เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 มิ.ย.64 ที่ห้องปฎิบัติการพิเศษงานสืบสวน สภ.บ้านฉาง  พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ปาปะคัง ผกก.สถ.บ้านฉาง แถลงว่าได้ติดตามแกะรอยจากภาพวงจรปิด หลังผู้ต้องหาแสดงพฤติกรรมตะเวน “ลักทรัพย์ในเคหะสถานเวลากลางคืน ขณะกำลังขับขี่รถมอเตอร์ไซค์พร้อมของกลางเป็นตู้เซฟ ก่อเหตุจากหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในสนาม กอล์ฟอีสเทิร์นสตาร์   ม.3 ต.พลา อ.บ้านฉาง จำนวน 3 หลัง ทราบว่าตัวผู้ต้องหาคือนายนิพนธ์ หรือดำ ภัทรมานิต อายุ 50 ปี ก่อนนำตัวมาสอบสวนจนสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว

 

ส่วนนายนิพนธ์ หรือดำ ผู้ต้องหาสารภาพว่าตนเองพักอยู่ท้องที่ อ.บ้านค่าย  ระยองโดยระหว่างก่อนที่จะลงมือได้ขับขี่รถเครื่องตะเวนดูลาดเลาในโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ เมื่อสบโอกาสเห็นเจ้าของบ้านไม่อยู่ จึงลงมือเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านแล้วหลบหนีไป ก่อนนำตัวไปทำแผนบ้านผู้เสียหายรายแรกพบว่าใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ และเป็นมืออาชีพมาก เนื่องจากแทบไม่เหลือร่องรอยหลักฐานทิ้งเอาไว้เลย โดยมีการสวมถุงมืออย่างหนาแน่น เพื่อปกปิดร่องรอยก่อนที่จะจอดรถเครื่องไว้ที่ชายป่าหลังโครงการฯ แล้วปีนกำแพงรั้วที่สูงของบ้านผู้เสียหายหลังแรกเข้าไปงัดหน้าต่างเพื่อเข้าไปภายในบ้านพัก ก่อนที่จะยกตู้เซฟโยนลงมาทางหน้าต่างชั้น 2 หากบ้านหลังใดมีกล้องวงจรปิดก็จะถอดเอาเซิร์ฟเวอร์ของกล้องไปด้วย หลังจากนั้นทรัพย์สินมีค่าที่ได้จะนำขึ้นรถประจำทางไปขายท้องที่ กรุงเทพฯ แล้วเงินที่ได้มาจะนำไปเล่นการพนันในบ่อน และใช้จ่ายส่วนตัว

 

ทั้งนี้พบว่าผู้ต้องหามีประวัติต้องโทษคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง จะเลือกก่อเหตุในหมู่บ้านหรูมาอย่างโชกโชน ทั้งในท้องที่ สภ.บ้านค่าย สภ.นิคมพัฒนา และมาจนมุมที่ สภ.อ.บ้านฉางเฉพาะท้องที่บ้านฉาง พบว่ามีเงินในบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านค่ายหมุนเวียน 2 เดือน ร่วมแล้วกว่า 2 ล้านบาทใช้หมดแล้ว ก่อนจะย้อนรอยกับมาเพื่อเตรียมการก่อเหตุครั้งใหม่ แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้น จึงแจ้งข้อกล่าวลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์ไป ก่อนนำตัวส่งรตอ.อุดม  ศรีสงค์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านฉาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป