บุรีรัมย์-รวบ 2 มือปืนคดียิงคู่อริเสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 1 รายกลางสนามฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ หลังก่อเหตุโยนอาวุธทิ้งแม่น้ำแล้วหลบหนีกลับบ้านเกิด ก่อนติดต่อขอมอบตัว

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุวัยรุ่นยิงกันในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งหนึ่ง บริเวณซอยไทยประกัน 1/5 ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย

ผู้เสียชีวิตรายแรกคือ นายชญามร พราวศรี อายุ 18 ปี ชาวตำบลดงรัก อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ถูกยิงบริเวณใบหน้าและท้อง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

รายที่สองคือนายไชยวัฒน์ ตางาม อายุ 20 ปี ชาวตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ถูกยิงที่ท้อง เสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายพรมมินทร์ ขันทอง อายุ 17 ปี ชาวตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

หลังเกิดเหตุ ตำรวจจังหวัดสมุทรปราการได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับ ผู้ต้องหารายแรกคือนายพิศาล หรือ “โบ้” อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ต้องหารายที่สองคือนายธีรนันท์ หรือ “ธง” อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

จากการสืบสวน พบว่าทั้งสองเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้เสียชีวิตมาก่อน โดยวันเกิดเหตุมีการโต้เถียงผ่านโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งนัดกันที่สนามฟุตบอลเพื่อเคลียร์ปัญหา

เมื่อนายชญามร เดินเข้าไปในสนามฟุตบอล ได้มีการปะทะคารมกับนายโบ้อีกครั้ง ก่อนที่นายโบ้จะใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่จนเสียชีวิต ส่วนผู้ตายอีกหนึ่งรายและผู้บาดเจ็บไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ถูกลูกหลงจากกระสุน

หลังก่อเหตุ ทั้งสองได้นำอาวุธปืน 2 กระบอก ได้แก่ ปืนลูกซองและปืนปากกาไปทิ้งแม่น้ำ ก่อนหลบหนีกลับจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมาทั้งคู่ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอมอบตัว

แม่ของนายพิศาล ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกชายแต่งงานและมีบุตรแล้ว ทำงานที่สมุทรปราการกับภรรยา ตนรู้ข่าวจากเพื่อนลูกชาย รู้สึกตกใจมาก เพราะลูกเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด และไม่เคยมีปัญหากับใคร

ด้านนายพิศาล หรือ “โบ้” สารภาพว่า ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กก่อนเกิดเหตุว่า “ทำไมขับรถเบิ้ลดีจัง” จากนั้นผู้เสียชีวิตได้ทักแชทมาท้าทาย จึงนัดเจอกันที่สนามบอล ตนและเพื่อนไปด้วยกัน 2 คน โดยพกอาวุธไปด้วย

เมื่ออีกฝ่ายเข้ามาหาเรื่องและวิ่งเข้าหาในขณะตนกำลังจะกลับ จึงยิงออกไปโดยไม่ทันยั้งคิด พร้อมกล่าวขอโทษญาติผู้เสียชีวิต และอ้างว่าเป็นการกระทำจากอารมณ์ชั่ววูบ

ขณะที่นายธีรนันท์ กล่าวว่า ตนถูกชักชวนให้ไปสนามฟุตบอลด้วย โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้าย พอก่อเหตุเสร็จได้ขี่รถกลับบุรีรัมย์ จากนั้นจึงตกลงกันมอบตัวกับตำรวจ เพราะเกรงกลัวอันตรายและอยากพบญาติผู้ใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมอย่างรอบคอบ