่งให้กับผู้ค้าที่กรุงเทพมหานคร โดยจะได้รับค้าจ้างเม็ดละ 2.50 บาท  รวมค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 1,250,000 บาท โดยการติดต่อผู้ชื้อทางโทรศัพท์  และทำการติดต่อกับเจ้าของยาเสพติดอาศัยอยู่ฝั่งประเทศเมียนมาร์ ชื่อนายอู๋ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นคนไทยจังหวัดอยุธยา ไปอาศัยอยู่ฝั่งประเทศเมียนมาร์ ติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ “มังกรคู่”ที่รู้จักกับนายอู๋ เพราะเคยเป็นลูกค้าซื้อไส้กรอกและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี (นายอู๋ มักจะข้ามไปมาระหว่างประเทศไทยและเมียนมาร์ ) ต่อมาหลังจากนายอาร์มฯและนายอู๋ฯ ได้ตกลงซื้อขายยาเสพติดกันแล้ว จึงได้ไปรับเอายาเสพติดของกลางดังกล่าวข้างต้น ที่บ้านเวียงหอม อ.แม่สาย จว.เชียงราย

ก่อนนำยาเสพติดนำมาใส่หลังรถตู้บรรทุก ของมูลนิธิ ฯ  จากนั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดได้แยกย้ายกันเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เส้นทาง แม่สาย- แม่จัน-แม่สรวย-เวียงป่าเป้า-ดอยสะเก็ด  ตรงเข้าตัวเมืองเชียงใหม่  หลังจากนั้นเมื่อขับรถตามกันมาถึง บริเวณที่เกิดเหตุ ได้ช่วยกันลำเลียงกระเป๋าบรรจุยาเสพติด  จากรถยนต์ตู้ ไปยังรถยนต์  เพื่อจะส่งมอบให้ให้กับผู้ลำเลียงยาเสพติดต่อไป แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนภาค 5 โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 ทำการสืบสวนจับกุมตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฏหมาย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไดแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลางทั้งหมด มาทำบันทึกที่ บก.สส.ภ.5 และนำตัวส่ง พงส.ฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป