ครอบครัว-เพื่อนนศ.สาวเหยื่อดต.ปืนลั่น
ตามความคืบหน้าคดีเกรงไม่เป็นธรรม

วันนี้ (7 พ.ย)  ครอบครัวและเพื่อนนักศึกษา สาววัย 18 ปีเหยื่อดาบตำรวจปืนลั่นเข้าพบตำรวจสภ.ช้างเผือกติดตามความคืบหน้าทางคดีเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมผบช.ภ5.ยืนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหากญาติถูกข่มขู่หรือเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมพร้อมได้สั่งการตำรวจทุก สภ.เน้นย้ำวินัยเรื่องเด็กฝึกงาน

นางสาวสุชาดา คุณาชัย อายุ 34 ปีพร้อมครอบครัวและเพื่อนของนางสาวอภัสรา มันทเล อายุ 18 ปี หรือน้องนุ๊ก นักศึกษาสาวที่เสียชีวิตจากเหตุปืน หลังนางสาวอภัสรา ทะเลาะกับ ด.ต.คงศักดิ์ กองเงิน อายุ 35 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองเชียงใหม่ จนอาวุธปืน 11 มม.ลั่น กระสุนเจาะเข้าบริเวณท้ายทอยได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในรถยนต์กระบะ โยโตต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ 4155 สกลนคร ที่จอดอยู่ริมถนนบ้านท่อ-ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยอาการของนางสาวอภัสรา ค่อนข้างสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเย็นวานนี้

โดยวันนี้ทางครอบครัวและเพื่อนสนิทได้เดินทางมาสอบถามความคืบหน้าทางคดีกับ พ.ต.ท. วิสูตร วงศ์ใหญ่ รอง ผกก. สอบสวน สภ.ช้างเผือก เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลัง ผู้ต้องหา ด.ต.คงศักดิ์ กองเงิน อายุ 35 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับการประกันตัวไปแล้วและขอให้ทาง ตำรวจเร่งรัดคดีให้เร็วขึ้นเนื่องจากขณะนี้ทาง ครอบครัวยังไม่นำศพของผู้ตายออกจากโรงพยาบาลจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น
 

ด้าน พ.ต.ท.วิสูตร วงศ์ใหญ่ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า หลังแจ้งข้อหากับดาบตำรวจคงศักดิ์ แล้ว พฤติกรรมของผู้ต้องหาไม่มีการหลบหนีและหลังเกิดหตุก็ได้นำตัวผู้ตายส่งโรงพยาบาลด้วยทางตำรวจจึงให้ประกันตัว แต่อย่างไรก็ตามยืนยันขณะนี้ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งคราบเลือด ร่องรอยในรถ ดีเอ็นเอของผู้ตายและผู้ต้องหา รวมถึงวีถีกระสุนที่ต้องรอผลชันสูตรจากพิสูจน์หลักฐาน

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหานั้นเบื้องต้นให้การว่าวันเกิดเหตุนั้นตนได้ทะเลาะกับผู้ตายเนื่องจากว่าขณะอยู่ในรถนั้นมีหญิงสาวแชทมาหาตนเมื่อผู้ตายเห็นจึงทำให้หึงหวงและทะเลาะกัน ก่อนจะแย่งปืน 11 มม. กัน จนเกิดปืนลั่น ส่วนสาเหตุที่ขึ้นลำปืนนั้นเนื่องจากว่าตนเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงต้องขึ้นลำไว้เพื่อป้องกันตัวเวลาปฏิบัติหน้าที่เพื่อเตรียมความพร้อมตลอดเวลา

ขณะที่นางสาวสุชาดา คุณาชัย อายุ 34 ปี มารดา ของ นางสาวอภัสรา มันทเล อายุ 18 ปี หรือน้องนุ๊ก เปิดเผยว่าหลังจากได้มาติดตามคดีเบื้องต้นทางครอบครัวก็พอใจและจะติดตามการทำงานของตำรวจต่อไปเพื่อขอความเป็นธรรมกับลูกสาวของตนด้วยเพราะผู้ต้องหาเป็นตำรวจ อาจรู้ช่องทางๆกฎหมาย ส่วนการช่วยเหลือนั้น เบื้องต้นนั้นทางครอบครัวพันตำรวจโท ซึ่งเป็นพ่อของผู้ต้องหาได้นำเงินมาช่วยเหลืองานศพลูสาวตน 1 แสนบาทและบอกว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายในการทำศพทุกอย่าง

ขณะที่เพื่อนนักศึกษาที่สนิทของนุ๊กผู้ตายก็ได้เดินทางมาที่ สภ.ช้างเผือกเช่นกันเพื่อติดตามคดีและให้กำลังใจครอบครัวน้องนุ๊กโดยเพื่อนผู้ตายบอกว่าเคยห้ามไม่ให้น้องนุ๊กนั้นคบกับผู้ต้องหาแล้วเนื่องจากเป็นคนที่มีนิสัยอันธพาล ชอบทำร้ายร่างกายน้องนุ๊กและ ข่มขู่เพื่อนของนุ๊กทั้งหญิงและชาย แต่น้องนุ๊กไม่ยอมฟัง กระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น

สำหรับคดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญทำให้ พลตำรวจโทประจวบ วงค์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้ตำรวจ ทุกสภ.เข้มงวดเกี่ยวกับวินัยในการปฏิบัติตัวกับเด็กฝึกงานพร้อมกันนี้ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายซึ่งถ้าหากครอบครัวผู้ตายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกข่มขู่ก็สามารถเข้ามาร้องเรียนกับตนเองได้