วันอังคาร ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:54 น.

อาชญากรรม

กสทช.-สตช. กวาดล้างสถานีวิทยุ-เสาสัญญาณเถื่อนแนวชายแดน เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย

วันพุธ ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 17.16 น.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ส.ค.66 พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านป้องกันและปราบปราม, นายไตรรัตน์ วิริยะศิรติกุล รักษาการเลขาธิการ กลทช. , พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., นายสุธีระ พึ่งธรรม ผอ.สำนักกิจการภูมิภาค, นายจาตุรนต์ โชคสวัสดิ์ ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม, พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 และ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สำนักงาน กสทช.และ สอท. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม สถานีวิทยุคมนาคมและเสาสัญญาณผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบส่งสัญญาณโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบัน

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มแก็งมิจฉาชีพได้อาศัยตะเข็บชายแดนเป็นแหล่งกบดานและเป็นฐานก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อคนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก็งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ โดยอาศัยสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณมือถือที่กระจายสัญญาณจากฝั่งไทย โดยมีการลักลอบตั้งสถานีวิทยุคมนาคมเถื่อนกระจายสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตเกินเขตราชอาณาจักร กสทช.ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจชาติ ติดตามตรวจสอบการประกอบกิจการโทรคมนามคมของผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช.และ ตรวจค้นจับกุมการตั้งสถานีวิทยุคมนาคมที่ไม่ได้รับอนุญาตตามแนวชายแดน เพื่อตัดปัจจัยอันเป็นองค์ประกอบสำคัญของการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจพบว่า พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จว.สระแก้ว มีการตั้งสถานีโทรคมนาคมและเสาสัญญาณผิดกฎหมายหลายแห่ง จึงได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวม พยานหลักฐานเพื่อขอหมายศาล จนนำไปสู่การจับกุมในวันนี้ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

กรณีที่ 1 เข้าจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และหันทิศทางสายอากาศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 4 สถานี เป็นความผิดฐาน "มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมและตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต" ตามมาตรา 6 และ 11 แห่ง พรบ.วิทยุคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และความผิดฐาน "ประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่ได้อนุญาต" ตามมาตรา 67 (1) แห่งพรบ.ว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท พร้อมทั้งจับกุมผู้กระทำผิด จำนวน 2 ราย ในการนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ทำการรื้อถอนสถานีวิทยุคมนาคมผิดกฎหมายดังกล่าวทั้งหมด และทำการยึดอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใช้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กรณีที่ 2 พบการตั้งสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ และหันทิศทางสายอากาศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำให้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ข้ามเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเหตุให้พื้นที่การให้บริการ (Senice Area) ของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเกินกว่าอาณาเขตพื้นที่ประเทศไทย และล่วงล้ำไปยังอาณาเขตประเทศข้างเคียง โดยตรวจสอบพบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่เข้าลักษณะดังกล่าว จำนวน 23 สถานี ในกรณีนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมทั้งหมด เร่งแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยให้ถอนการติดตั้งสายอากาศบางจุด หรือ ปรับทิศทางสายอากาศ หรือ ดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด มีให้แพร่สัญญาณคลื่นความถี่ออกนอกเขตพื้นที่ประเทศไทย เพื่อให้พื้นที่การให้บริการ (Senice Area) อยู่ภายในอาณาเขตพื้นที่ประเทศไทย

นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการ สำนักงาน กสทช. และ สอท. ได้ตรวจสอบพบการจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนการใช้งานโดยใช้ชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ใช้งานที่แท้จริงเพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลอื่น จำนวน 50 ซิมการ์ด ในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ จึงได้เข้าตรวจยึดซิมการ์ดดังกล่าว และดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายซิมการ์ด ซึ่งเป็นความผิด ตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ สำนักงาน กสทช. จะร่วมกันปฏิบัติการกับ สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ สแกนพื้นที่บริเวณชายแดนในเขตจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด และขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้แก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เข้าถึงสัญญาณโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตได้ เป็นการตัดแขนตัดขาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ให้กระทำการได้สะดวก ลดการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

หน้าแรก » อาชญากรรม